×

นางแบบสาวยอมรับ แคมเปญโฆษณาเหยียดเชื้อชาติจาก D&G เกือบ ‘ฆ่า’ อาชีพของเธอ

โดย THE STANDARD TEAM
23.01.2019
  • LOADING...

หลายคนคงยังจำกันได้ดีเกี่ยวกับกรณีข่าวฉาวของแบรนด์ยักษ์ใหญ่แห่งโลกแฟชั่นอย่าง Dolce & Gabbana ที่ถูกชาวโลกแอนตี้อย่างหนัก หลังทางแบรนด์ได้เผยแพร่แคมเปญโฆษณา ‘Chopsticks Eating’ ซึ่งเป็นคลิปของนางแบบสาวชาวจีนที่ใช้ตะเกียบกินอาหารอิตาเลียนอย่างพิซซ่าและสปาเกตตีด้วยท่าทีทุลักทุเล จนชาวจีนมองว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติอย่างรุนแรง ก่อเกิดเป็นกระแสดราม่าถึงขั้นชาวเน็ตพากันติดแฮชแท็ก #BoycottDolce พร้อมเผาสินค้าของ D&G ให้ดูกันจะจะผ่านโลกโซเชียลเลยทีเดียว

 

แต่แทนที่ดราม่านี้จะจบลงแบบสวยๆ ด้วยการที่ทางแบรนด์ออกมากล่าวขอโทษ แต่นายสเตฟาโน กับบานา ผู้ก่อตั้ง D&G กลับเลือกราดน้ำมันลงกองไฟ ด้วยการด่ากราดชาวจีนที่มาถล่มแอ็กเคานต์อินสตาแกรมของตัวเองด้วยคำพูดสุดแสบสัน จนทางการจีนประกาศเทแฟชั่นโชว์ของ D&G ที่นครเซี่ยงไฮ้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

 

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จั๋วเหยี่ย (左也) นางแบบสาวชาวจีนซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์ในคลิปวิดีโอเจ้าปัญหาดังกล่าว ได้ออกมาแสดงความรู้สึกของเธอผ่านแพลตฟอร์ม Weibo ว่า เธอรู้สึกผิดและอับอายอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจถึงความจำเป็นของเธอ

 

แม้การได้ร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง D&G ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับอาชีพนางแบบ แต่ในกรณีนี้จั๋วเหยี่ยยอมรับว่า “มันเกือบฆ่าอาชีพนางแบบของเธอ”

 

จั๋วเหยี่ยอธิบายว่า เธอเข้าใจดีว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นการแสดงถึงภาพลักษณ์และวัฒนธรรมจีน ด้วยเหตุนี้เธอจึงรู้สึกผิดและอับอายอย่างยิ่ง โดยเธอได้สัญญาว่าจะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นต่อไปในอนาคต

 

จั๋วเหยี่ยเล่าเรื่องราวของเธอต่อไป โดยเริ่มแรกเธอรู้แค่เพียงว่างานนี้คือการถ่ายทำคลิปการรับประทานอาหารอิตาเลียน แต่เธอก็รู้สึกไม่สะดวกใจเมื่อทีมงานขอให้ทานพิซซ่าและพาสต้าด้วยตะเกียบ โดยผู้กำกับบอกว่าให้เธอทำท่าทางตกใจและกลอกตา ก่อนที่จะเพลิดเพลินไปกับรสชาติของอาหาร ซึ่งเธอกล่าวว่า ตัวเองไม่ได้เห็นคลิปฉบับเต็มก่อนเปิดตัวเสียด้วยซ้ำ

 

หลังเกิดกระแสตีกลับอย่างหนัก จั๋วเหยี่ยกลับไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ ทั้งที่เธอและครอบครัวจะตกเป็นจำเลยสังคม ซึ่งถูกเพื่อนร่วมชาติวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโซเชียลมีเดีย

 

หลังจากที่ จั๋วเหยี่ย ได้โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้จุดประเด็นให้ชาวจีนกลับมาโต้เถียงกันอีกครั้ง โดยบางส่วนออกมาให้กำลังใจว่า เธอสมควรมีโอกาสได้ทำอาชีพที่เธอรักต่อไป และเข้าใจดีว่าเธอไม่มีอำนาจในการตัดสินใจขณะร่วมงานกับ D&G

 

แต่ถึงแม้ชาวเน็ตส่วนหนึ่งจะรู้สึกว่าจั๋วเหยี่ยตกเป็นเหยื่อของ D&G และสงสารที่เธอต้องประสบเคราะห์กรรมเช่นนี้ แต่ก็มีหลายคนที่ยังโกรธแค้นจั๋วเหยี่ย โดยบอกว่าเธอสมควรต้องโทษตัวเอง พร้อมกล่าวว่า เคสนี้เป็นการชี้ให้เห็นถึงปัญหาในอุตสาหกรรมแฟชั่นที่นางแบบไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นใดๆ และมักถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำ

 

ด้าน ดร.จูลี บิลบีย์ จากสาขาสื่อมวลชนและการสื่อสารแห่งมหาวิทยาลัย RMIT University ในเมลเบิร์น ออกมากล่าวว่า ผู้บริโภคชาวจีนไม่ได้ไร้เดียงสา พวกเขารับรู้ได้ถึงความไม่จริงใจและความจอมปลอมอย่างรวดเร็ว และพร้อมจะตอบโต้ออกมาทันที

 

คงจะต้องรอดูกันต่อไปว่าดราม่าครั้งใหม่นี้จะจบลงเช่นไร

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising