×

เรื่องเล่าของก้อนดิน และ ‘ดอกฟ้า’ เพลงเศร้าที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ และคำขอบคุณจากวง LABANOON

07.01.2021
  • LOADING...
เรื่องเล่าของก้อนดิน และ ‘ดอกฟ้า’ เพลงเศร้าที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ และคำขอบคุณจากวง LABANOON

“ดอกฟ้าแค่โน้มลงดิน สุดท้ายก็โบยบินคืนไปสู่แผ่นฟ้า ขอบใจที่เสียเวลา ที่เคยโน้มลงมา ให้ฉันรักเธอ”

 

เป็นอีกครั้งที่เนื้อเพลงเศร้าซื่อ ตรงไปตรงมา ถ่ายทอดผ่านเสียงร้องและดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ใน ‘ดอกฟ้า’ เพลงช้าลำดับที่หนึ่งในอัลบั้มชุดที่ 9 เดลิเวอรี่ ของวง LABANOON ยังคงทำหน้าที่ขับกล่อม และเป็นตัวแทนชีวิตและความรักของคนธรรมดาได้อย่างเรียบง่าย สวยงาม เจ็บปวด และตราตรึงใจ 

 

สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้ตอนฟังเพลง ดอกฟ้า คือความรู้สึกนึกถึงเพลง ‘เกิดมาแค่รักกัน’ ที่สองพี่น้องกบ ขจรเดช และหมู-อภิชาติ พรมรักษา ช่วยกันเขียนขึ้นมาในปี 2003 จนกลายเป็นหนึ่งในเพลงเศร้าที่สวยงามที่สุดของวงบิ๊กแอส 

 

17 ปีผ่านไป กบมารับหน้าที่เขียนเพลงนี้ให้วง LABANOON โดยยังคงคอนเซปต์ ‘เกิดมาแค่เพียงได้รัก สุดท้ายไม่เป็นอย่างฝันฉันยอมทำใจ’ เป็นความรักที่แม้จะเจ็บปวด แต่ขับเคลื่อนด้วยความเข้าใจ และใส่สัญลักษณ์ของ ‘ก้อนดิน’ กับ ‘ดอกฟ้า’ เข้ามาเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น 

 

 

เป็นความรักยิ่งใหญ่ของคนตัวเล็กๆ ที่ยอมปล่อยมือคนรัก เพราะยอมรับความจริงว่าเขาไม่อาจพาความรักไปได้มากกว่านี้ แต่อย่างน้อยที่สุดเขาก็ได้พยายามโอบกอดความรักครั้งนี้ไว้อย่างเต็มที่ และเลือกจากลาไปพร้อมกับความรู้สึก ‘ขอบคุณ’ ที่ดอกฟ้ายอมโน้มตัวลงมาให้เขาได้รัก เพื่อให้ดอกฟ้าโบยบินต่อไป 

 

ในมิวสิกวิดีโอเพลง เกิดมาแค่รักกัน ฉายภาพโรดทริปของคู่รักที่ตัดสินใจขึ้นรถออกเดินทางผ่านเรื่องราวต่างๆ ร่วมกัน จนกระทั่งวันหนึ่งทั้งคู่ได้ค้นพบปัญหาและเรื่องราวมากมายที่แตกต่างจนไม่อาจร่วมเดินทางกันต่อไปได้ สุดท้ายสิ่งที่ทำได้ก็คือแยกจากกัน ณ ทางแยก เพื่อออกเดินทางบนเส้นทางของแต่ละคน 

 

ในมิวสิกวิดีโอเพลง ดอกฟ้า ก็ตอกย้ำภาพนั้นให้ชัดขึ้นไปอีก เริ่มตั้งแต่หนังสั้นที่บอกเล่าความสัมพันธ์ของชายหนุ่มที่เป็นตัวแทนของ ‘ก้อนดิน’ (เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ) และโบตั๋น หญิงสาวที่เปรียบเสมือน ‘ดอกฟ้า’ (มิ้นท์-รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร) ในอดีตกาลและปัจจุบันที่เวลาห่างกัน 70 ปี 

 

ในปี 1950 โบตั๋นคือหญิงสูงศักดิ์หน้าตาสะสวย แต่พิการทางการได้ยิน ชีวิตประจำวันของเธอไม่มีอะไรมากไปกว่าการเข้าพิธี ‘ดูตัว’ ที่มีแต่ภาพซ้ำๆ คือฝ่ายชายถูกใจเมื่อเห็นหน้าตาของเธอ แต่เมื่อรู้ความจริงว่าเธอมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร ทุกคนก็จะทิ้ง ‘ดอกไม้’ ของเธออย่างไม่ใยดี 

 

 

มีเพียงแค่แทน คนรับใช้ประจำบ้านที่ทำหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่ขับรถ ทำความสะอาด ไปจนถึง ‘เช็ดรองเท้า’ ที่หยิบ ‘ดอกฟ้า’ บนพื้นขึ้นมาประคอง ถึงแม้ตัวเขาอาจไร้ค่าในสายตาคนอื่น แต่เขามองเห็นความสวยงามของดอกฟ้าดอกนี้ยิ่งกว่าใคร 

 

เวลาผ่านไปแทนยังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างไม่บกพร่อง กระทั่งวันหนึ่งโบตั๋นขอให้เขาขับรถพาไปเที่ยว เมื่อเห็นแววตาเศร้าหมองของโบตั๋น เขาก็หยิบผ้ามาเช็ดคราบดินที่เปื้อนอยู่บนรองเท้า ราวกับว่าผ้าของเขาไม่ได้มีไว้ซับน้ำตา โชคชะตากำหนดมาให้เขาทำได้เท่านั้น 

 

แทนมอบนกหวีดให้โบตั๋นเป่าทุกครั้งเมื่อไม่สบายใจ และสัญญาว่าเขาจะมาหาเธอทุกครั้งที่ได้ยิน เมื่อได้รับรู้ถึงความรักที่ไม่เคยได้สัมผัส ดอกฟ้าก็ค่อยๆ โน้มตัวลงมาหาก้อนดินมากขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนพ่อของเธอรู้ความจริง และไล่แทนออกจากบ้าน พร้อมกับบอกให้โบตั๋นเตรียมตัวแต่งงานให้เร็วที่สุด 

 

 

สิ่งที่เจ็บปวดที่สุด คือวันที่โบตั๋นเจอคนที่ทั้งสูงศักดิ์ (ตามที่พ่อต้องการ) และยอมรับในสิ่งที่เธอเป็น แทนยังต้องเดินค้อมตัวต่ำเช็ดรองเท้าให้กับชายคนนั้น และกลับมาเช็ดเท้ารองให้โบตั๋น ที่ตอนนี้เป็นสีขาวสะอาดไม่มีรอยเปื้อนให้เขาเช็ดอีกต่อไป 

 

ในคืนสุดท้าย แทนตัดสินใจไม่ตอบรับเสียงนกหวีดที่โบตั๋นเรียกทั้งน้ำตาเพื่อขอให้เขาพาเธอหนีไป ก้อนดินอย่างเขาทำได้เพียงแหงนมองขึ้นไปบนฟ้า แล้วปล่อยให้ดอกฟ้าได้ล่องลอยไปตามสายลม 

 

หลายฉากที่อยู่ในบ้าน ภาพที่เห็นคือแทนจะมองโบตั๋นผ่านหน้าต่างหรือลูกกรง ที่เหมือนจะบอกว่าโบตั๋นถูกจองจำอยู่ในสถานที่แห่งนี้ แต่เขารู้ดีว่าไม่มีทางพาเธอบินหนีออกไป 

 

แม้ไม่มีสิ่งใดยืนยันได้ว่าชีวิตของดอกฟ้าอย่างโบตั๋นจะเป็นอย่างไรในวันที่เขาจากมา แต่แทนรู้สึกว่าเขาได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด แม้เจ็บปวด แต่ไม่โกรธแค้น เขาเดินออกมาด้วยความเข้าใจและปรารถนาดีต่อคนที่เขารักจริงๆ 

 

 

ตัดภาพมาอีกครั้งทั้งคู่เกิดมาในชาติใหม่ ในฐานะเด็กกำพร้าที่รักใคร่และสนิทกันเหมือนพี่น้อง ถึงแม้เวลาจะผ่านไป 70 ปี แต่สถานการณ์ยังคงไม่เปลี่ยน โบตั๋นที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานนึกถึงความหลังได้ก่อน มอบนกหวีดให้กับแทนพร้อมคำพูดที่ว่า 

 

“พี่จำได้ไหม มารับฉันให้ได้นะ อย่าทิ้งฉันไปอีกนะ” 

 

แต่สุดท้ายเมื่อจำเรื่องราวได้ทั้งหมด แทนก็ยังตัดสินใจเหมือนในอดีต ครั้งนี้เขาไม่หนีไปไหน แต่เลือกที่จะทำหน้าที่แขกผู้ใหญ่ส่งตัวเจ้าสาวให้กับเจ้าบ่าวด้วยตัวเอง

 

เขาเดินออกจากพิธีวิวาห์ด้วยน้ำตาที่ไม่มีใครได้เห็น ยืนเป่านกหวีดแห่งความหลังเพียงลำพัง โอบกอดทุกความทรงจำเอาไว้ในส่วนลึก และมอบความรักที่มีแต่ความเข้าใจ ความปรารถนาดี ที่ไม่ต้องมีการครอบครอง เพราะแค่มีเธอเกิดมาให้ได้รักกันก็ดีมากพอแล้ว

 

“ยอมเจ็บช้ำด้วยความยินดี โบกมือทั้งน้ำตา 

ขอบใจที่เสียเวลา ที่เคยโน้มลงมา ให้ฉันรักเธอ”

 

รับชมมิวสิกวิดีโอเพลง ดอกฟ้า ของวง LABANOON ได้ที่

 

 

 

และรับชมหนังสั้นเรื่อง ดอกฟ้า ได้ที่ 

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising