×

กรมอุทยานฯ รับ ไม่คาดคิดว่าคนระดับเปรมชัย ซีอีโออิตาเลียนไทย จะมาทำอะไรแบบนี้

06.02.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ยอมรับเจ้าหน้าที่หละหลวมในการตรวจค้นอาวุธ เพราะไม่คิดว่าคนระดับนี้จะมาทำแบบนี้
  • แหล่งข่าวเปิดเผยว่า มีอดีตผู้บริหารของกรมอุทยานฯ ระดับผู้อำนวยการ ซึ่งปัจจุบันนั่งเป็นที่ปรึกษาบริษัทอิตาเลียนไทย มีส่วนเกี่ยวข้องในการพานายเปรมชัยและคณะเข้าไปล่าสัตว์ในพื้นที่

ประเด็นใหญ่ของวันนี้ (6 ก.พ.) ข่าวการจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน ได้กลางป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมซากสัตว์สงวนและอาวุธพร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก

 

ช่วงบ่ายวันนี้ นางสาวกาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดแถลงข่าวด่วนหลังถูกพาดพิงว่า นายเปรมชัยและคณะเป็นแขกของตนเอง โดยยืนยันว่านายเปรมชัยไม่ใช่แขกส่วนตัว และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ยอมรับว่ามีคนของนายเปรมชัยโทรมาประสานขอเข้าพื้นที่ แต่ตนได้มอบให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่ซึ่งมีอำนาจในการอนุญาต

 

ส่วนเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็ไม่รู้จักคนดังใดๆ เพราะถือว่านักท่องเที่ยวเป็นแขกของเราทุกคน ยืนยันว่ามีการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการละเว้นเพราะเห็นว่าเป็นคนดัง และยืนยันว่าไม่ได้เกรงใจเพราะคณะนายเปรมชัย อ้างว่าเป็นแขกของอดีตผู้บริหารของกรมอุทยานฯ ระดับผู้อำนวยการ

 

 

ยอมรับการตรวจค้นอาวุธหละหลวม-ขาดอุปกรณ์ทันสมัย

“พูดตรงๆ เลยนะ เขาขอมาศึกษาธรรมชาติ แล้วคนระดับนี้ใครจะไปคิดว่าเขาจะมีการกระทำแบบนี้”

 

กาญจนา กล่าวยอมรับเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการตรวจอาวุธก่อนเข้าเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า

 

อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ตามแนวทางปฏิบัติต้องมีการสุ่มตรวจบุคคลและยานพาหนะที่ต้องสงสัย ขณะที่ขากลับจะมีการตรวจถุงดำดูว่ามีการเก็บขยะลงมาด้วยหรือไม่

 

กาญจนา ยอมรับว่า เจ้าหน้าที่ขาดเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น เครื่องตรวจโลหะ จึงไม่สามารถตรวจหาอาวุธหากมีการซุกซ่อนได้ รวมถึงยอมรับด้วยว่าอาจเกิดจากความไม่คาดคิดว่าบุคคลที่มาขอท่องเที่ยวเพื่อศึกษาธรรมชาติจะมีการเตรียมการมาก่อเหตุแบบนี้

 

 

สังคมคาใจคณะเปรมชัยไปพื้นที่นอกเส้นทางได้อย่างไร

กาญจนา กล่าวว่า การเข้าพื้นที่เพื่อท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ มีการกำหนดทางเข้า 4 เส้นทาง โดยแต่ละเส้นทางจะกำหนดชัดเจนว่าสามารถเข้าไปได้กี่วัน รวมถึงกำหนดขนาดรถยนต์ และไม่อนุญาตให้ใช้เส้นทางน้ำเด็ดขาด

 

 

กาญจนา บอกว่า สาเหตุที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลระหว่างตั้งแคมป์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีจำนวนน้อย ซึ่งโดยปกติการตั้งแคมป์พักจะไม่ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ไปตามประกบดูแล เว้นแต่การเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติซึ่งจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยนำทาง

 

ขณะที่ข้อสงสัยว่าการล่าสัตว์ใหญ่ขนาดนั้นต้องมีความชำนาญพื้นที่พอสมควร

 

กาญจนา ยืนยันว่า จากข้อมูลพบว่าบุคคลที่ถูกจับกุมทั้ง 4 คน มีประวัติเดินทางเข้าพื้นที่เป็นครั้งแรก ส่วนจะเคยมีการแอบลักลอบเข้ามาก่อนหน้านี้หรือไม่คงไม่สามารถตอบได้

 

 

ลำดับเหตุการณ์ คณะนายเปรมชัย ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

คณะนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน เข้าไปท่องเที่ยวในเส้นทางสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก-หน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง-หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช โปรแกรม 2 วัน 1 คืน (เส้นทางที่เปิดให้ท่องเที่ยวชื่อ ทินวย-ทิคอง-มหาราช ระยะทาง 30 กิโลเมตร) เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา

 

โดยวันที่ 4 ก.พ. ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้บอกให้คณะนายเปรมชัยกลับเข้าที่พัก แต่คณะนายเปรมชัยไม่ยอมกลับมา

 

จากนั้นช่วงกลางดึก เจ้าหน้าที่ประจำจุดซึ่งมีเพียง 4 คน ได้ยินเสียงปืน จึงขอกำลังเสริมเพื่อขอขึ้นไปตรวจสอบ จึงพบว่าคณะนายเปรมชัย ลักลอบตั้งแคมป์พักแรมในจุดบริเวณห้วยปะชิ ซึ่งเป็นเขตที่ไม่ได้รับอนุญาต พร้อมตรวจพบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนพร้อมใช้งาน

 

รวมถึงพบซากไก่ฟ้าหลังเทากับเนื้อเก้ง จึงได้ควบคุมตัวนายเปรมชัย กรรณสูตร และคณะมาที่สำนักงานเขตฯ ถึงในเวลา 2.40 น. ของคืนวันที่ 4 ก.พ.

 

จากนั้นช่วงเช้า ของวันที่ 5 ก.พ. ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติม พบ ซากเสือดำถูกชำแหละเนื้อและหนังแล้ว กับเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนมากที่ถูกซุกซ่อนไว้บริเวณแคมป์พัก

 

 

เปิดบันทึกจับกุม คณะเปรมชัย ล่าสัตว์กลางทุ่งใหญ่นเรศวร

รายงานข่าวเปิดเผยบันทึกการจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารอิตาเลียนไทย ตั้งเต็นท์พัก โดยพบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ ไก่ฟ้าหลังเท่า ซากเนื้อเก้ง และยังพบซากเสือดำถูกชำแหละและถลกหนัง พร้อมอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก จึงทำการจับกุมเพื่อส่งดำเนินคดี สภ.อ.ทองผาภูมิ

 

 

โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการสืบสวนทางคดีถึงความผิดต่างๆ โดยพบอาวุธปืน เครื่องกระสุนจำนวนมากหลากหลายยี่ห้อ อาวุธปืนยาว (ปืนไรเฟิล) ยี่ห้อ Steyr-mannlicher-M หมายเลขตัวปืน 201820 ทะเบียนอาวุธปืน กท.2850473

 

อาวุธปืนยาวลูกซองแฝดเบอร์ 20 ยี่ห้อ Aya-aguirre & Aranzabal – Made in Spain หมายเลขตัวปืน 378 และปรากฏเลขทะเบียนอาวุธปืน กท.4552202

 

และอาวุธปืนยาวขนาด .22 ยี่ห้อ CZ 452 ZKM SCOUT CZ-USA, Kansas City, US หมายเลขตัวปืน 778590  

 

โดยผู้ร่วมกระทำผิดกับนายเปรมชัยที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมด้วยมีอีก 3 ราย คือ นายยงค์ โดดเครือ อายุ 65 ปี นางนที เรียมเสน อายุ 43 ปี นายธานี ทุมมาศ อายุ 56 ปี

 

 

ขณะที่เพจเฟซบุ๊กกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โพสต์ความผิดของคณะนายเปรมชัย 6 ข้อหา ดังนี้

 

1. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

 

2. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 16 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

 

3. ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

 

4. ฐานนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามข้อ 1 (1) ของกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2538) ออกตามความตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535

 

5. ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507

 

และ 6. สำหรับความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษตามฐานความผิดต่อไป

 

กาญจนา บอกว่าอำนาจหน้าที่ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนของกรมอุทยานฯ คือ มีอำนาจเพียงทำบันทึกการจับกุมให้รัดกุมที่สุด โดยล่าสุดได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ส่วนกลางลงไปเพื่อช่วยทำบันทึกจับกุมแล้ว ขณะที่บทลงโทษตามกฎหมายถือว่าไม่รุนแรง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงกฎหมายเพื่อเพิ่มโทษ โดยกฎหมายดังกล่าวอยู่ในชั้นกฤษฎีกา

 

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเปิดเผยว่า อดีตผู้บริหารของกรมอุทยานฯ ระดับผู้อำนวยการ ซึ่งปัจจุบันนั่งเป็นที่ปรึกษาบริษัทอิตาเลียนไทย มีส่วนเกี่ยวข้องในการพานายเปรมชัยและคณะเข้าไปล่าสัตว์ในพื้นที่ดังกล่าว

 

สำหรับเขตป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก มีพื้นที่ 1.3 ล้านไร่ ถูกขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่มรดกโลก เพราะมีความหลากหลายทางธรรมชาติสูง ข้อมูลจากกรมอุทยานฯ ล่าสุด เขตพื้นที่ดังกล่าวมีเสือโคร่งอาศัยอยู่ประมาณ 100 ตัว ส่วนเสือดำและเสือดาว มีประมาณ 100-130 ตัว

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X