×

สัมภาษณ์พิเศษผู้บริหาร Divana ว่าด้วยเรื่อง Wellness ที่ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือความจำเป็นที่จะนำพาสุขภาพดีแบบยั่งยืน

14.03.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 MINS. READ
  • คำว่า Wellness ในปัจจุบันที่ไปไกลเกินกว่าคำว่า ‘เทรนด์’ ไปแล้ว ตง-ธเนศ จิระเสวกดิลก วิเคราะห์ว่าอีกไม่เกิน 30 ปี คนไทย 3 ใน 4 ของประเทศจะกลายเป็นคนเมือง ซึ่งเป็นที่มาของการพัฒนา Urban Wellness แพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดของ Divana ที่จะมาตอบโจทย์ Pain Point ของคนเมืองโดยเฉพาะ
  • การเกิดขึ้นของ Divana Wellness Academy เพราะต้องการผลิตบุคลากรเพื่อเติมเต็มในธุรกิจสุขภาพ ไม่ว่าจะในประเทศไทย ในอาเซียน หรือทั้งโลก เพื่อให้บุคลากรที่ผ่านกระบวนการฝึกฝนของ Divana มีความเป็นมืออาชีพในระดับที่ได้มาตรฐานการดูแลรักษาที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

THE STANDARD POP ได้รับโอกาสดีในการสัมภาษณ์พิเศษผู้บริหารที่ปลุกปั้นธุรกิจสปาและสุขภาพแบรนด์ Divana โดย ตง-ธเนศ จิระเสวกดิลก จะมาบอกเล่าถึงกระแสของ Wellness ในปัจจุบันที่ไปไกลเกินกว่าคำว่า ‘เทรนด์’ ไปแล้ว เขาวิเคราะห์ว่าอีกไม่เกิน 30 ปี คนไทย 3 ใน 4 ของประเทศจะกลายเป็นคนเมือง ซึ่งเป็นที่มาของการพัฒนา Urban Wellness แพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดของ Divana ที่จะมาตอบโจทย์ Pain Point ของคนเมืองโดยเฉพาะ 

 

นอกจากนี้ โรส-อภิรดี หิรัญรามเดช R&D Director จาก Divana Group ยังมาช่วยบอกเล่ารายละเอียดของโปรแกรมดังกล่าว รวมถึงการพัฒนาบุคลากรโดยโรงเรียนสอนนวด หรือ Divana Wellness Academy ที่เน้นสร้างคน สร้างอาชีพ และยกระดับบุคลากรของธุรกิจสปาและสุขภาพให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะนำไปสู่การแก้ไข ป้องกัน และนำพาสุขภาพและความสุขอย่างยั่งยืนให้กับทุกคนได้ 

 

 

ทำไมคุณจึงมองว่า Wellness ไปไกลกว่าคำว่า ‘เทรนด์’ 

ธเนศ: การที่ผมบอกว่า Wellness มันไปไกลเกินกว่าคำว่าเป็นเทรนด์แล้วก็เพราะตอนนี้มันจะกลายเป็น Essential of Life ที่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตไปแล้ว ผมอยากให้นึกภาพตอนนี้ โรคโควิด-19 ก็มา ปัญหาฝุ่น PM2.5 ก็ยังไม่หายไป อะไรก็ตามที่มันเกิดขึ้นในโลกนี้ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนก็ตาม มันกระทบถึงกันทั้งหมดและเร็วมาก โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพและการใช้ชีวิตของคน ดังนั้น Wellness มันจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนที่ไม่ใช่แค่เทรนด์เหมือนที่ผ่านมา การพัฒนา Wellness ก็จะมีการพัฒนามากขึ้นและลึกขึ้น ทั้งในเชิงมิติของการแพทย์ที่มีเทคโนโลยีเข้ามา มีเครื่องมือเครื่องใช้ที่ช่วยทำให้ชีวิตของเรายืนยาวขึ้น ขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงเข้ากับดิจิทัลเทคโนโลยี สามารถใช้ประโยชน์จากความเป็น Wellness มากขึ้น และในมิติของไลฟ์สไตล์มันก็จะเข้าไปสู่ชีวิตประจำวันของทุกคน จากเดิมที่ Wellness เป็นเพียงการรักษาเยียวยา ปัจจุบันมันเป็น Preventive คือการป้องกันในทุกๆ วัน ทุกๆ มิติ และทุกเส้นทางที่เราเจอมันจะมีความเป็น Wellness เข้าไปอยู่ในนั้น แม้กระทั่งสินค้าอุปโภคบริโภคมันก็จะกลายเป็น Wellness เพราะเป็นสิ่งจำเป็นของชีวิต และเป็นสิ่งที่ทุกคนตระหนักและรู้ว่าอันนี้คือการทำให้คนเราป้องกันและดูแลตัวเองได้ ภาพของ Wellness มันจะใหญ่ขึ้นแน่นอน และจะเข้าถึงได้ลึกขึ้น 

 

 

นั่นทำให้ Divana คือแบรนด์ที่เกิดจาก Wellness ตั้งแต่แรก?

ธเนศ: Divana เองเกิดจาก Wellness อยู่แล้ว ตั้งแต่เริ่มต้นที่เราทำธุรกิจสปาตอนนั้นเพื่อผ่อนคลาย ทำให้คนมีความสุข แข็งแรง และบรรเทาความเครียดให้ลดน้อยถอยลงไป สุดท้ายกลายเป็นความสุขแล้วได้กลับไปทำงานต่อ ต่อมาสิ่งเหล่านี้ก็ขยายออกไป เราเริ่มมอง Wellness ในเชิงที่ลึกขึ้น เราเข้าไปสู่ในเรื่องของการแพทย์ ทำ Medical Spa เพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นต้นตอและสาเหตุของปัญหา กระทั่งต่อยอดออกมาเป็น Aesthetic Clinic เพื่อดูแลในเรื่องของความงามและส่วนของการชะลอวัย (Anti-Aging) เป็นหนึ่งในสิ่งที่คนทั่วไปต้องการมากขึ้น และเราก็ก้าวไปสู่ความเป็น Wellness Lifestyle ดังนั้นคีย์ของ Divana คือการทำเรื่องสุขภาพ โดยวิสัยทัศน์ของเรา เราบอกว่าตัวเองเป็นผู้ดูแลสุขภาพ เป็นผู้ที่แบ่งปันเรื่องสุขภาพและความสุขให้กับคนทุกระดับได้อย่างยั่งยืน ซึ่งมันคือการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Medicine) ทำให้เรื่องของ Wellness กลายเป็นหัวใจของ Divana

 

 

ปัจจัยที่ทำให้ Divana เข้ามาจับเรื่องของ Urban Wellness คืออะไร 

ธเนศ: ปัจจุบันเราเห็นการเติบโตของเมืองที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมากมาย อีกไม่เกิน 30 ปี คนไทย 3 ใน 4 ของประเทศจะกลายเป็นคนเมือง เราเห็นภาพกลุ่มคนเมืองตรงนี้มีการขยายตัวขึ้น สังเกตจากตอนนี้ Megacity เกิดขึ้นทั้งในภาคเหนือและภาคใต้ มีการเชื่อมโยงของระบบการขนส่งที่วันข้างหน้าจะมีรถไฟความเร็วสูง จะมีเรื่องของระบบขนส่งมวลชนต่างๆ ที่จะเชื่อมต่อกันได้รวดเร็วขึ้น แม้แต่ในกรุงเทพฯ เอง เราก็จะไม่มีชานเมืองแล้ว เพราะมีรถไฟฟ้าขยายไปไกลมากขึ้น จากนี้ไปทุกอย่างจะเติบโตแบบรวดเร็ว ประมาณ 60% ของโลกจะกลายเป็นคนเมือง นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในโลก พอเราเติบโตกันมากขึ้น คนก็จะรวมตัวกันอยู่แบบกระจุกมากขึ้น ความเป็นคนเมืองจะมีการอุปโภคบริโภคกันมากขึ้น เพราะฉะนั้นมลภาวะตามมาแน่นอน ทั้งมลภาวะที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น เชื้อโรคต่างๆ หรือมลภาวะทางจิตใจ อย่างการที่เราต้องแข่งขันกันก็ทำให้เกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว นอนไม่หลับ หรือซึมเศร้า ดังนั้นการที่ Divana สั่งสมองค์ความรู้มากว่า 20 ปีในด้านสุขภาพแบบองค์รวม ที่เน้นทั้งด้านการดูแลและป้องกันแก้ไขเพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนและมีความสุข เราสามารถนำองค์ความรู้มาเชื่อมต่อกันเพื่อแก้ปัญหาของคนเมือง เราก็ต้องเชื่อมต่อรูปแบบของคนเมืองโดยใช้แพลตฟอร์ม เราจึงทำเป็นแพลตฟอร์ม Urban Wellness ขึ้นมา 

 

 

อยากทราบเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Urban Wellness ให้มากขึ้น
ธเนศ: Urban Wellness เปรียบเสมือนคอมมูนิตี้ในการเชื่อมโยงคนที่ใส่ใจและต้องการดูแลสุขภาพเข้ามาอยู่ร่วมกัน หลังจากนั้น Divana เองก็จะนำองค์ความรู้ของเราดีไซน์มันออกมา และส่งต่อเข้าไปในลักษณะของแพลตฟอร์ม Urban Wellness ซึ่งสามารถตรวจสอบสภาวะผ่าน Wellness Performance Check ว่าดูแล้วสภาวะในเรื่องความสุขด้าน Wellness ของแต่ละคนเป็นอย่างไร เราเช็กง่ายๆ จาก 3 มิติ คือเรื่องของร่างกายว่ามีปัญหาตรงไหนที่ไม่สมบูรณ์บ้าง เช่น โรคออฟฟิศซินโดรม, โรคภูมิแพ้, โรค NCDs หรือ Non-communicable diseases (โรคที่เกิดจากนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิต) ซึ่งจะเห็นจากการเช็ก ทั้งปัญหานิ้วล็อก การปวดหลังที่เกิดจากการนั่งผิดที่หรือผิดท่า นำไปสู่การที่เราจะสามารถตรวจสอบด้านจิตใจจากปัญหาความเครียด ปัญหาการนอนไม่หลับ หรือการเป็นโรคซึมเศร้าต่างๆ เมื่อไรที่ร่างกายกับจิตใจมาบรรจบกัน การรักษาร่วมกันจะนำไปสู่การเพิ่มพลังงานให้กับจิตวิญญาณ ซึ่งมิติทั้ง 3 อย่างนี้จะไปอยู่ในแพลตฟอร์ม Urban Wellness ของเรา

 

 

จุดเด่นของโปรแกรม Urban Wellness 

อภิรดี: ทางโรงเรียนของเราจะมีทีมแพทย์แผนไทย ก็จะมีเคสลูกค้าที่ปกติแล้วจะเข้ามาปรึกษาแพทย์แผนไทย แล้วมีการวิเคราะห์ออกมาว่า 5 จุดที่คนส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาของการเป็นออฟฟิศซินโดรมคือ คอบ่าไหล่ นิ้วล็อก ไมเกรน ปวดหลังส่วนล่าง ปวดบริเวณขา เรามองว่า 5 อาการเหล่านี้เราควรนำมาดีไซน์เป็น Treatment Program สำหรับ Urban Wellness เพื่อตอบโจทย์ Pain Point ของคนในปัจจุบัน ซึ่งเราดีไซน์เป็นทรีตเมนต์ที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่จะเป็น 30 นาทีที่พอนวดเสร็จปุ๊บเขาจะรู้สึกว่าเต็มอิ่มมาก การที่เราเน้นในแต่ละจุดก็จะเป็นจุดที่เรารู้แล้วว่าเป็น Trigger Point ในศาสตร์แผนไทย จะช่วยในการคลายกล้ามเนื้อ เวลากดปุ๊บ จากเดิมที่มันเกร็ง พอกล้ามเนื้อคลายตัว อาการปวดก็จะหาย การดีไซน์ทั้งหมดจึงตั้งใจเพื่อให้ตอบโจทย์ว่าพอนวดไปแล้วอยากให้ตัวเบา อย่างปัญหาไมเกรน เรามีเทคนิคพิเศษคือใช้หยกเข้ามาช่วย เพราะเวลาคนเราเป็นไมเกรน สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นคือมีความร้อนในร่างกาย ในศาสตร์แพทย์แผนไทยเขาบอกเลยว่าบริเวณที่เกิดไมเกรนจะเป็นจุดที่มีการถ่ายโอนความร้อนของร่างกาย เราใช้หยกในการดูดความร้อน เพราะหยกมีฤทธิ์เย็นที่ช่วยดูดความร้อนออกจากร่างกายได้ดี หรือคนไหนที่ปวดบริเวณหลังล่าง แสดงว่าเป็นคนที่มีพฤติกรรมการนั่งท่าเดิมนานๆ เราทรีตเมนต์อาการนี้ด้วยการครอบแก้ว ดึงและนวดเพื่อทำให้เกิดการหมุนเวียนของกล้ามเนื้อและเลือดที่อยู่ใต้กล้ามเนื้อด้วย 

 

 

 

ผลตอบรับจากการเริ่มใช้โปรแกรม Urban Wellness 

อภิรดี: เราเริ่มต้น Test Run แล้วผลตอบรับดีมาก เพราะทำให้เรารู้ว่า Pain Point ของคนอยู่ตรงไหน ทุกคนจะสามารถประเมินอาการปวดได้เลย เราจะทราบแบ็กกราวด์ของแต่ละคนเลยว่าไลฟ์สไตล์เขาเป็นอย่างไร เวลาคุณหมอดูจากแอปพลิเคชันก็จะให้คำแนะนำได้ถูกว่าควรจะกลับไปปรับไลฟ์สไตล์ของตัวเองอย่างไรเพื่อลดหรือแก้ไขอาการปวดต่างๆ ไม่ให้เกิดขึ้นอีก อย่าง Urban Wellness จริงๆ เรามีอีกส่วนที่เรียกว่าเวิร์กช็อป ดีไซน์มาเพื่อให้ความรู้กับคนที่อยู่ในออฟฟิศทั่วไปได้รู้ว่าหลังจากการนวดแล้วเขาควรปรับตัวอย่างไรให้อาการเหล่านี้ไม่กลับมา หรือช่วยให้ระยะเวลาที่มันจะกลับมาเป็นอีกครั้งยาวนานออกไปมากที่สุด ดังนั้นสิ่งที่นอกเหนือจากการรักษาแล้ว เรายังทำเรื่องของ Lifestyle Adjust ด้วย หลังจากทำทรีตเมนต์แล้วเราจะทำการเก็บข้อมูลหลังการนวดว่าเป็นอย่างไร เพื่อเช็กว่าหลังการรับบริการแล้วลูกค้ามีความพึงพอใจมากน้อยแค่ไหน   

 

 

ธเนศ: อันนี้ถือเป็นเฟสแรกของ Urban Wellness ที่ Divana ทำ หมายถึงว่าเรามาโฟกัสที่การแก้ Pain Point ของคนทำงาน เราก็ดีไซน์ตัวบริการที่มาช่วยแก้ปัญหาให้ หลังจากนั้นมันจะไปเติมเต็มในส่วนอื่นๆ อย่าง Rolling Oil หรือ Sleeping Spray เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ที่มาเติมเต็ม และเราก็คอยตรวจสอบ วิเคราะห์ และคอยประเมินอยู่ตลอดเวลา จนทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วสาเหตุหรือต้นตอคืออะไร แล้วมาปรับในเรื่องของไลฟ์สไตล์และพฤติกรรม สิ่งที่เราทำได้คือการแก้ปัญหาตั้งแต่ปลายเหตุ แล้วไล่กลับไปจนเจอต้นตอของปัญหาได้ ที่สำคัญคือออฟฟิศซินโดรมเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนเมืองทั้งโลกก็ว่าได้ 

 

จุดแข็งของ Divana คือเรามีประสบการณ์ทำงานด้านบริการมากว่า 20 ปีที่เข้าสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทั้งหมด ทั้งในเรื่องของการทำสปา การทำคลินิก การทำคาเฟ่ แม้กระทั่งการทำผลิตภัณฑ์ รวมถึงโรงเรียนสอนนวด หรือ Divana Wellness Academy มันเห็นภาพใหญ่ของ Wellness ในหลากหลายมิติ และเราก็นำเอาประสบการณ์เหล่านี้กลั่นกรองออกมาเป็นโมเดล เป็นแพลตฟอร์ม เป็นบริการ เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในแต่ละมิติที่เราไปพบเจอ จุดแข็งต่อมาคือความเป็นมืออาชีพที่เรามีอยู่ เรามีทีมงานของไม่ว่าจะเป็นแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์เฉพาะทาง แพทย์ทางเลือก แพทย์แผนไทย และแม้กระทั่งเทอราปิสต์เอง เราก็มี Divana Wellness Academy ที่ฝึกและผลิตบุคลากรที่มีความเป็นมืออาชีพในมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งต้องผ่านทั้งกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขเอง บวกกับประสบการณ์ทำธุรกิจด้านสปาและสุขภาพแบบองค์รวมมากว่า 20 ปี ดังนั้นความเป็นมืออาชีพจึงถูกใส่เข้าไปในทุกๆ กระบวนการอยู่แล้ว และสุดท้ายที่เป็นจุดแข็งคือเรื่องของบริการ ซึ่งตัว Process Service Design เราทำออกมาเป็นโมเดลเพื่อจะนำไปใช้ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านมาตรฐานเดียวกันและมีประสิทธิภาพ 

 

 

Divana Wellness Academy เกิดขึ้นได้อย่างไร

อภิรดี: Divana Wellness Academy เราเริ่มต้นเปิดเมื่อปีที่แล้ว จุดเริ่มต้นคือตั้งใจจะสร้างบุคลากรในสายงาน Wellness อยู่แล้ว พอโรสมีโอกาสได้พบกับเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ก็จะมีกลุ่มเด็กที่ต้องการฝึกอาชีพและต้องการมีงานทำ ซึ่งเด็กเหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่ขาดโอกาส และทาง Divana เองก็มองว่าถ้าเรามีโอกาสที่จะสร้างเด็กกลุ่มนี้ให้มีอาชีพได้ก็เป็นเรื่องที่น่าทำ จึงร่วมกับทาง Divana ให้ทุนเด็กไปเลย 1 ปีเพื่อต้องการบ่มเพาะเขา จากจุดเริ่มต้นที่มีเด็กเข้ามาเป็นนักเรียนทุนในสถาบันของเราทั้งหมด 7 รุ่น รุ่นละ 30 คน ซึ่งเด็กกลุ่มนี้เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 18 ปี ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่อายุ 45 ปี วิธีการก็จะเริ่มตั้งแต่สัมภาษณ์ทดสอบทัศนคติว่าเขามีความพร้อมที่จะเรียนรู้และทำงานสายนี้ได้หรือไม่ เราสามารถที่จะให้ข้อมูลที่เป็นเทคนิคการนวดต่างๆ ได้หรือเปล่า แม้แต่สาวโรงงานที่ถูกเลิกจ้างก็เข้ามาฝึกอาชีพกับเราเหมือนกัน ไม่ว่าก่อนหน้านี้คนเหล่านี้จะเป็นใครมาจากไหนก็ตาม แต่ถ้าเขามีทัศนคติที่ดีและมีความพยายามจริงๆ เขาก็สามารถเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ 

 

 

โรงเรียนของเราเกิดขึ้นจากการที่เราอยากมอบโอกาสให้กับคนที่ขาดโอกาส จนตอนนี้เรากลายเป็นโรงเรียนที่สร้างบุคลากรให้กลายเป็นมืออาชีพด้านการนวดที่มีมาตรฐานของ Divana และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และคนที่เป็นสุดยอดฝีมือของเรา เมื่อวันหนึ่งเขาอายุมากขึ้นจนนวดไม่ไหวแล้วจริงๆ เขาจะมีอาชีพต่อด้วยการผันตัวมาเป็นคุณครูในโรงเรียนของเรา มีเคสหนึ่งที่อยากเล่าให้ฟังเกี่ยวกับพนักงานคนหนึ่งของเราที่เข้ามาเป็นนักเรียนในโรงเรียน เธอเป็นสาวโรงงานมาก่อน ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการนวดเลย พอเข้าไปสอบเพื่อจะฝึกงานในสปา ปรากฏว่าสอบตก ซึ่งประกอบด้วยภาคทฤษฎีในเรื่องของบริการ เรื่องภาษาที่เป็นเบสิกของเทอราปิสต์ และเรื่องการนวด เขาต้องสอบให้ผ่านก่อนจึงจะมีโอกาสเข้าไปเก็บเคสฝึกงาน แต่เผอิญว่าสาวโรงงานคนนี้เรียนรู้ช้ากว่าคนอื่นและสอบตก จนเขาท้อว่าถ้าไปสอบอีกครั้งแล้วไม่ผ่านอีกเขาจะยอมแพ้แล้วนะ เขาคิดว่าอาชีพนี้คงไม่เหมาะกับเขา พอเพื่อนๆ ในรุ่นที่สอบผ่านได้ยินก็บอกว่า ไม่ได้สิ เราต้องไปด้วยกัน เขาก็ขอใช้ห้องที่โรงเรียนในวันหยุด รวมตัวกันมาสอนเพื่อนคนนี้ที่สอบตก จากที่นั่งร้องไห้และคิดจะถอย แต่พอตั้งใจเรียนรู้จากที่เพื่อนๆ มารุมติวให้ ปรากฏว่าเขาทำได้ เขาสอบผ่าน ก็ได้ไปอยู่สาขาที่ทองหล่อ แล้วปรากฏว่าเดือนที่ 2 ของการทำงาน เขาได้คะแนนประเมินความพึงพอใจจากลูกค้าสูงที่สุดของสาขานั้น คือ Divana จะมีเงินรางวัลให้สำหรับเทอราปิสต์ที่ได้คะแนนโหวตจากลูกค้าสูงสุด เขาดีใจมาก กลายเป็นว่าครูและเพื่อนทุกคนที่รู้ข่าวนี้ก็ดีใจกันหมดเลย ทุกคนจึงมาช่วยกันถ่ายวิดีโอเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับรุ่นน้องว่า “ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าเราไม่ยอมแพ้”

 

 

 

เป้าหมายต่อไปของ Divana ในด้าน Wellness 

ธเนศ: ถ้ามองแบบภาพใหญ่ เรามองว่าคนไทยและประเทศไทยมีความพร้อมและศักยภาพสูงมากในการเป็น Wellness Heart of the World ได้ สิ่งที่เราทำมาตั้งแต่ต้น เรามีประเพณี เรามีองค์ความรู้ที่ถูกสั่งสมมาแต่โบราณ และในปัจจุบันเราก็มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ของไทยล้ำสมัยและไม่แพ้ใคร โดยเฉพาะในเรื่องหัตถการและความสามารถในการคิดค้นและแก้ปัญหาของโรคใหม่ๆ โรคยากๆ เราก็ดูแลได้ พอมาในส่วนของ Wellness เชิงป้องกันหรือ Preventive ทั้งด้านของสปา ด้านการนวด ด้านของสมุนไพรต่างๆ มันกลายเป็นสิ่งที่โลกโฟกัส และถ้าเราจะขยายต่อ เราก็เอาสิ่งที่มีทั้งหมดมาทำให้มันแข็งแรง ทำให้เป็นภาพที่ชัดเจน และสื่อสารให้ทั้งโลกได้เห็นภาพ ซึ่งการจะเป็น Wellness Heart of the World มันจึงเป็นเป้าหมายที่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน สิ่งที่ Divana ทำนอกเหนือจากการเป็นผู้ให้บริการด้าน Wellness Service แล้ว อีกส่วนหนึ่งเราก็ต้องการผลิตบุคลากรเพื่อเติมเต็มในธุรกิจสุขภาพ ไม่ว่าจะในประเทศไทย ในอาเซียน หรือทั้งโลก เพื่อให้บุคลากรที่ผ่านกระบวนการฝึกฝนของเรามีความเป็นมืออาชีพในระดับที่ได้มาตรฐานการดูแลรักษาที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ผมมองว่ามันเป็นการยกระดับความพร้อมในเรื่องของการเตรียมพร้อมขยายตัวธุรกิจด้านสุขภาพของไทยให้เป็นศูนย์กลางได้จริงๆ ถ้าเมื่อไรที่บุคลากรของเรามีอย่างพอเพียงจนสามารถส่งต่อและขยายออกไป มันคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เราสามารถขยายองค์ความรู้ของเราออกไปให้โลกได้รับรู้ด้วย โรงเรียนของเราก็เป็นหนึ่งหัวใจที่สำคัญในการสร้างมาตรฐานของธุรกิจสปาและสุขภาพของไทยให้เป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จักของโลก

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X