วันนี้ (16 กุมภาพันธ์) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงภายหลัง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจพาดพิงในประเด็นบัญชีทรัพย์สิน ว่าตนเป็นนายกรัฐมนตรีมา 6 ปีแล้ว รู้กติกาเป็นอย่างดี และได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินครั้งที่สองไปแล้ว ส่วนจะเปิดเผยเมื่อไรก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ส่วนประเด็นเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ ตนขอให้ผู้ที่นำข้อมูลมาจากสื่อโทรทัศน์ที่เป็นข้อมูลดิบ ต้องหาหลักฐาน เช่น พยานบุคคล หรือวัตถุพยานมาด้วย และไปฟ้องร้องเอาข้างนอก ก็จะไปสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนจะใช่หรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าที่กล่าวหามาไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง
ส่วนข้อกล่าวหาการบริหารประเทศในสถานการณ์โควิด-19 พล.อ. ประยุทธ์ ยืนยันว่า สิ่งที่ทำมาตรงกันข้ามสิ้นเชิงกับสิ่งที่ถูกกล่าวหาทั้งหมด เพราะส่วนตัวไม่นิยมชมชอบกับการเล่นพนันขันต่อ ซึ่งเป็นการขัดกับกฎหมายและศีลธรรมด้วย “โจรขึ้นยังเหลือบ้าน ไฟไหม้ยังเหลือที่ แต่เล่นพนันไม่เหลืออะไรสักอย่าง” ยืนยันตนได้สั่งการและกำกับดูแลให้ตำรวจและฝ่ายปกครองกวดขันอย่างจริงจัง และเมื่อสามารถจับกุมได้ ตำรวจในพื้นที่ก็จะต้องรับผิดชอบ และเมื่อสอบข้อเท็จริงก็ได้คำสั่งย้ายตั้งแต่ระดับรองผู้การ ไปจนถึงผู้การแล้ว 51 ราย และสอบสวนต่อว่ามีการปล่อยปละละเลยหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ารู้เห็นเป็นใจก็ได้สั่งให้ลงโทษสถานหนัก
พล.อ. ประยุทธ์ย้ำว่า การแก้ปัญหาบ่อนไม่ใช่เรื่องง่าย เหมือนที่ผู้อภิปรายก็พูดอย่างนั้น ในอดีตที่ท่านทำมา ทราบว่าลูกน้องของท่านขณะนี้ก็เป็นใหญ่เป็นโต “พี่สอนน้องมาอย่างไร น้องก็ทำอย่างนั้น ตนไม่อยากให้โทษกันไปกันมา” เบื้องต้นตนก็สงสัยว่าทำไมถึงจับได้เฉพาะแค่คนเล่น ก็ได้สั่งการให้ไปตรวจสอบเครือข่าย พร้อมย้ำตนไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง อย่ามาพาดพิงหรือหมิ่นประมาทกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินการจับกุมตาม พ.ร.บ. การพนัน 3 ปี กว่า 3.5-5 หมื่นคดี พร้อมย้ำว่านี่ไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน เจ้าหน้าที่ต้องรอบคอบ ต้องมีพยานบุคคล มีหลักฐาน ก็มีหลายคดี เช่น บ่อนระยอง ชลบุรี จันทบุรี บ่อนลอยฟ้า กทม. และคดีเสี่ยโป้ ที่มาจับตอนนี้ เพราะตนได้ประกาศให้ทุกคนช่วยรัฐบาล ส่งข้อมูลมานำสู่การจับกุม “บาทเดียวผมก็ไม่รับ เงินชั่วๆ ไม่รับ ผมรับแต่สิทธิประโยชน์ของผมตามกฎหมายเท่านั้น”
ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะหยิบโทรศัพท์เปิดข้อความเสียงตอบโต้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ถึงประเด็นที่ระบุว่า นายกฯ พูดว่า เรื่องบ่อน 100 นายกฯ ก็แก้ไขไม่ได้ว่า เป็นการบิดเบือนคำพูดตน เพราะข้อเท็จจริงตนพูดว่า “การแก้ปัญหาจะไม่สามารถลุล่วงได้ ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือ จึงต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ไม่ใช่แค่ตนคนเดียว” จึงขอให้ประชาชนฟังอภิปรายวันนี้แล้วคิด ส่วนจะเชื่ออย่างไรขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่า ฝ่ายใดมีข้อมูลที่ชัดเจนกว่า
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานถึงท่าทีนายกรัฐมนตรี ในการชี้แจงที่นำคำพูดว่า หากหลับตาก็จะมืด พอลืมตาก็สว่าง วันนี้ตนลืมตาพูด ยินดีที่มาสภาวันนี้ คิดถึง ไม่ได้หวาดกลัว เห็นใจ และเข้าใจประชาชน ตนรักคนไทยทั้ง 67 ล้านคน “ใครไม่รักผม…ผมก็รักท่าน เพราะเราอยู่บนผืนแผ่นดินไทย เกิดมาและตายบนแผ่นดินนี้ นั่นคือคนไทย” ซึ่งหลังพูดจบนายกรัฐมนตรีก็ได้ผ่อนคลายอารมณ์ลง แล้วให้ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมชี้แจงต่อ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์