×

The Little Mermaid (1989) บทเพลงไพเราะของเงือกน้อยเปี่ยมเสน่ห์ที่พาแอนิเมชัน Disney เข้าสู่ยุคใหม่

25.05.2023
  • LOADING...
The Little Mermaid

The Little Mermaid (1989) ภาพยนตร์แอนิเมชันจาก Disney น่าจะเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังเป็นผลงานที่แฟนๆ ทั่วโลกต่างหลงรัก ด้วยเรื่องราวการผจญภัยที่สนุกสนาน ตัวละครเปี่ยมเสน่ห์ และบทเพลงอันไพเราะมากมายที่ยังคงดังก้องอยู่ในหัวใจของผู้ชมมาอย่างยาวนาน  

 

ขณะเดียวกัน The Little Mermaid ไม่ได้เป็นเพียงภาพยนตร์แอนิเมชันชื่อดังที่ทั่วโลกรู้จักอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่ช่วยสร้างรากฐานให้กับภาพยนตร์แอนิเมชันจาก Disney ในยุคต่อมาอย่างไม่อาจปฏิเสธได้  

 

และเนื่องในโอกาสที่ The Little Mermaid ฉบับภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันที่ได้นักแสดงเสียงเปี่ยมเสน่ห์อย่าง Halle Bailey มารับบทเป็น Ariel ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ THE STANDARD POP ขอพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปสำรวจการผจญภัยของนางเงือกน้อยที่ผู้ชมทั่วโลกต่างหลงรักใน The Little Mermaid ฉบับปี 1989 กัน 

 

การผจญภัยของเงือกน้อยเวอร์ชันดาร์กและบทเพลง Part of Your World ที่เกือบถูกตัดทิ้ง 

ย้อนกลับไปในช่วงปี 1930-1940 Disney เคยมีแผนที่จะหยิบนำวรรณกรรมเทพนิยายของนักเขียนชาวเดนมาร์ก Hans Christian Andersen มาดัดแปลงเป็นฉบับภาพยนตร์แอนิเมชันแบบแพ็กเกจที่รวบรวมแอนิเมชันขนาดสั้นหลายๆ เรื่องมาไว้ในเรื่องเดียว ซึ่งหนึ่งในผลงานของ Andersen ที่ถูกคัดเลือกมาคือวรรณกรรมเรื่อง The Little Mermaid และได้ศิลปินชาวเดนมาร์กอย่าง Kay Nielsen มารับหน้าที่ออกแบบและพัฒนาเรื่องราว 

 

The Little Mermaid ฉบับของ Nielsen มีเนื้อหาที่ค่อนข้างมืดหม่นกว่า The Little Mermaid ที่เรารู้จักในปัจจุบันพอสมควร ทั้งตอนจบของเรื่องที่เงือกน้อยไม่ได้ลงเอยกับเจ้าชาย แต่ดวงวิญญาณของเธอจะเดินทางกลับสู่ท้องทะเล อย่างไรก็ตามโปรเจกต์ดังกล่าวก็ไม่ได้รับการสานต่อ เงือกน้อยจึงยังต้องหลับใหลอยู่ใต้ท้องทะเลเป็นเวลานานกว่า 5 ทศวรรษ ก่อนที่เธอจะถูกปลุกขึ้นมาแหวกว่ายบนจอภาพยนตร์อย่างยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา 

 

ในช่วงปี 1985 หลังจากที่ Jeffrey Katzenberg ที่เพิ่งจะก้าวขึ้นมาเป็นประธานคนใหม่ของ Walt Disney Studios ไม่นาน Katzenberg ได้เปิดประชุมให้ทีมงานเข้ามาเสนอไอเดียสำหรับภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องใหม่ หนึ่งในนั้นคือ Ron Clements ผู้กำกับจาก The Great Mouse Detective (1986) ที่นำเสนอไอเดียในการนำ The Little Mermaid มาดัดแปลงเป็นฉบับภาพยนตร์แอนิเมชัน แต่ ณ เวลานั้น ทาง Disney มีแผนสร้างภาพยนตร์ภาคต่อของ Splash (1984) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับนางเงือกอยู่แล้ว จึงทำให้ไอเดียของ Ron Clements ถูกปัดตกไป ก่อนที่ในวันรุ่งขึ้น Katzenberg จะเปลี่ยนใจและอนุมัติให้ Clements เริ่มต้นพัฒนา The Little Mermaid ของตนเอง โดยได้ John Musker ที่เคยร่วมงานกับ Clements มาแล้วใน The Great Mouse Detective มานั่งแท่นเขียนบทและกำกับร่วม 

 

 

หลังจากที่ Clements และ Musker ร่วมกันพัฒนาบทมาได้ระยะหนึ่ง ทาง Disney ก็ได้ชักชวน Howard Ashman นักแต่งเพลงและนักเขียนบทละครเวทีชื่อดังจากผลงานเรื่อง Little Shop of Horrors (1986) มาร่วมเสริมทัพในตำแหน่งโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงประกอบ 

 

โดย Ashman ถือเป็นหนึ่งในทีมงานคนสำคัญที่เข้ามาช่วยเติมเต็มองค์ประกอบสำคัญต่างๆ ให้กับ The Little Mermaid ซึ่งจะกลายเป็นรากฐานสำคัญให้กับแอนิเมชันของ Disney ในเวลาต่อมา เริ่มต้นจากการนำกลวิธีนำเสนอแบบมิวสิคัลที่ใช้บทเพลงในการขับเคลื่อนเรื่องราวและแรงปรารถนาของตัวละครมาเป็นองค์ประกอบสำคัญของเรื่อง พร้อมชักชวน Alan Menken นักแต่งเพลงที่เคยร่วมงานกับ Ashman มาแล้วใน Little Shop of Horrors มาร่วมแต่งเพลงประกอบและดนตรีประกอบ เช่น Part of Your World, Under The Sea, Poor Unfortunate Souls ฯลฯ 

 

 

ด้านเบื้องหลังของตัวละครหลักอย่าง Ariel ได้แอนิเมเตอร์อย่าง Glen Keane มารับหน้าที่ออกแบบคาแรกเตอร์ โดย Keane ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบ Ariel มาจากนักแสดงชื่อดังหลายคนด้วยกัน ทั้ง Alyssa Milano, Sherri Stoner และนักบินอวกาศชาวอเมริกัน Sally Ride ส่วนผู้ที่มาให้เสียงพากย์เป็น Ariel ได้นักแสดงละครเวทีอย่าง Jodi Benson มารับบทนำ ขณะที่ตัวร้ายหลักอย่างแม่มด Ursula ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแดร็กควีนชื่อดังอย่าง Divine พร้อมได้นักแสดงอย่าง Pat Carroll มาให้เสียงพากย์ 

 

แต่ในช่วงที่ Disney ได้นำ The Little Mermaid ออกฉายรอบ Screen Test และพบว่าฉาก Part of Your World นั่นได้กระแสตอบรับจากเด็กๆ ที่ไม่ดีนัก จึงทำให้ฝ่ายบริหารสั่งให้ทีมสร้างตัดฉาก Part of Your World ออก แต่ทาง Ashman, Clements, Musker รวมถึงทีมงานแอนิเมเตอร์ต่างยืนกรานว่าไม่ควรตัดฉากนี้ออก เพราะ Part of Your World ถือเป็นฉากสำคัญที่ถ่ายทอดแรงปรารถนาที่ขับเคลื่อนตัวละคร Ariel จนทำให้ฝ่ายบริหารยอมถอยให้กับทีมสร้างในที่สุด

 

ภายหลังจากใช้เวลาในการสร้างนานหลายปี ในที่สุด The Little Mermaid ก็ได้ออกฉายอย่างเป็นทางการในปี 1989 โดยบอกเล่าเรื่องราวของ Ariel นางเงือกน้อยผู้มีเสียงร้องอันไพเราะ ที่ได้ช่วยชีวิตเจ้าชาย Eric (Christopher Daniel Barnes) ที่ประสบอุบัติเหตุเรือล่มไว้ ส่วนเจ้าชาย Eric ที่จดจำบทเพลงอันไพเราะของหญิงสาวที่ช่วยชีวิตเขาได้เป็นอย่างดีก็ตัดสินใจออกค้นหาเธอ เรื่องราวความรักระหว่างนางเงือกน้อยและเจ้าชายผู้เป็นมนุษย์จึงเริ่มต้นขึ้น 

 

 

เมื่อบทเพลงของนางเงือกน้อยได้พาแอนิเมชัน Disney เข้าสู่ยุคใหม่  

The Little Mermaid นับว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แอนิเมชันจาก Disney ที่ประสบความสำเร็จ โดยหากย้อนกลับไปในช่วงต้นยุค 80 ภาพยนตร์แอนิเมชันส่วนใหญ่ของ Disney ค่อนข้างจะได้กระแสตอบรับที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก กระทั่งวันที่ The Little Mermaid ออกฉายในปี 1989 ภาพยนตร์ก็สามารถกวาดรายได้ทั่วโลกไปอย่างถล่มทลายด้วยตัวเลขที่สูงถึง 211 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งยังสามารถคว้ารางวัลออสการ์มาได้สำเร็จจำนวน 2 สาขา ได้แก่ เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (จากเพลง Under the Sea) และดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และด้วยความสำเร็จดังกล่าวยังทำให้ภาพยนตร์แอนิเมชันจาก Disney กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ซึ่งในภายหลังถูกเรียกว่าเป็นยุค Disney Renaissance (ช่วงปี 1989-1999) 

 

ไม่เพียงแค่นั้น The Little Mermaid ยังเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่กลายมาเป็นรากฐานให้กับภาพยนตร์แอนิเมชันจาก Disney ในยุคต่อมา ทั้งการใช้บทเพลงมาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการถ่ายทอดเรื่องราวของตัวละคร ซึ่งทุกบทเพลงล้วนแล้วแต่เป็นเพลงสุดที่โด่งดังข้ามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็น Belle จาก Beauty and the Beast (1991), A Whole New World จาก Aladdin (1992), Reflection จาก Mulan (1998) ฯลฯ 

 

รวมไปถึงการออกแบบคาแรกเตอร์ของตัวละครนำหญิงที่มีมิติมากขึ้น มีความดื้อรั้น เข้มแข็ง เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคโดยที่ไม่ต้องรอให้เจ้าชายรูปงามมาช่วยเหลือ เช่น Belle หญิงสาวผู้เฉลียวฉลาดและใฝ่หาความรู้แม้จะถูกผู้คนนินทา หรือ Mulan นักรบหญิงผู้กล้าหาญที่ยอมออกเดินทางสู่สนามรบแทนพ่อผู้แก่ชรา  

 

และหากเราลองกระโดดข้ามมาดูภาพยนตร์แอนิเมชันของ Disney ในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Frozen (2013) ที่มีบทเพลงชื่อดังอย่าง Let It Go หรือการผจญภัยสู่ท้องทะเลที่ไม่เคยรู้จักของ Moana ใน Moana (2016) ก็คงจะทำให้เราเห็นภาพว่าความสำเร็จของ The Little Mermaid นั่นได้ส่งอิทธิพลต่อภาพยนตร์แอนิเมชันจาก Disney มาจนถึงปัจจุบัน 

 

ภาพ: Disney Fandom

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising