บนโลกนี้มีพันธุ์กุหลาบอยู่มากมายหลายสายพันธ์ุ เราต่างคุ้นเคยกับการเห็นส่วนผสมของเครื่องสำอางและสกินแคร์มากมายที่นำเอากุหลาบมาเป็นส่วนผสมหลัก Dior เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับกุหลาบมาถึง 20 ปี ซึ่งสกินแคร์ต่างๆ ในกลุ่ม Dior Prestige นั้นมีตำนานมาตั้งแต่ปี 1998 เพราะครีมหรือเซรั่มต่างๆ ที่ปล่อยสู่ตลาดความงามในยุคนั้นได้รับการตอบรับที่ดี แต่พอมาถึงปี 2017 ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทีมของ Dior รวมถึงนักวิทยาศาสตร์ ร่วมกันคิดค้นน้ำมันบำรุงผิว Rose Oil ที่ใช้สารสกัดจากดอกกุหลาบขึ้นมาเป็นครั้งแรก Dior เองมีกุหลาบลิขสิทธิ์อย่าง Rose de Granville ซึ่งวิจัยมาแล้วว่านี่คือกุหลาบสายพันธุ์ดีที่สุด ซึ่งมีที่มาจากกุหลาบป่าต้นสายพันธุ์บนเชิงผาในฝรั่งเศส และพันธุ์นี้ถูกคัดเลือกมาจาก 40,000 สายพันธุ์ จากการเพาะข้ามสายพันธุ์มานั่นเอง จนเกิดเป็น Dior Prestige Huile de Rose ขวดแรกขึ้น และประสบความสำเร็จท่วมท้นด้วยยอดขาย 1 ขวด ต่อ 1 นาทีในทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา
พอมาถึงปีนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์ของ Dior ที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับผิวพรรณพบว่า ผิวทุกประเภทและทุกคนล้วนขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อผิวด้วยกันทั้งนั้น เอฟเฟกต์ที่เกิดขึ้นคือผิวมีความเหนื่อยล้า และสังเกตุได้ง่ายสุดเป็นด่านแรกๆ หากโทรม อิดโรย หรือขาดการดูแลตัวเอง จากรูปแบบชีวิตที่ทั้งนอนดึก ต้องเดินทาง อากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ความเครียดต่างๆ ล้วนส่งผลต่อผิวโดยตรง การปรับสูตรใหม่ของ Dior Prestige Huile de Rose จึงต่อยอดมาเป็น Dior Prestige La Micro-Huile de Rose Advanced Serum เพื่อเน้นกู้ทุกสภาพผิวที่ขาดวิตามินและแร่ธาตุ โดยคัดสรรส่วนผสมที่ดีที่สุดจากทุกส่วนของกุหลาบสายพันธุ์ Rose de Granville ที่สกัดเอาวิตามินและแร่ธาตุสำคัญได้ถึง 22 ชนิด และใช้ส่วนที่เรียกว่า Sap ของ Rose Dtem หรือน้ำหล่อเลี้ยงก้าน มาสกัดด้วยขั้นตอน Patented ที่สามารถดึงเอาพลังงานจากกุหลาบ เพื่อให้ได้ความเข้มข้นในระดับโมเลกุลที่สูงมาก ซึ่งขั้นตอนนี้ได้จดลิขสิทธิ์ไว้แล้วเช่นกัน
เนื้อสัมผัสของ Dior Prestige La Micro-Huile de Rose Advanced Serum นั้นเป็นลักษณะที่ทาง่ายเหมือนใช้เซรั่ม จะได้กลิ่นหอมจากเนื้อ Rose Oil ที่เป็นน้ำมันกุหลาบแท้ๆ พร้อมด้วยความละมุนของเม็ดไข่มุกที่น่าใช้ที่สุด ขนาด 30 ml. ราคา 9,500 บาท และขนาด 50 ml. ราคา 12,500 บาท
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
