×

แพลตฟอร์มดิจิทัลต่างชาติทั้ง Netflix, Disney, Facebook, LINE และ TikTok ตบเท้าขึ้นทะเบียนเสียภาษี e-Service แล้ว หลังบังคับใช้กฎหมาย 1 ก.ย. นี้

31.08.2021
  • LOADING...
e-service tax

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้ลงนามกฎกระทรวงฉบับที่ 377 (พ.ศ. 2564) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานและทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งผู้ประกอบการที่ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มจากต่างประเทศ เพื่อกำหนดวิธีการดำเนินงานในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (e-Service) ของกรมสรรพากร ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายในวันที่ 1 กันยายนนี้

 

“ภาษี e-Service นี้ มีการดำเนินการในขั้นตอนของกฎหมายมากกว่า 2 ปี จนได้รับการอนุมัติเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และให้เริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนหน้านี้ โดยกฎกระทรวงจะกำหนดให้ผู้ประกอบการต่างประเทศที่ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ใช้บริการที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทย และมีรายได้จากการให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาท จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบงานภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (VAT for Electronic Service: VES) บนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร และยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมชำระภาษีเป็นรายเดือน ภายในวันที่ 23 ในเดือนถัดไป” อาคมกล่าว 

 

รมว.คลัง เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการต่างประเทศที่ลงทะเบียนเพื่อขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มบนเว็บไซต์ของกรมสรรพากรแล้วมากกว่า 50 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้ให้บริการต่างประเทศมีความตื่นตัว และพร้อมจะปฏิบัติตามกฎหมายภาษี e-Service ของไทยด้วยดี โดยไทยเป็นหนึ่งใน 60 กว่าประเทศทั่วโลกที่ได้เริ่มดำเนินการเก็บภาษีประเภทนี้

 

สำหรับธุรกิจที่ต้องมาจดทะเบียนและดำเนินการทางภาษี จะแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ประกอบด้วยธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับขายของออนไลน์ ธุรกิจให้บริการโฆษณาออนไลน์ ธุรกิจให้บริการจองโรงแรม ที่พัก และการเดินทาง ธุรกิจให้บริการเป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย ธุรกิจให้บริการสมาชิกดูหนัง ฟังเพลงออนไลน์ เกม และแอปพลิเคชันต่างๆ

 

รมว.คลัง ระบุอีกว่า ภาษี e-Service จะช่วยสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างชาติ ที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจบริการออนไลน์จะต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ในขณะที่ผู้ประกอบการต่างชาติไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม นอกจากทำให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันแล้ว ภาษี e-Service จะเป็นการเพิ่มรายได้ทางหนึ่งให้กับประเทศ โดยคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาทในปีงบประมาณ 2564 และในอนาคตจะทำให้ประเทศไทยมีฐานข้อมูลรายได้ของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างชาติ ที่จะสามารถนำไปใช้ในการคำนวณเป็นฐานภาษีใหม่ ที่น่าจะเป็นรายได้อีกทางหนึ่งของประเทศไทยในอนาคต

 

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กฎกระทรวงดังกล่าวยังกำหนดวิธีการดำเนินการจัดเก็บภาษี e-Service ตั้งแต่กระบวนการจดทะเบียนในระบบ VES การติดต่อระหว่างกรมสรรพากรและผู้ประกอบการจากต่างประเทศ การจัดทำ ส่ง รับ เก็บรักษาเอกสาร การยื่นแบบและชำระภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการ e-Service จากต่างประเทศที่จดทะเบียนตามกฎกระทรวงนี้ จะชำระภาษีมูลค่าเพิ่มจากฐานการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการในไทยที่ไม่ได้จดทะเบียน VAT (สำหรับผู้ใช้บริการในไทยที่จดทะเบียน VAT อยู่แล้ว ให้ดำเนินการโดยยื่นแบบและชำระภาษีมูลค่าเพิ่มตามแบบ ภ.พ.36 และสามารถนำภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรมาหักเป็นภาษีซื้อได้เช่นเดิม) นอกจากนั้น ผู้ประกอบการ e-Service จากต่างประเทศไม่มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษี และไม่มีสิทธิ์นำภาษีซื้อมาหักออกจากภาษีขาย

 

จากการตรวจสอบล่าสุดของ THE STANDARD WEALTH พบว่า มีผู้ประกอบการต่างประเทศที่ลงทะเบียนเพื่อขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มบนเว็บไซต์ของกรมสรรพากรแล้วรวม 61 ราย ในจำนวนนี้มีแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างชาติชื่อดังอย่าง Netflix, Disney, Facebook, LINE และ TikTok รวมอยู่ด้วย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising