จับตากองสลากฯ เปิดลงทะเบียนขายสลากดิจิทัล 80 บาทเพิ่มเติม หลังผลตอบรับดี แย้มอยู่ระหว่างศึกษาการออกหวย 2 ตัว 3 ตัว ขายบนมือถือ สางปมหวยแพง-หวยเถื่อนต่อเนื่อง
ชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคาที่กำหนด กล่าวถึงกระแสเรียกร้องให้เพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลให้เกิน 5 ล้านใบ หลังจากที่ประชาชนให้การตอบรับสลากดิจิทัล 80 บาทเป็นอย่างดี จนทำให้สลากฯ กว่า 5 ล้านใบสามารถจำหน่ายหมดได้ภายใน 4 วัน ว่าเบื้องต้นการจำหน่ายสลากงวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 และวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ยังคงยอดเปิดขายในจำนวนเท่าเดิมก่อน
จากนั้นกองสลากฯ จะนำผลการจัดจำหน่ายในแต่ละงวดมาวิเคราะห์หาจำนวนที่เหมาะสม โดยพิจารณาจำนวนสลากฯ ที่จำหน่ายในแต่ละงวดว่าสามารถจำหน่ายออกไปได้หมดหรือไม่ เพื่อไม่ให้ตัวแทนจำหน่ายขาดทุน เพราะแม้กระแสตอบรับจะดี แต่เห็นว่างวดแรกยังไม่สามารถประเมินอะไรได้ เพราะเป็นเรื่องปกติของพฤติกรรมผู้ซื้อที่มักจะตื่นเต้นกับสินค้าใหม่
นอกจากนี้ยังจะพิจารณาการพัฒนาระบบด้วยการปรับเพิ่มฟีเจอร์กว่า 10 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ระบบการลดราคาของตัวแทนให้กับลูกค้า, การค้นหาตัวแทนเฉพาะกลุ่ม เช่น คนพิการ สมาคม รวมถึงฟีเจอร์เลขชุดที่จะค้นหาได้ง่ายขึ้น ตลอดจนเพิ่มทางเลือกการผูกบัญชีกับธนาคารอื่นนอกเหนือจากธนาคารกรุงไทย
“อยากฝากเชิญชวนไปยังตัวแทนจำหน่ายที่ยังไม่เข้าร่วมโครงการสลากดิจิทัลให้ติดตามข่าวสารจากกองสลากฯ อย่างต่อเนื่อง เพราะคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะเปิดรับลงทะเบียนเพิ่มเติม” ชาญกฤชกล่าว
ชาญกฤชย้ำว่า โครงการจำหน่ายสลากดิจิทัลเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำนักงานสลากฯ นำมาแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาในระยะสั้น โดยที่ประชาชนยังสามารถซื้อสลากใบละ 80 บาท จากจุดจำหน่ายสลาก 80 บาทที่กระจายอยู่ 362 จุดได้ด้วย และภายในเดือนกรกฎาคมนี้จะเพิ่มจุดจำหน่ายถึง 1,000 จุดทั่วประเทศไทย รวมถึงโครงการลงทะเบียนผู้ซื้อจองล่วงหน้าที่จะเพิ่มจำนวนจาก 130,000 ราย เป็น 200,000 ราย ยืนยันว่าสลากใบยังคงมีอยู่ ไม่ได้หายไป แต่การเปิดขายสลากดิจิทัลราคา 80 บาท เพื่อแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ทำให้ประชาชนสามารถซื้อสลากในราคา 80 บาทได้จริง และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ซื้อสลาก
ชาญกฤชยังเปิดเผยถึงมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะกลางถึงระยะยาวด้วยว่า ภายในปีนี้จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาจำหน่ายในรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก ซึ่งจะคล้ายกันกับสลากปัจจุบัน และสลากตัวเลข 3 หลัก ซึ่งจะคล้ายกันกับหวยใต้ดิน 2 ตัว 3 ตัว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเซ็นสัญญากับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งหากได้รับความเห็นชอบก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
“การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้ประเภทของสลากที่จำหน่ายมีความหลากหลาย ไม่ใช่การมอมเมาประชาชน แต่เป็นการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ปัญหาหวยเถื่อน ซึ่งดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายกำหนด โดยเฉพาะการจำกัดอายุของผู้ซื้อต้องไม่ต่ำกว่า 20 ปี เพื่อป้องกันการเข้าถึงของเยาวชน การห้ามจำหน่ายในโรงเรียน” ชาญกฤชกล่าว