เมื่อเป็นสิว ทางเลือกอันดับหนึ่งในการรักษาสิวของคนส่วนใหญ่คือการใช้ยารักษาสิว ซึ่งในประเทศไทยมียารักษาสิวหลายประเภท ทั้งยาที่มีจำหน่ายอยู่ตามคลินิกผิวหนัง รวมถึงยาทาสิวที่มีจำหน่ายทั่วไปตามร้านขายยา ดังนั้นก่อนจะเลือกใช้ยาทาสิว จึงควรรู้จักยารักษาสิวประเภทต่างๆ ให้ดีก่อน เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้ยาที่ให้คุณสมบัติในการดูแลรักษาสิวประการต่างๆ ได้ตรงกับความต้องการของเราจริงๆ

ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาสิวทั่วไป

ผลิตภัณฑ์รักษาสิวทั่วไป (ที่ไม่ใช่ยา) เรามักเคยเห็นในรูปแบบของสบู่ เจลล้างหน้า โลชั่น ครีม แผ่นเช็ดทำความผิว โทนเนอร์ต่างๆ ที่เป็นสูตรสำหรับคนที่มีปัญหาสิว ซึ่งเหมาะจะใช้กับการดูแลผิวที่มีปัญหาสิวที่ไม่อักเสบ ไม่รุนแรง เช่น สิวหัวดำ สิวหัวขาว หรือสิวเม็ดเล็กๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้แต่ไม่บ่อย

ยารักษาสิวที่มีอยู่ตามคลินิกผิวหนัง

จากข้อมูลของเว็บไซต์ Honestdocs.co ที่ให้ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องสิว มีรายงานข้อมูลของตัวยาที่ใช้รักษาสิวประเภทต่างๆ ดังนี้

• ยาปฏิชีวนะรักษาสิวต่างๆ ตามที่แพทย์สั่ง ส่วนใหญ่จะประกอบด้วย ยาไอโซเตรทติโนอิน ซึ่งแพทย์จะจัดยาให้กับคนไข้ที่มีปัญหาสิวในระดับที่รุนแรงเท่านั้น ไม่เหมาะจะใช้เพื่อรักษาสิวเม็ดเล็กๆ ที่ไม่อักเสบ
• การฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์
• รักษาด้วยเลเซอร์ และการรักษาสิวด้วยแสงสีฟ้า (Blue Light Therapy) บางแห่งใช้การฉายพลังงานแสงและความร้อน (Pulsed light and heat energy therapy) และการใช้ไดโอดเลเซอร์ (Diode Laser Treatment)

ยารักษาสิวที่มีอยู่ในร้านขายยา

ผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นทะเบียนเป็น ‘ยา’ รักษาสิว จะไม่สามารถจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านเครื่องสำอาง เหมือนกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเป็นสิวทั่วไป โดยยารักษาสิวจะมีจำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาเท่านั้น ซึ่งตัวยารักษาสิวมีหลายชนิด ยกตัวอย่างเช่น

เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) และกรดซาลิซิลิก (Salicylic Acid) มีคุณสมบัติเด่นๆ ช่วยกำจัดปริมาณไขมันส่วนเกิน และทำลายแบคทีเรียบนผิว

ส่วนรีซอร์ซินอล (Resorcinol) ซัลเฟอร์ (Sulfur) ช่วยทำให้สิวสลายตัว

ข้อแนะนำในการเลือกยารักษาสิว

1. การเลือกใช้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช่วิธีรักษาสิวจากต้นเหตุ ยาทาเป็นเพียงตัวช่วยเท่านั้น และไม่ควรใช้ยาฆ่าเชื้อกับสิวทุกประเภท

2. การทายาฆ่าเชื้อรักษาสิวแต่ละครั้ง ควรทาติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 5 วัน และไม่ควรทายาติดต่อกันเกิน 2 เดือน เพราะเชื้อที่ก่อสิวจะชินกับตัวยา ทำให้ดื้อยาได้

3. ควรเลือกครีมแต้มสิวที่มีคุณสมบัติในการรักษาสิวได้ตอบโจทย์ครอบคลุม เช่น Tomei Anti-Acne Cream ที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ลดความมัน ลดอาการบวมแดงที่เกิดจากการอักเสบ รวมถึงลดการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว เนื่องจากตัวครีมมีสารบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งลอก ทำให้เวลาทาลงบนผิวช่วยสมานผิว และกระชับรูขุมขนไปในตัว ถือเป็นตัวเลือกที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก และมั่นใจได้ในคุณสมบัติการดูแลผิวเป็นสิวได้ครบถ้วน

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์