สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ ลงความเห็นว่า การเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกงคู่ควรกับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปีนี้ โดยให้เหตุผลว่านักรณรงค์ นักเคลื่อนไหว และผู้ชุมนุมประท้วงได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยทั่วโลก
ในจดหมายของสมาชิกรัฐสภา 9 คนจากสองพรรคการเมืองที่ส่งถึงคณะกรรมการโนเบลระบุว่า “รางวัลนี้จะสดุดีความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของพวกเขา ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับโลก เราหวังว่าทางคณะกรรมการโนเบลจะเดินหน้าฉายแสงไปยังผู้ที่ดิ้นรนต่อสู้เพื่อสันติภาพและสิทธิมนุษยชนในจีน
“และเราเชื่อว่าการเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงคู่ควรที่จะได้รับการยอมรับในปีนี้”
กลุ่มสมาชิกสภาระบุด้วยว่า พวกเขาคาดว่าจะมีนักเคลื่อนไหวอีกหลายคนถูกตัดสินลงโทษในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า “เพียงเพราะพวกเขาแสดงมุมมองทางการเมืองอย่างสงบ”
จดหมายฉบับดังกล่าวร่วมผลักดันโดยหัวหอกคนสำคัญอย่าง มาร์โก รูบิโอ ส.ว. พรรครีพับลิกันจากรัฐฟลอริดา และ จิม แมคกอฟเวิร์น ส.ส. เดโมแครตจากรัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งทั้งคู่นั่งเก้าอี้ประธานร่วมของคณะกรรมาธิการสภาคองเกรสที่มีบทบาทในการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในจีน
ในจดหมายมีการประมาณการว่า ชาวฮ่องกงที่ออกมารวมตัวประท้วงบนถนนเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2019 อาจมีมากกว่า 2 ล้านคน ซึ่ง “ถือเป็นการประท้วงของมวลชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” ขณะที่ฮ่องกงมีประชากรราว 7.5 ล้านคน
เมื่อปีที่แล้วจีนได้ผลักดันบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงดังเช่นที่เกิดในระหว่างการประท้วงเมื่อปี 2019 ขณะที่หลายประเทศและนักเคลื่อนไหวต่างมองว่ากฎหมายดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือในการปราบปรามและกวาดล้างผู้ที่เห็นต่าง เพราะให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่รัฐในการตรวจค้น จับกุม และดำเนินคดีกับผู้ที่เข้าข่ายปลุกปั่น พยายามแบ่งแยกดินแดน หรือสมคบคิดกับต่างชาติทำลายอธิปไตยและความมั่นคงของรัฐ
ภาพ: Vernon Yuen / NurPhoto via Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
