×

ศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต 2 ผู้ต้องหาเมียนมา คดีฆ่านักท่องเที่ยวเกาะเต่า

โดย THE STANDARD TEAM
29.08.2019
  • LOADING...
คดีฆ่านักท่องเที่ยวเกาะเต่า

วันนี้ (29 ส.ค.) ศาลจังหวัดนนทบุรีนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่บริเวณหาดทรายรี ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เหตุเกิดวันที่ 15 กันยายน 2557 โดยเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์คุมตัว ซอลิน หรือ โซเรน จำเลยที่ 1 และ เวพิว หรือ วิน จำเลยที่ 2 จากเรือนจำกลางบางขวาง มาฟังคำพิพากษา โดยสำนักงานศาลยุติธรรมได้เตรียมล่ามสำหรับเเปลภาษาเมียนมา ขณะที่ฝ่ายจำเลยไม่ได้มีญาติมาร่วมฟังคำพิพากษา มีเพียงตัวแทนจากสถานทูตเมียนมาและทนายความมาฟังคำพิพากษา ส่วนผู้เสียหายฝ่ายโจทก์ไม่ได้มีตัวแทนจากสถานทูตหรือครอบครัวมาร่วมฟัง

 

โดยคดีดังกล่าว ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเกาะสมุยได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ภาค 8 ยืนตามศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิตจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ตามข้อหาร่วมกันก่อเหตุฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตน เพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้, ร่วมกันกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะไม่อาจขัดขืนได้, ร่วมกระทำความผิดอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนจำเลยที่ 2 ยังมีข้อหาลักทรัพย์ในยามวิกาลเพิ่มอีกด้วย

 

ล่าสุด ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง ในฐานความผิดร่วมกันฆ่านายเดวิด และร่วมกันฆ่านางสาวฮันนา เพื่อปกปิดความผิด, ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันเป็นการโทรมหญิง และจำเลยที่ 2 ถูกพิพากษาในความผิดลักทรัพย์ในเวลากลางคืน คือลักโทรศัพท์และแว่นตากันแดดของเหยื่อ 

 

ทั้งนี้ ในชั้นศาลฎีกาอนุญาตให้จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนของจำเลยที่ 2 เท่านั้น ส่วนประเด็นที่จำเลยฎีกาเรื่องการสร้างพยานหลักฐานเท็จ การถูกข่มขู่เพื่อให้ผู้ต้องหารับสารภาพ และการเก็บวัตถุพยาน รวมถึงผลการตรวจนิติวิทยาศาสตร์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า หลักฐานที่จำเลยฎีกาต่อศาลไม่มีความหนักแน่นพอ หลังจากการตรวจสอบสำนวนและการสอบพยาน ทำให้ฟังไม่ได้ว่ามีการสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อใส่ร้ายจำเลย โดยในชั้นสืบสวนไม่ได้มีการพุ่งเป้าไปที่จำเลย โดยเริ่มจากผู้ต้องสงสัยหลายคนในพื้นที่ กระทั่งผลการตรวจดีเอ็นเอจากก้นบุหรี่และอสุจิในช่องคลอดและทวารหนักสอดคล้องกับจำเลย จึงนำมาเป็นหลักฐานในการขยายผลและติดตามจับกุมจำเลยทั้งสอง อีกทั้งอาการบาดเจ็บของจำเลยเกิดขึ้นหลังจากที่จำเลยถูกควบคุมตัวแล้ว ซึ่งผ่านขั้นตอนของพนักงานสอบสวน ศาลจึงเชื่อว่า เป็นคำสารภาพที่เป็นความสมัครใจ

 

สำหรับการอ่านคำพิพากษาครั้งนี้ ศาลจังหวัดนนทบุรีได้อ่านคำพิพากษาให้จำเลยฟัง แทนการนำตัวไปศาลจังหวัดเกาะสมุย เนื่องจากจำเลยถูกขังอยู่ที่เรือนจำบางขวาง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นเรือนจำที่มีความมั่นคงสูง และจำเลยถูกศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต ซึ่งเป็นโทษสูงสุด

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising