จอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดัง ออกโรงโจมตีประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน โดยระบุว่า ความก้าวหน้าด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของจีนนั้น ถือเป็นมหันตภัยต่อสังคมทั่วโลก
โซรอสเจ้าของฉายา ‘พ่อมดการเงิน’ และผู้สนับสนุนสังคมเปิด (Open Society) ได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุม World Economic Forum (WEF) ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยระบุอย่างแข็งกร้าวว่า จีนไม่ได้เป็นเพียงประเทศระบอบอำนาจนิยมแห่งเดียวในโลก แต่ยังเป็นประเทศที่มั่งคั่งที่สุด เข้มแข็งที่สุด และมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุด
“นี่ทำให้สีจิ้นผิงเป็นคู่ปรับที่อันตรายที่สุดของสังคมเปิด” โซรอสกล่าว
โซรอสยังได้มุ่งเป้าไปที่ระบบความน่าเชื่อถือทางสังคม (Social Credit System) ของจีน ซึ่งเป็นการนำข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนมารวมไว้ที่คลังกลาง เพื่อใช้ประเมินความน่าเชื่อถือหรือเครดิตของบุคคลนั้นๆ ซึ่งโซรอสเตือนว่า หากเปิดใช้งานเมื่อใด ฐานข้อมูลดังกล่าวจะทำให้ประธานาธิบดีสีควบคุมประชาชนได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ทั้งนี้มหาเศรษฐีวัย 88 ปีโด่งดังไปทั่วโลกจากการโจมตีค่าเงินปอนด์เมื่อช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 และเป็นที่รู้จักของชาวไทยจากการถล่มค่าเงินบาท รวมถึงสกุลเงินเอเชียในวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 1997
โซรอสมักใช้เวทีดาวอสเป็นโอกาสในการเตือนสังคมโลกให้รับรู้ถึงอันตรายต่างๆ ที่มีต่อการจัดระเบียบโลกประชาธิปไตยแบบที่เคารพในกฎกติกา โดยในปีที่แล้วเขาได้พุ่งเป้าโจมตีไปที่แพลตฟอร์มเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งรวมถึงยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก
สำหรับการปรากฏตัวที่การประชุมดาวอสครั้งล่าสุด วานนี้ โซรอสระบุว่า เป้าหมายของเขาที่ออกมาโจมตีผู้นำแดนมังกรในครั้งนี้คือ เพื่อเรียกร้องให้ทั่วโลกจับตาภัยคุกคามจากจีน
เขายังได้กล่าวถึงนโยบายของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีต่อจีน โดยระบุว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าจีนเป็นคู่แข่งทางยุทธศาสตร์นั้นถูกต้องแล้ว พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ ตอบโต้ยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 หรือ Belt and Road Initiative ของรัฐบาลจีน ซึ่งโซรอสมองว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนผลประโยชน์ของจีน แทนที่จะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศอื่นๆ โดยได้ยกตัวอย่างถึงการดำเนินการของจีนในศรีลังกา มาเลเซีย และปากีสถาน
“โครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ทะเยอทะยานของจีนได้รับเงินทุนสนับสนุนส่วนใหญ่มาจากเงินกู้ราคาแพง ไม่ใช่เงินให้เปล่าแต่อย่างใด และเจ้าหน้าที่ต่างชาติมักรับสินบนเพื่ออนุมัติโครงการเหล่านี้” โซรอสกล่าว “หลายโครงการในจำนวนนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่คุ้มค่า”
เขายังเรียกร้องให้คณะทำงานของสหรัฐฯ ดำเนินมาตรการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากจีน ซึ่งรวมถึงการจัดการ ZTE และ Huawei สองบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน ซึ่งโซรอสเชื่อว่าอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
โซรอสชี้ว่า มีการต่อต้านประธานาธิบดีสีภายในประเทศ และแสดงความหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในประเทศจีน “เนื่องจากสีจิ้นผิงเป็นศัตรูที่อันตรายที่สุดของสังคมเปิด เราจึงต้องตั้งความหวังไปที่ประชาชนชาวจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนธุรกิจและชนชั้นนำทางการเมือง”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: