หลังจากที่บ้านเราเพิ่งผ่านเทศกาลช้อปปิ้งครั้งใหญ่อย่างวันคนโสดแห่งชาติ 11.11 และ Black Friday มาหมาดๆ ทางฝั่งสหรัฐฯ เองก็ได้จัดแคมเปญช้อปปิ้งออนไลน์ Cyber Monday เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าทำสถิติยอดขายสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เกือบ 1,100 ล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้น 30% จากปี 2019
Adobe Analytics เปิดเผยผลสำรวจว่า Cyber Monday กลายเป็นวันที่มียอดช้อปปิ้งออนไลน์สูงสุดในสหรัฐฯ ราว 1,080 ล้านดอลลาร์ ผู้บริโภคแห่ซื้อสินค้ากันแบบไม่อั้น โดยเฉพาะในช่วงเวลา 20.00-21.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) มียอดซื้อมากถึง 12 ล้านดอลลาร์ต่อนาที โดยซื้อผ่านสมาร์ทโฟนประมาณ 37% ส่วนหนึ่งเพราะผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียกันมากขึ้นด้วย บวกกับการทำโปรโมชันลดราคากระหน่ำนั้นเจาะประเภทสินค้าที่ผู้บริโภคทั่วไปใช้กันอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่จะทำยอดขายถล่มทลาย เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์กีฬา ของเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ส่วนสินค้าที่ได้รับความนิยมสุดๆ ได้แก่ ชุดตัวต่อเลโก้, AirPods และเกม PS4 ที่ชื่อ Call of Duty: Black Ops Cold War
เห็นตัวเลขมหาศาลขนาดนี้ ทีมงานคงไม่หยุดอยู่แค่เดือนพฤศจิกายนอย่างแน่นอน เทร บอดจ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจค้าปลีกและช้อปปิ้ง ได้ให้สัมภาษณ์กับ NBC News ว่ากลุ่มประเภทสินค้าที่จะลดราคากระหน่ำในช่วงธันวาคมหนีไม่พ้นของเล่นและสินค้าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลวันหยุด เช่น ตะกร้าของขวัญ ชุดกล่องของขวัญ และสินค้าตกแต่ง อีกทั้งยังคาดว่าคนจะยิ่งรีบซื้อ เพราะกลัวสินค้าหมดในช่วงลดราคา
ในช่วง Cyber Monday ยอดขายของกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กเองก็เติบโตเพิ่มขึ้นสูงกว่ายอดขายของธุรกิจรีเทลรายใหญ่อีกด้วย เนื่องจากผู้บริโภคใส่ใจและจับจ่ายใช้สอยอย่างประหยัดมากขึ้น ด้าน Union Bank ได้เผยผลสำรวจที่น่าสนใจว่า 7 ใน 10 ของเหล่านักช้อปชี้ว่าการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่าการได้ส่วนลดสูงๆ เสียอีก
ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับธุรกิจรีเทลที่มีแนวโน้มว่าจะไม่ซบเซาอย่างที่คิด โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องรับมือกับศึกหนักจากโรคระบาดโควิด-19 ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะฟื้นตัวได้มากน้อยแค่ไหนและเมื่อไร ผู้บริโภคต้องรัดเข็มขัดมากขึ้นไหม เพราะเกมนี้ยังมีความท้าทายอีกมากมายที่รอเราอยู่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
