เป็นอีกครั้งที่ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ใน 6 จังหวัด กรุงเทพและปริมณฑล ต้องปิดร้านค้าที่ไม่จำเป็นหลังการระบาดของโรคโควิดในประเทศไทยเลวร้ายลง ด้วยจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตในแต่ละวันที่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
แหล่งข่าวที่เป็นผู้เช่าร้านในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งบอกกับ THE STANDARD WEALTH แม้จะมีคำสั่งลักษณะนี้เกิดขึ้นมาหลายครั้ง แต่เจ้าของพื้นที่เช่าอย่างห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าก็ยังสื่อสารได้ช้าและไม่มีความชัดเจนในการให้คำตอบผู้เช่า ถึงมาตรการปฏิบัติต่างๆ ว่าควรทำอย่างไรบ้าง
“ทางเจ้าของพื้นที่เช่าปรับตัวได้ช้าและน้อยกว่าที่เราคาดหวังมาก” แหล่งข่าวกล่าวพร้อมยกตัวอย่าง ถ้าสามารถเปิดห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าได้ถึง 2 ทุ่ม ร้านอาหารสามารถเปิดได้หรือไม่ จะให้ตั้งโต๊ะรับออร์เดอร์ที่ชั้นล่าง หรือรอให้ลูกค้าเดินมาหา ชั้นต่างๆ ในห้างที่ร้านค้าตั้งอยู่จะมีการเปิดแอร์อยู่ไหม เหล่านี้ส่วนกลางก็ให้คำตอบไม่ได้
“ส่วนกลางมักจะโยนให้ไปคุยกับผู้จัดการศูนย์การค้าเอง โยนกันไปโยนกันมาทั้งๆ ที่ควรทำได้ดีกว่านี้ เพราะเป็นภาคเอกชน ดังนั้นแนวทางการทำงาน ขั้นตอนการตัดสินใจควรเฉียบขาดมากกว่านี้ ในการรับมือสถานการณ์และเดินหน้าต่อ เรารู้ว่าทุกคนเจ็บตัวกันหมดเลย แต่สิ่งสำคัญคือต้องตั้งสติเพื่อเดินหน้าต่อ”
ที่ผ่านมาเจ้าของพื้นที่เช่าช่วยเหลือบ้างแต่ไม่มากนัก เช่น ให้สื่อภายในห้างฟรีได้บ้างจากที่เคยต้องจ่ายหลักแสนบาทต่อเดือน ส่วนเรื่องค่าเช่าถ้าเป็นสาขาในเมืองหรือเป็นสาขาที่มีทราฟฟิกเยอะแทบจะไม่ลดราคาให้เลย ยกเว้นต่างจังหวัดที่ลดให้บ้าง 10-20% ‘แต่ทั้งนี้ร้านต้องไปคุยเอง จะไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการออกมา และแต่ละศูนย์ก็จะมีรายละเอียดที่ไม่เหมือนกัน’
สำหรับการระบาดในระลอก 3 นี้ ทราฟฟิกในศูนย์การค้าต่างๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่หลังสงกรานต์ ก่อนจะดีขึ้นในช่วงอาทิตย์แรกของเดือนมิถุนายนที่เริ่มมีการฉีดวัคซีนจำนวนมาก แต่ทราฟฟิกกับยอดขายก็ทำได้ไม่ถึงครึ่งเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ โดยสถานการณ์นี้อยู่ได้ 2 อาทิตย์ก็กลับมาเงียบเหงาใหม่
“ตอนนี้คนมาเดินห้างหายไป 80% แต่เจ้าของพื้นที่เช่าก็ยังไม่ลดค่าเช่าให้สักบาท” หนึ่งในผู้เช่าร้านกล่าวพร้อมเสริมว่า ถ้าเป็นร้านเล็กร้านน้อยก็จะมีเงื่อนไขการลดที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ก็อาจจะลดให้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องเปิดร้านห้ามปิด ส่วนร้านที่เปิดมาสักพักและไม่ได้ลงทุนอะไรใหม่ก็จะไม่ได้รับส่วนลดค่าเช่า ใครที่ไม่เข้าเงื่อนไขก็ต้องไปคุยเป็นกรณีไป
“ส่วนลดที่ให้มาก็ไม่ได้เยอะมากนัก แค่พออยู่รอดไม่ตาย แต่ก็ไม่ถึงกับมีกำไร ส่วนที่เรามองว่าจะยุติธรรมสำหรับเราคือ ยอดขายลดลงเท่าไรค่าเช่าก็ควรจะลดลงเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาเราก็จ่ายค่าเช่าแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย”
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ได้มีการประเมินภายในว่า ถ้าปิดร้านไปเลยก็จะเจ็บตัวน้อยกว่า ซึ่งถ้าเป็นสาขาที่มีทราฟฟิกเยอะอยู่แล้ว เจ้าของพื้นที่ก็พร้อมจะให้คืนทันทีเพราะมีร้านอื่นๆ รอเสียบอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นสาขาต่างจังหวัดก็จะพยายามเสนอมาตรการต่างๆ เพื่อให้เช่าต่อ เพราะยากมากที่จะหาร้านที่เข้ามาแทนที่ในพื้นที่ขนาด 200 ตารางเมตร
“รอบ 3 หนักกว่า 2 รอบแรก รอบก่อนๆ ยังเป็นแผลเรื้อรัง แต่รอบนี้แผลลึกกว่าเดิม ยอดขายช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิดหายไปกว่า 20% โดยเฉพาะช่องทางหลักอย่างนั่งกินในร้านที่ลดลง 70-80% แม้จะพยายามออกสินค้าใหม่และโปรโมชันมากกว่าเดิม แต่ก็กระตุ้นได้ไม่เยอะมาก เพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงอย่างมากโดยเฉพาะรากหญ้า”
“สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นคือ เราต้องมีวัคซันที่มีประสิทธิภาพกระจายให้เร็วที่สุด เศรษฐกิจและกำลังซื้อถึงจะฟื้นตัว” แหล่งข่าวกล่าวทิ้งท้าย
ภาพ: Anusak Laowilas / NurPhoto via Getty Images
