×

ภาพฝันและความเป็นจริง น้ำตาในรอยยิ้มของศิลปิน K-Pop ตอนที่ 2

03.07.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 mins read
  • แจ็คสัน วง GOT7 ก่อนจะมาเป็นศิลปินฝึกหัด เขามีฝีมือเรื่องกีฬาฟันดาบจนได้ทุนเรียนที่ฮ่องกง แต่เขาตัดสินใจจากบ้านเกิดไปเป็นศิลปินฝึกหัดที่เกาหลี นานๆ จึงจะได้พบหน้าครอบครัวเสียที
  • ‘สัญญาทาส’ ของศิลปินเกาหลีส่วนใหญ่มักจะมีส่วนแบ่งรายได้ที่ไม่เป็นธรรมและมีข้อปฏิบัติยิบย่อยที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากเกินพอดี ทำให้ศิลปินบางรายตัดสินใจฟ้องต้นสังกัด
  • จี-ดราก้อน (BIGBANG) เคยถูกซาแซงแฟนมาตั้งเต็นท์นอนอยู่หน้าบ้าน แทคยอน (2PM) เคยได้รับผ้าอนามัยใช้แล้วพร้อมกับจดหมายเลือด

ในทุกสิ่งอย่างย่อมมีสองด้านเสมอ แม้แต่อุตสาหกรรมป๊อปคัลเจอร์ในเกาหลีใต้ที่เติบโตที่สุดในโลกก็หนีความจริงข้อนี้ไม่พ้น

 

วัฒนธรรมดนตรีป๊อปเกาหลีเริ่มมาแรงในช่วงปี ค.ศ. 2000 ก่อนจะขยายฐานความนิยมจากเกาหลีใต้ไปสู่ประเทศอื่นๆ ในเอเชีย และลุกลามไปยังสหรัฐอเมริกา เมื่อไปดูตัวเลขการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ยืนยันอานุภาพของ K-Pop ที่แข็งแกร่งในระดับสากล ทั้งคุณภาพดนตรี และแผนการตลาด ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างต้องแลกมาด้วยการเคี่ยวกรำอย่างหนักในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะความสมบูรณ์แบบของตัวศิลปินที่จะเป็นไอดอลในสุดท้ายปลายทาง

 

เรากำลังจะพาคุณไปตรวจสอบกันต่อในตอนที่ 2 เพื่อทำความเข้าใจทุกหยดน้ำตาในรอยยิ้มของศิลปิน K-Pop เกาหลีที่กว่าจะมีวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

ฉันมาไกล: ไอดอลที่ต้องห่างพ่อแม่เป็นเวลานาน

ก้าวแรกที่ต้องออกจากบ้านไปเป็นเวลานาน ลำพังเป็นคนเกาหลีเองก็คงไม่ยากลำบากเท่ากับเทรนนีต่างบ้านต่างเมืองที่ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ใต้ชายคาบริษัทในสังกัด ความยากลำบากเหล่านี้คือสิ่งที่พวกเขาต้องแลกมา!

 

กชกร ภูวกุล คุณแม่ของ แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล วง GOT7 เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ในช่วงแรกที่แบมแบมไปเป็นศิลปินฝึกหัด เธอต้องเช่าหอพักใกล้ๆ บริษัทเพื่อที่จะได้มาพบลูกชายในตอนเช้า เตรียมอาหารไปให้เพื่อที่จะได้กินข้าวด้วยกันตอนกลางวัน และสแตนด์บายรอในช่วงเลิกฝึกซ้อม ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ต้องยอมรับว่าความเป็นแม่ที่ทุ่มเทไปนั้นไม่เสียเปล่า

 

ส่วนแจ็คสัน เพื่อนร่วมวง GOT7 นั้น ก่อนจะมาเป็นศิลปินฝึกหัด เขามีฝีมือเรื่องกีฬาฟันดาบจนได้ทุนเรียนที่ฮ่องกง แต่เขาตัดสินใจจากบ้านเกิดไปเป็นศิลปินฝึกหัดที่เกาหลี นานๆ จึงจะได้พบหน้าครอบครัวเสียที ในรายการ Roommate Season 2 ปาร์คจินยอง เจ้าของค่าย JYP Entertainment ต้นสังกัดของวง GOT7 มาร่วมรายการและได้พาพ่อแม่ของแจ็คสันบินมาเซอร์ไพรส์ลูกชาย กดชมคลิปประกอบแล้วจะรู้ว่าน้ำตาของเขาบอกเล่าความรู้สึกข้างในได้ดีที่สุด

 

 

อีกกรณีหนึ่งคือ จื่อวี สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป TWICE เธอเกิดและเติบโตที่ไต้หวัน และที่เห็นร้องไห้ในรายการ Please Take Care of My Refrigerator ก็ไม่ใช่ว่าเป็นผู้หญิงเซนซิทีฟขนาดนั้น เธอบอกว่าเป็นครั้งแรกที่ร้องไห้ออกสื่อ เพราะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ เมื่อได้เห็นอาหารที่เชฟทำในรายการเป็นเมนูโปรดที่คุณแม่มักจะทำให้กินเป็นประจำ ซึ่งมันทำให้เธอคิดถึงบ้านเอามากๆ

 

 

สัญญาเปลี่ยนชีวิต: เมื่ออยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ก่อนที่ศิลปินเกาหลีหรือป๊อปไอดอลจะขึ้นไปยืนเฉิดฉายบนเวที พวกเขาล้วนแล้วแต่ต้องผ่านการเซ็น ‘สัญญา’ ที่จะนำมาซึ่งผลตอบแทนหรือข้อผูกมัดต่างๆ หลังจากการเดบิวต์เกิดขึ้น

 

ซึ่งมันคงจะดีไม่น้อยถ้าสัญญาดังกล่าวไม่ใช่ ‘สัญญาทาส’ ที่เอื้อประโยชน์ให้กับต้นสังกัดมากกว่าศิลปิน โดยหลังจากเดบิวต์และเริ่มมีชื่อเสียง ศิลปินหลายคนอาจจะต้องเผชิญกับสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เนื่องจากรายรับสวนทางกับตารางงานที่แน่นขนัด และข้อผูกมัดหรือข้อตกลงบางอย่างที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของพวกเขามากจนเกินไป

 

คิมจุนซู คิมแจจุง และปาร์คยูชอน (สมาชิกวง JYJ)

Photo: CJESJYJ/Facebook

 

จากความไม่เป็นธรรมของสัญญาเหล่านี้เอง ทำให้ในวันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 คิมแจจุง ปาร์คยูชอน และคิมจุนซู 3 หนุ่มสมาชิกวงบอยแบนด์ JYJ (อดีตสมาชิกวง TVXQ!) ตัดสินใจยื่นขอคำสั่งศาล เพื่อยกเลิกสัญญาระหว่างพวกเขาและ SM Entertainment (ต้นสังกัดของพวกเขาขณะที่ยังเป็นสมาชิกวง TVXQ!)

 

ซึ่งผลสรุปของคดีดังกล่าวกินเวลานานกว่า 3 ปี 4 เดือน ก่อนที่คดีจะสิ้นสุดลงโดยที่ทั้งสองฝ่ายตกลงว่าจะยกฟ้องคดีทั้งหมดที่มีต่อกัน และจะไม่แทรกแซงหรือรบกวนกิจกรรมใดๆ ของอีกฝ่าย (ในปี ค.ศ. 2010 พวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคในการโปรโมตกิจกรรมต่างๆ เนื่องจากอิทธิพลของต้นสังกัดเดิม)

 

เช่นเดียวกันกับกรณีของ 6 หนุ่มวง B.A.P ที่ตัดสินใจฟ้องต้นสังกัดอย่าง TS Entertainment ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2014 เพื่อยกเลิกสัญญาที่ไม่เป็นธรรมและเข้าข่ายสัญญาทาส โดยอ้างว่าตลอดระยะเวลาการทำงาน 3 ปี พวกเขาได้รับส่วนแบ่งเพียงแค่คนละ 18 ล้านวอน (ประมาณ 500,000 บาท) เท่านั้น ท้ายที่สุดแล้วบทสรุปของ B.A.P ก็จบลงสวยๆ ตรงที่ค่าย TS Entertainment ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการว่าทั้ง 6 หนุ่ม จะกลับมาร่วมงานกับพวกเขาอีกครั้งในวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2015 เป็นต้นไป

 

สมาชิกวง B.A.P

คิมฮิมชาน, มุนจงออบ, บังยงกุก, เจลโล่, ยูยองแจ และจองแดฮยอน

Photo: OFFICIALB.A.P/Facebook

 

จากหลายกรณีที่เกิดขึ้น ทำให้ปัญหาสัญญาทาสเริ่มเบาบางลง และศิลปินได้รับผลประโยชน์ที่เป็นธรรมมากขึ้น แต่ทว่าผลตอบแทนที่ศิลปินได้รับนั้นก็ยังถูกกระจายไปเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ คืนให้กับทางค่ายอยู่ดี โดยเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในระหว่างที่พวกเขาและเธอยังเป็นศิลปินฝึกหัดลากยาวไปจนถึงช่วงเดบิวต์ เช่น ค่าเรียนร้องเพลง, ค่าเรียนเต้น, ค่าเรียนการแสดง, ค่าศัลยกรรม, ค่าสไตลิสต์ และค่าโปรโมต เป็นต้น นี่จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้แฟนคลับต้องช่วยอุดหนุนผลงานศิลปิน เพื่อที่ว่าไอดอลที่รักจะหลุดพ้นจากหนี้สินและลืมตาอ้าปากได้เสียที

 

จูเนียล (Juniel)

Photo: www.c9ent.co.kr

     

ยกตัวอย่างกรณีของ จูเนียล (Juniel) นักร้องสาวจากค่าย C9 Entertainment (ต้นสังกัดปัจจุบัน) ที่เคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุ Kim Shin Young’s Noon Song of Hope (MBC FM4U) เมื่อวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2015 ว่า “บริษัทของเรา (FNC Entertainment ต้นสังกัดของเธอในขณะนั้น) จะไม่ให้เงินจนกว่าเขาจะขายได้ถึงจุดคุ้มทุน ฉันยังไม่มีเงินค่ะ และหนี้สินก็มีแต่เพิ่มขึ้น”

 

สมาชิกวง EXID ฮเยริน, จองฮวา, ฮานิ และแอลอี  

Photo: EXIDOfficial/Facebook

 

เช่นเดียวกันกับวง EXID เกิร์ลกรุ๊ปที่มีชื่อเสียงอยู่ในระดับกลางๆ ช่วงที่ปล่อยซิงเกิล Up & Down ในปี ค.ศ. 2014 จึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรนัก และทำให้พวกเธอต้องเผชิญกับสภาวะขาดทุนมาโดยตลอด จนกระทั่งกลางปี ค.ศ. 2015 Yedang Entertainment ต้นสังกัดของสาวๆ วง EXID เปิดเผยว่า เพลง Up & Down ทำกำไรให้กับทางบริษัทได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้สมาชิกแต่ละคนกำลังจะได้รับผลตอบแทนหลังจากที่พยายามมาตลอด 3 ปี

 

 

โอปป้าซารางเฮโย: ทำความรู้จักกับ ‘ซาแซง’ แฟนคลับคลั่งรัก

นอกเหนือจากสัญญาทาสแล้ว ‘แฟนคลับ’ ก็นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของศิลปินเกาหลีเช่นกัน ‘แฟนคลับ’ เปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจของเหล่าศิลปินในการเดินหน้าสร้างผลงานดีๆ ต่อไป โดยแฟนคลับจากทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างก็มีวิธีสนับสนุนและติดตามศิลปินของตัวเองด้วยวิธีที่แตกต่างกัน ตั้งแต่สนับสนุนอัลบั้มลิขสิทธิ์ ซื้อบัตรชมคอนเสิร์ต ฯลฯ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ศิลปินมีรายได้ หรืออย่างน้อยๆ กรณีเดบิวต์ใหม่ๆ ก็จะช่วยปลดหนี้สินกับทางค่ายให้ได้เร็วขึ้น

 

แต่ถ้าแฟนคลับไม่ใช่แฟนคลับที่สนับสนุนทั่วไปล่ะ?

 

ซาแซง (Sasaeng) คือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของแฟนคลับคลั่งรักที่ตามติดชีวิตและอยากใกล้ชิดศิลปินที่ชื่นชอบให้มากที่สุด ซึ่งการกระทำบางอย่างของแฟนคลับประเภทนี้มักจะเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่กฎหมายของประเทศเกาหลีอาจจะลงโทษได้อย่างไม่เต็มที่มากนัก เพราะซาแซงแฟนบางคนยังเรียนอยู่ในชั้นมัธยมเท่านั้น

 

เราขอยกตัวอย่าง 2 วีรกรรมแสบๆ คันๆ ชวนขวัญผวาที่ซาแซงแฟนเคยทำเอาไว้มาให้ดูกัน

 

เริ่มต้นจาก จี-ดราก้อน (วง BIGBANG) ที่ซาแซงแฟนเคยมาตั้งเต็นท์นอนอยู่หน้าบ้านของเขา สร้างความหวาดกลัวให้กับสมาชิกในครอบครัว จนจี-ดราก้อนต้องออกมาทวีตข้อความขอร้องว่า “เดี๋ยวนี้มีเด็กมาตามผมถึงที่บ้าน… อยู่ที่ประตูหน้าบ้านผมเลย… ผมเข้าใจนะครับ แต่ว่ามันต้องหยุดนะ พอเถอะครับ… แม่กับพี่สาวผมเริ่มกลัวแล้ว”

 

ในขณะที่กรณีของ แทคยอน (วง 2PM) นั้นออกจะหลอนสักหน่อย เนื่องจากแทคยอนเคยได้รับผ้าอนามัยใช้แล้ว พร้อมกับจดหมายที่เขียนด้วยเลือดจากซาแซงแฟนคนหนึ่งว่า “คุณอยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีฉัน” ซึ่งถึงแม้ว่าจะถูกจับในภายหลัง แต่เธอก็ยังไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นซาแซงแฟนอยู่ดี

 

     

แน่นอนว่าการมีคนรักก็ต้องมีคนเกลียดเป็นธรรมดา นอกจากซาแซงแฟนที่คลั่งรักมากจนน่ากลัวแล้ว ‘แอนตี้แฟน’ ที่คอยต่อต้าน และทำลายชื่อเสียง รวมถึงร่างกายของเหล่าไอดอล ก็ถือเป็นกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่น่ากลัวไม่แพ้กัน

 

ซึ่งกรณีที่ฮือฮาที่สุดคงหนีไม่พ้นกรณีของ ยุนโฮ (วง TVXQ!) ที่เขาเคยได้รับน้ำส้มพร้อมจดหมายจากแฟนคลับสาวคนหนึ่ง และภายหลังจากที่เขาดื่มน้ำส้มขวดนั้นเข้าไป เขาก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที ก่อนที่จะพบว่าน้ำส้มขวดนั้นบรรจุกาวชนิดพิเศษเอาไว้ และจดหมายที่แนบมากับน้ำส้มนั้นก็มีข้อความที่มีใจความว่าอยากจะฆ่าเขา

 

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่เหล่าศิลปิน K-Pop ต้องพบเจอ และถึงจะสร้างบาดแผลในความทรงจำ แต่เมื่อสิ่งที่ได้มาคือความหอมหวานในความสุขและความสำเร็จ เด็กหนุ่มสาวจำนวนมากก็พร้อมรอคอยที่จะได้เข้าไปสัมผัส

 

นอกเหนือจากพรสวรรค์ หน้าตา ความสามารถ สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือความเข้มแข็งของจิตใจ ทั้งในด้านที่ประสบความสำเร็จแล้วต้องรับมือกับชื่อเสียงที่ถาโถมเข้าใส่ กับอีกด้านที่พลาดหวัง แต่ก็ต้องยอมรับและใช้ชีวิตเดินหน้าต่อไป

 

ทุกๆ ความสวยงาม มีแง่มุมดำสนิทที่แทรกอยู่เสมอ เพียงแต่ว่าเราจะเลือกมองมันในด้านไหน และอย่างไร

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising