×

มนต์เพลงเสาวลักษณ์ มุมมองความรักและสังคมจากดอกไม้เหล็กของวงการดนตรีไทย

16.06.2017
  • LOADING...

     ในฐานะแฟนเพลงของ ‘แอม เสาวลักษณ์’ ตั้งแต่อ้อนแต่ออก เราและแฟนๆ ของเธอก็ต่างดีใจ ที่วันนี้ได้เห็นภาพการสวมกอดอดีตคนเคยรักอย่าง ‘ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง’ ซึ่งแอม เสาวลักษณ์ ได้โพสต์ภาพลงในอินสตาแกรมส่วนตัว ที่หากใครเป็นแฟนเพลงของเธอในยุค 80s ก็ต้องทราบข่าวดังกล่าวในอดีตนั้นกันเป็นอย่างดี หรือเลยเถิดมาจนถึงคนรุ่น 90s ที่บุพการีของพวกเขาก็ต้องหยิบยกเอาประเด็นนี้ขึ้นมาพูดถึงและเล่าให้ลูกหลานฟังทุกครั้งเมื่อเห็นแอม เสาวลักษณ์ ตามสื่อต่างๆ

 

     

     ความคลางแคลงใจของแฟนๆ เกือบ 20 ปีที่ผ่านมาถูกพังทลายลงด้วยอ้อมกอดในภาพนี้ เพราะเราต่างคิดเสมอว่า ศรัณยูและเสาวลักษณ์ อดีตคู่รักที่โด่งดังของวงการจะกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้หรือไม่? ภาพความรักของทั้งคู่ในวันนั้นเป็นภาพประวัติศาสตร์ ไม่ต่างกับวันนี้ และภาพนี้ที่ได้กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ของวงการบันเทิงไทยอีกครั้ง

 

 

วันนี้เป็นอีกหนึ่งในวันที่ดีที่สุด ไม่มีชีวิตของใคร ที่ทำอะไรลงตัวไปหมดทุกอย่าง แต่เมื่อเวลาล่วงเลย วัยวุฒิพาเรามาสู่จุดแห่งความเข้าใจชีวิต สิ่งที่มี่ค่าที่สุด คือมิตรภาพที่ดีต่อกันในวันนี้ วันนี้เจอกันโดยไม่ได้นัดหมาย กระโดดกอดกันด้วยความดีใจ ความรักและมิตรภาพที่มีให้กันวันนี้ กลับดีงามกว่าเมื่อวัยว้าวุ่นร้อยเท่า…ดีใจมากๆที่ได้เจอกันค้าบบลุงตั้ว…กราบขออโหสิกรรม ในความเฮงซวยต่างๆของน้องที่พึงมีต่อคุงพี่ในวันฤทธิ์มาก กราบจากใจจริง…..รักนะ เย่ๆๆ..!! #รู้สึกตายตาหลับ #ยิบปี้ๆๆๆ…????????

A post shared by เสาวลักษณ์ ลีละบุตร (@ampdidi) on

 

     ‘แอม เสาวลักษณ์’ คือศิลปินอย่างแท้จริง เพราะนอกจากเธอจะเป็นนักร้องที่มีทักษะการร้องที่ดีมากๆ คนหนึ่งของบ้านเรา เธอยังเป็นนักแต่งเพลงที่มีถ้อยคำและเรื่องราวที่น่าสนใจ จนได้รับคำนิยามว่าเป็น ‘ดอกไม้เหล็ก’ ของวงการมาตั้งแต่สมัยออกอัลบั้มแรกในชื่อว่า บันทึกของดอกไม้เหล็ก (2536) ที่มีเพลง ‘กดดัน’ เป็นเพลงเปิด อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายกว่า 900,000 ตลับ และส่งให้ชื่อ แอม เสาวลักษณ์ เป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินเดี่ยวไปทั่วประเทศ

 

 

     หลังจากนั้นเธอยังมีผลงานตามออกมาอีก 8 อัลบั้ม พร้อมเพลงฮิตมากมาย (อัลบั้มล่าสุดคือ Any Amp ในปี 2552) และหากมองให้ลึกถึงบทเพลงของเธอ คนฟังเพลงทั่วไปอาจคิดว่า แอม เสาวลักษณ์ เป็นศิลปินที่มีแต่เพลงเศร้าๆ รักคุด อกหัก ช้ำใจ (ซึ่งเธอยังแขวะตัวเองอยู่บ่อยๆ บนเวทีคอนเสิร์ต)

     แต่หากแฟนเพลงตัวยงของเธอ ก็จะมองเห็นแอม เสาวลักษณ์ในอีกมุมมอง เธอไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่ร้องเพลงเศร้า แต่บทเพลงของเธอยังวิพากษ์วิจารณ์สังคม ทั้งยังพูดถึงมุมมองของชีวิตได้หลากหลาย ซึ่ง THE STANDARD ได้รวบรวมหลายเพลงของแอม เสาวลักษณ์ให้คุณลองไปตามฟัง

 

 

     เริ่มต้นที่เพลง ‘นิยายเมืองหลวง’ อัลบั้ม City Woman (2543) เพลงโฟล์กเมโลดีหม่นจากปลายปากกาของสุรักษ์ สุขเสวี ที่เธอถ่ายทอดเรื่องราวของผู้หญิงในเมืองหลวงที่หายตัวไปในคืนหนึ่ง เนื้อเพลงอาจตีความไปได้ถึงเรื่องของการใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง แต่สังคมกลับละเลย เพราะเธอก็เป็นแค่คนๆ หนึ่งที่ไม่มีใครจดจำ และคงต้องดิ้นรนใช้ชีวิตต่อไป คลิกฟังเพลงได้ที่นี่ 

 

    “เธอไปอยู่ไหน ไม่มีใครถามถึง เป็นใครอีกคนที่โดนสังคมกลืนกินไป

ในเมืองยังมีเรื่องราววุ่นวาย ไม่มีอะไรเปลี่ยน”

 

     ส่วนเพลงฮิตในอัลบั้มเดียวกันอย่าง คิดถึงคนแปลกหน้า อัลบั้ม City Woman (2543) เพลงป๊อปงานดีจากปลายปากกาของดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค ที่เล่าเรื่องของ One Night Stand แบบ ‘Before It Was Cool’ ได้ดีมากๆ เราหลงรักเพลงและเรื่องราวได้เพียงแค่ฟังในครั้งแรกๆ นี่คือเพลงรักที่ทำให้ ‘คืนเดียว’ ที่คนสองคนได้พบกัน ดูโรแมนติกเกินกว่าแค่เรื่องเพศสัมพันธ์ไปมากจริงๆ

 

“ก็แค่เพียงพวกขี้เหงาได้ระบาย พวกชีวิตขาดๆ เกินๆ มาพบกัน

ค่ำคืนนั้นมันผ่านพ้นก็เนิ่นนาน แต่ว่าฉันไม่อาจจะลืมจนคืนนี้”

 

 

     อีกเพลงที่น่าสนใจในภาษาและการถ่ายทอดเรื่องราวของเธอก็คือเพลง มันยังไม่ถึงคิว อัลบั้ม เรื่องน้ำเน่า (2550) หนึ่งในเพลงดีๆ จากอัลบั้มที่โดน underrate ที่สุดของเธอ นอกเหนือจากงานโปรดักชันในการอัดเสียงที่ดีแสนดีแล้ว เรื่องราวในเพลงยังบ่งบอกถึงสัจธรรมในชีวิต ว่าด้วยเรื่องคนดีและคนเลว ซึ่งก็ให้มุมมองที่เป็นด้านบวก พร้อมให้แง่คิดดีๆ แก่ผู้ฟังด้วย คลิกฟังเพลงได้ที่นี่ 

 

“มันยังไม่ถึงคิวที่ฟ้าจะตัดสิน มันคงต่อคิวกันมากมาย
คงยังไม่ถึงคราว ให้ฟ้าเช็กบิลไป คงมีวันนึงที่ต้องใช้กรรม”

 

หรืออย่างเพลงในอัลบั้มเปิดตัวของเธอที่ชื่อ เมืองร้าง อัลบั้ม บันทึกของดอกไม้เหล็ก (2536) ด้วยเนื้อหาโดยรวมถ้ามาฟังในยุคนี้ เธออาจจะดูเป็นผู้ใหญ่หัวโบราณไปนิด ที่เขียนเพลงพร่ำสอนให้คนรู้จักใช้เทคโนโลยีให้ดี (ใช่ ในเพลงมีคำว่าเทคโนโลยีด้วยนะ ใส่มาแบบทื่อๆ เลย) แต่หากฟังแล้ว จริงๆ เธอก็เลือกที่จะบอกว่าใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ เพื่อพัฒนาการที่ดีของคนและเมือง ล้ำสมัยสุดๆ คลิกฟังเพลงได้ที่นี่

 

“เมืองงามตึกงามที่เคยงอกเงย ยานยนต์ก่ายเกยกันใหญ่

คนคือจักรกลไม่มีหัวใจ กลไกจักรกลที่คืบคลานรุกรานสู่เมืองใหญ่”

 

     ส่วนเพลงที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือเพลงฮิตระเบิดของเธอในยุคหลัง ครึ่งหนึ่งของชีวิต อัลบั้ม May Love Remain (2548) มุมมองความรักง่ายๆ ที่พอจะเป็นกำลังใจให้กับคนฟังได้ง่ายๆ เช่นกัน เปิดฟังเมื่อไรก็รู้สึกดี ภาพจำของเพลงนี้ก็คือการโคจรมาเล่นมิวสิกวิดีโอรวมกันของสองศรีพี่น้อง นุ่น-ดารัณ และพลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์

 

“นั่งมองดูแขนมองดูมือ ดูหน้าตามองตัวเอง จ้องกระจกดูสักครั้ง นั่นใคร
เก็บชีวิตที่เหลือเหลือ ทำให้ดีจะได้ไหม แล้วไม่นานจิตใจจะเต็มเหมือนเดิม”

 

 

     แอม เสาวลักษณ์ ในวันนี้อาจไม่ใช่ผู้หญิงฟูมฟายอย่างเมื่อก่อนแล้ว ชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมา 52 ปี ทำให้เธอเป็นมากกว่าศิลปิน เธอคือผู้หญิงคนหนึ่งที่เจ็บได้ ร้องไห้เป็น และมีชั้นเชิงในการเล่าเรื่องผ่านบทเพลงที่เก่ง และสร้างสรรค์มากๆ คนหนึ่งของวงการบันเทิงไทย

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising