หลังจากการล่มสลายของ FTX อดีตเว็บเทรดคริปโตเคอร์เรนซีอันดับ 2 ของโลก ทำให้เกิดความกังวลว่าผลกระทบครั้งนี้จะลุกลามในวงกว้างหรือไม่ นักวิเคราะห์การลงทุนจาก AJ Bell เปิดเผยว่า “ไม่มีสัญญาณของผลกระทบที่ลุกลามจากตลาดคริปโตไปสู่ตลาดสินทรัพย์แบบดั้งเดิม”
ตลาดสินทรัพย์ดั้งเดิมไม่ได้รับผลกระทบจากการล่มสลายของ FTX
FTX อดีตเว็บเทรดคริปโตเคอร์เรนซีอันดับ 2 ของโลก ได้ประกาศล้มละลายเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากประสบปัญหาสภาพคล่อง การล่มสลายของเว็บเทรดชื่อดังสร้างผลกระทบต่อบริษัทคริปโตหลายแห่ง รวมถึงนักลงทุนสถาบันจำนวนมาก จนทำให้เกิดคำถามต่อไปว่า ผลกระทบที่ลุกลามนี้จะกระจายไปในวงกว้างมากแค่ไหน และจะลามไปถึงตลาดสินทรัพย์แบบดั้งเดิมด้วยหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- การอัปเกรด The Merge ของ Ethereum และทิศทางในอนาคตของเหรียญ ETH
- สรุปการล่มสลายของ FTX ที่อาจจุดชนวนวิกฤตในตลาดคริปโต
- ไมเคิล เบอร์รี เตือนการล่มสลายครั้งประวัติศาสตร์กำลังจะเกิดขึ้น โดยมีต้นตอจากตลาดคริปโต
นักวิเคราะห์การลงทุนจาก AJ Bell กล่าวว่า “ไม่มีสัญญาณของผลกระทบที่ลุกลามจากตลาดคริปโตไปสู่ตลาดสินทรัพย์แบบดั้งเดิม” นอกจากนี้ เลธ คาลาฟ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนกล่าวในรายการ Squawk Box Europe เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมว่า แม้ตลาดคริปโตจะมีมูลค่ามหาศาล แต่มันถูกสร้างขึ้นเป็นระบบนิเวศที่แยกจากสินทรัพย์แบบดั้งเดิม ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีผลกระทบที่ลุกลาม อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีผลกระทบในอนาคต เพราะหากระบบมีปัญหาต่อไป มันก็อาจส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์อื่นๆ ได้ แม้เขาจะยังไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นก็ตาม
ประธาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ ย้ำถึงการกำกับดูแลมากขึ้นในอนาคต
การล่มสลายของ FTX ทำให้เกิดข้อเรียกร้องทางด้านกฎระเบียบและการกำกับดูแลที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ คริสติน ลาการ์ด ประธานสหภาพยุโรป (EU) เผยว่า กฎหมายทางด้านคริปโตมีความจำเป็นต่อสหภาพยุโรป และล่าสุด แกรี เจนส์เลอร์ ประธานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (ก.ล.ต.) ได้เน้นย้ำถึงการกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโตในอนาคต
แกรี เจนส์เลอร์ ให้สัมภาษณ์ต่อหน้าสภากำกับดูแลเสถียรภาพทางการเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ (FSOC) ว่าตลาดคริปโตไม่ได้ขัดต่อกฎหมายหลักทรัพย์ แต่ความเสี่ยงจากการเก็งกำไร ความผันผวน และสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดส่วนใหญ่ทำให้นักลงทุนตกอยู่ในความเสี่ยง นี่คือเหตุผลที่การกำกับดูแลบริษัทที่เป็นตัวกลางและผู้ออกโทเคนหลักทรัพย์ให้เป็นไปตามข้อกำหนดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ประธาน ก.ล.ต. ยังได้เน้นย้ำว่า “แม้ว่าความเสี่ยงจากตลาดคริปโตโดยทั่วไปจะไม่ได้ลุกลามไปยังภาคการเงินแบบดั้งเดิม แต่เราต้องระมัดระวังเพื่อป้องกันความเป็นไปได้นั้นที่อาจเกิดขึ้น”
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง: