Plant-Based Food หรืออาหารที่ไม่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์ กำลังเป็นเทรนด์ที่ธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ต่างให้ความสนใจ และเปิดตัวสินค้ากันอย่างคึกคัก ล่าสุดเป็นคิวของซีพีแรม ผู้ผลิตสินค้าพร้อมรับประทานรายใหญ่ให้กับ 7-Eleven ก็ลงมาเล่นตลาดนี้ด้วย
ซีพีแรมตั้งชื่อแบรนด์ Plant-Based Food ของตัวเองว่า VG for Love โดยสิ่งที่จะแตกต่างจากอาหารพร้อมรับประทานทั่วไปคือกล่องใส่จะเป็นสีฟ้า โดยจะมีการแยกอาหารเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่แม้จะเป็นมังสวิรัติ แต่จะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่เหมือนกัน ได้แก่ อาหารเจ, อาหารวีแกน, อาหารมังสวิรัติกับนม, อาหารมังสวิรัติกับไข่ และอาหารมังสวิรัติกับนมและไข่
เบื้องต้นจะวางขายพร้อมกัน 10 เมนู ในราคา 39-45 บาท โดยวางขายผ่านช่องทางแม็คโคร, 7-Eleven (Online) ตลอดจนร้านค้าอื่นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล หลังจากนั้นจะขยายไปวางทั่วประเทศผ่านร้าน 7-Eleven
“ที่เราต้องเปิดทีเดียว 10 เมนู เป็นเพราะต้องการสร้างทางเลือก หากมีเมนูให้เลือกน้อยจะทำให้ลูกค้าเบื่อได้ง่าย ซึ่งเมนูที่เปิดตัวไปนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ตลอดไป แต่เราจะเปลี่ยนไปเลยตามความต้องการของผู้บริโภค” วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าว
การบุกตลาด Plant-Based Food ในครั้งนี้ ซีพีแรมได้วางเป้าหมายรายได้ในปี 2564 ไว้ที่ 200 ล้านบาท ก่อนจะขยับเป็น 500 ล้านบาทในปี 2565 และเป็น 1,000 ล้านบาทในปี 2566 พร้อมกันนี้ยังวางเป้าหมายว่าภายใน 3-5 ปี สัดส่วนรายได้จาก Plant-Based Food จะต้องอยู่ที่ราว 20% ของกลุ่มอาหารทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันอาหารคิดเป็นยอดขาย 2 ใน 3 ของซีพีแรม
สำหรับผลประกอบการในปี 2563 นั้นเดิมซีพีแรมวางเป้าหมายที่ต้องการเติบโต 10% แต่ด้วยการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยและกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้ในที่สุดซีพีแรมปิดปีด้วยรายได้ 19,373 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปี 2563 ที่ทำได้ 19,922 ล้านบาท โดยยอดขายหลักนั้นยังคงมาจาก 7-Eleven มากถึง 95% ร้านที่ไม่ใช่ 7-Eleven อีก 3% และส่งออก 2% ตลอดจนมีการออกสินค้าใหม่มากกว่า 338 รายการ
“การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ปรับเป้าหมายยอดขายใหม่ โดยต้องการให้เท่ากับปี 2562 ให้มากที่สุด เราโชคดีว่าสามารถทำได้สำเร็จเกือบเท่าเดิม แม้ว่าจะลดลงไปเล็กน้อยเกือบ 3% ก็ตามที”
ในปี 2564 ซีพีแรมวางเป้าหมายต้องการเติบโต 10% เป็นมูลค่า 21,310 ล้านบาท โดย 95% มาจาก 7-Eleven อีก 4% มาจากร้านที่ไม่ใช่ 7-Eleven และส่งออก 2%
ในปีนี้ซีพีแรมสร้างโรงงานเบเกอรีแห่งใหม่ที่จังหวัดชลบุรี ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท มีกำลังผลิต 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน หรือ 20,000 ตันต่อเดือน ซึ่งโรงงานใหม่แห่งนี้จะสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในเดือนมิถุนายน ปี 2565 โรงงานแห่งนี้นับเป็นโรงงานเบเกอรีแห่งที่ 6 และโรงงานแห่งที่ 16 ของซีพีแรม
วิเศษขยายความว่า โรงงานเบเกอรีแห่งนี้มีการลงทุนที่มากกว่าโรงงานเบเกอรีทั่วไป เพราะนอกจากจะสามารถทำเบเกอรีสดได้แล้ว ที่นี่ยังมีเบเกอรีแช่แข็งสำหรับนำไปผลิตต่อที่โรงงานย่อยแห่งอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ซีพีแรมกำลังประเมินที่จะสร้างโรงงานอาหารพร้อมรับประทานแห่งใหม่ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1,500-3,000 ล้านบาทด้วยกัน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล