เซ็นทรัลพัฒนาเผยตลาดคอมมูนิตี้มอลล์ไม่ Over Supply แม้มีผู้เล่นเข้ามาหลายราย หากมีพื้นที่และโปรดักต์ดีได้เปรียบแน่! พร้อมทุ่มงบ 2 พันล้านบาท พัฒนาโครงการ Market Place แย้มจะเปิดปีละ 1 สาขา จับลูกค้าตามย่านกำลังซื้อสูง ประเดิมด้วยสาขาเทพรักษ์ในเดือนมกราคม 2568
วุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ Chief Operating Officer & Head of Community Mall Business บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ในยุคที่ลูกค้าแต่ละย่านมีความต้องการที่ Fragmented มากขึ้น จึงเป็นโอกาสของธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ และข้อดีของคอมมูนิตี้มอลล์คือสามารถไปเปิดในโลเคชันที่ห้างใหญ่ไม่สามารถสร้างได้ ยกตัวอย่างในย่านทองหล่อ พหลโยธิน และดุสิต ซึ่งเป็นย่านที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- CPN ทุ่ม 700 ล้านบาทดึงซานต้าตัวจริง พร้อมอาร์ตทอย 23 คาแรกเตอร์ สูง 4 เมตร ปลุกมู้ดจับจ่ายในเซ็นทรัล
- CPN เผยอินไซต์วัยรุ่น Gen Z ฮิตดื่มกาแฟ พร้อมจ่ายราคาต่อเสิร์ฟสูงถึง 1,500 บาทหากรสชาติและประสบการณ์ดี
- CPN เตรียมยก ‘เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า’ ให้เทียบชั้นเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เตรียมขยายพื้นที่ Luxury Brand เพิ่ม 4 เท่าภายใน 2 ปี
“เราเชื่อว่าตลาดนี้ไม่มีทาง Over Supply แม้จะมีผู้เล่นกระโดดเข้ามาหลายราย ต้องบอกว่าถ้าค่ายไหนมีพื้นที่และโปรดักต์ดีก็จะได้เปรียบคู่แข่งแน่นอน ที่สำคัญคนที่ปรับตัวได้เร็ว สายป่านยาว มีทีมงานที่แข็งแกร่ง จะสร้างการเติบโตทั้งในแง่รายได้และกำไรได้” วุฒิเกียรติระบุ
หากย้อนไปปีที่แล้วเซ็นทรัลพัฒนาเปิดตัวโครงการ Marche’ Thonglor มิกซ์ยูสใจกลางทองหล่อ ซึ่งได้รับการตอบรับดี แต่จากนี้จะโฟกัสไปที่การพัฒนา Market Place ให้เป็น Core Brand ให้มีความแข็งแกร่งและเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัวและลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ต้องการความสะดวก
ภายใน 5 ปีข้างหน้าบริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 2 พันล้านบาท เพื่อปรับปรุงและพัฒนาโครงการทั้งหมด 15 โครงการให้ชื่อ Market Place ทั้งหมด และขยายสาขาอย่างน้อยปีละ 1 แห่ง ส่วนใหญ่ที่วางแผนไว้จะเปิดในกรุงเทพฯ เป็นหลัก ส่วนต่างจังหวัดก็มองเห็นโอกาสการลงทุนและต้องพิจารณาจังหวะที่เหมาะสม
สิ่งที่น่าสนใจของ Market Place คือจะมีร้านค้าและร้านอาหารชื่อดังมากกว่า 300 แบรนด์ การบริการต่างๆ และพื้นที่ให้ทำกิจกรรม โดยนำ DNA ของเซ็นทรัลพัฒนาที่ทำศูนย์การค้ามากว่า 40 ปี มีฐานข้อมูลที่ทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าเข้ามาเสริมการบริการให้ตอบโจทย์ได้มากขึ้น
เบื้องต้นในปี 2568 จะเริ่มเปิดตัวโครงการ Market Place สาขาเทพรักษ์ ซึ่งจะถือเป็นฟอร์แมตใหม่ที่ปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัยขึ้นในย่านซึ่งอยู่กึ่งกลางถนนรามอินทราและวัชรพล มีพื้นที่ขนาด 5,800 ตารางเมตร จำนวน 60 ร้านค้า และพื้นที่ Urban Fresh Market ขนาด 1,500 ตารางเมตร จำนวน 300 ร้านค้า และมีพื้นที่ Pet Friendly พาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นได้ ซึ่งจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนมกราคม 2568
วุฒิเกียรติกล่าวต่อไปว่า คอมมูนิตี้ของ CPN จะมีร้านสตรีตฟู้ดที่แข็งแรงมาก ทำคล้ายกับตลาดสด มีทั้ง Ready-to-Eat ซื้อกลับบ้าน และเดลิเวอรี พื้นที่เหล่านี้มีผลดีกับคู่ค้า เพราะลงทุนต่ำ ไม่ต้องแต่งร้านมากก็สามารถเปิดขายได้แล้ว จากนี้โมเดลไหนทำแล้วดีก็จะทำต่อ CPN เป็นนักพัฒนาอยู่แล้ว
ทั้งนี้ Market Place สาขาเทพรักษ์จะมีอนาคตที่สดใส เพราะบริเวณโดยรอบมีโครงการที่อยู่อาศัยกว่า 174,000 ยูนิต มีอัตราการเพิ่มจำนวน 2.4% ต่อปี และมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 4 แสนคน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่กันเป็นครอบครัวและมีกำลังซื้อสูง ซึ่งจะตอบโจทย์ในแง่ของความสะดวกสบายมากขึ้น
แถมยังสอดคล้องกับความต้องการของคนเมืองที่มีเวลาจำกัดและอยากจะใช้เวลาหลังเลิกงานให้เป็นประโยชน์ แตกต่างจากการเดินศูนย์การค้าที่ต้องใช้เวลามากกว่า
อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์โตเฉลี่ย 3-5% และเชื่อว่าทั้งหมดจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งของ Ecosystem ให้เซ็นทรัลพัฒนาเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่งปัจจุบันเซ็นทรัลพัฒนามีโครงการศูนย์การค้า 42 โครงการ, คอมมูนิตี้มอลล์ 15 โครงการ, ที่อยู่อาศัย 43 โครงการ, โรงแรม 10 โครงการ และออฟฟิศ 10 โครงการ