เมื่อวานนี้ (15 กันยายน) ทางการเมียนมารายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 307 รายในวันเดียว สูงสุดนับตั้งแต่มีการระบาดในประเทศเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังเมียนมากำลังเผชิญหน้ากับการระบาดระลอกใหม่ เบื้องต้นยังไม่มีการระบุถึงต้นตอหรือคลัสเตอร์ของการแพร่ระบาด โดยพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในเมียนมาคืออดีตเมืองหลวงอย่างย่างกุ้ง และเมืองท่าที่สำคัญของรัฐยะไข่อย่างซิตเว
จากยอดผู้ติดเชื้อสะสม 882 รายเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 3,502 ราย หรือเพิ่มกว่า 3 เท่าตัวในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทางการเมียนมาได้เร่งสร้างพื้นที่กักตัวแห่งใหม่บริเวณสนามฟุตบอลแห่งหนึ่งในย่างกุ้งเพิ่มเติมแล้ว เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่คาดว่าจะสูงขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้ นอกจากเมียนมาแล้ว ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียยังเป็นประเทศเพื่อนบ้านในย่านอาเซียนที่กำลังเผชิญการระบาดอย่างหนักในช่วงเวลานี้
ล่าสุดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านมานานกว่า 8 เดือนแล้ว ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 29.7 ล้านรายแล้ว (29,714,695 ราย) รักษาหายกว่า 21.5 ล้านราย (21,522,606 ราย) หรือคิดเป็นกว่า 2 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เสียชีวิตแล้ว 938,388 ราย อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ราว 3.2% โดยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเกินวันละ 1 แสนรายติดต่อกันนานถึง 112 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา
สหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศที่พบผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในโลก (6,787,640 ราย) ขณะที่อินเดียรั้งอันดับสอง (5,018,034 ราย) มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 91,120 ราย ตามมาด้วยบราซิล (4,384,299 ราย) รัสเซีย (1,073,849 ราย) และเปรู (738,020 ราย) พบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 181 จาก 193 ประเทศทั่วโลก มีเพียงมาเก๊า เกรนาดา เซนต์คิดส์และเนวิส และนครรัฐวาติกันเท่านั้นที่ผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมดหายดีแล้วและยังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเติม