วานนี้ (12 กันยายน) ทางการฝรั่งเศสยืนยัน พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มเกิน 10,000 รายในวันเดียว (10,561 ราย) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการระบาด ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 373,911 ราย เสียชีวิตแล้ว 30,910 ราย โดยแคว้นที่พบผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในฝรั่งเศสคือ อีล เดอ ฟร็องส์ (41,745 ราย) ตามมาด้วยแคว้นกร็องแต็สต์ (17,404 ราย) และแคว้นโอแวร์ญ-โรนาลป์ (10,971 ราย)
ล่าสุด การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านมานานกว่า 8 เดือนแล้ว ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 28.9 ล้านรายแล้ว (28,939,036 ราย) รักษาหายกว่า 20.8 ล้านราย (20,805,780 ราย) หรือคิดเป็นกว่า 2 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เสียชีวิตแล้ว 924,562 อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ราว 3.2% โดยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเกินวันละ 1 แสนราย ติดต่อกันนานถึง 109 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา
สหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศที่พบผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในโลก (6,676,601 ราย) ขณะที่อินเดียรั้งอันดับ 2 (4,751,788 ราย) ตามมาด้วยบราซิล (4,315,858 ราย) รัสเซีย (1,057,362 ราย) และเปรู (722,832 ราย) พบผู้ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 181 จาก 193 ประเทศทั่วโลก มีเพียงกัมพูชา มาเก๊า เกรนาดา เซนต์คิดส์และเนวิส และนครรัฐวาติกัน เท่านั้นที่ผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมดหายดีแล้ว และยังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเติม
