ถือเป็นหนึ่งข่าวดีของประเทศไทย แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะยังไม่หยุดนิ่ง แต่อย่างน้อยประเทศไทยก็เริ่มทยอยฉีดวัคซีนกันบ้างแล้วในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ภาครัฐก็เริ่มทยอยผ่อนคลายเกณฑ์การกักตัว เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผู้เดินทางเข้ามาในประเทศ
ล่าสุด สายการบินหลายแห่งก็เริ่มทยอยประกาศเปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศ และเพิ่มเส้นทางบินในประเทศมากขึ้น
การเข้ามาของวัคซีนโควิด-19 จึงทำให้บรรยากาศเศรษฐกิจเริ่มมีทิศทางสดใสขึ้นทันที โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้เข้าประเทศมากถึงปีละประมาณ 2 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อจีดีพีสูงเกือบ 20% แม้ว่ารายได้ในส่วนนี้จะยังไม่เท่ากับรายได้จากการส่งออกก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะสายการบิน เริ่มจะเห็นแสงสว่างและตื่นภวังค์ จากอาการสิ้นหวังขึ้นมาบ้าง
อย่างไรก็ตาม หนทางข้างหน้าอาจจะยังทุลักทุเล แต่ปีนี้ธุรกิจท่องเที่ยวคงต้องฝากความหวังไว้กับการเปิดน่านฟ้า หลังจากที่ไทยปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมานานกว่า 1 ปีเต็ม สูญเสียรายได้ไปกว่า 2 ล้านล้านบาท
ล่าสุด มีข่าวดีเกี่ยวกับ ‘วัคซีนพาสปอร์ต’ ที่ภาครัฐส่งสัญญาณลดวันกักตัวไว้ชัดเจน สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วและมีใบรับรองว่าปลอดเชื้อโควิด-19 จนบรรดาสายการบินต่างๆ เริ่มทยอยเปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศและในประเทศมากขึ้น
เช่น การบินไทย เตรียมเปิดเที่ยวบินพิเศษ 13 เส้นทางเอเชีย-ยุโรป ช่วงเดือนมีนาคมนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการการเดินทางและรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร เช่นเดียวกับสายการบินแอร์เอเชีย ประกาศเพิ่มเส้นทางและเที่ยวบินภายในประเทศ ตั้งแต่ 1 เมษาายน ครบทั้ง 40 เส้นทาง ทั้งบินตรงจากกรุงเทพฯ และข้ามภาค รวมทั้งเพิ่มความถี่การบินและปริมาณที่นั่งให้กลับมาบริการครบ 100% รองรับความต้องการเดินทางต่อวันที่มากขึ้น
ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเองก็ได้ผลักดันโมเดลใหม่ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย โดยเฉพาะการผ่อนคลายมาตรการกักตัวอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไปจะมีการปรับลดวันกักตัวและเงื่อนไขการกักตัว (Quarantine) ในทุกๆ 2 เดือน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ จนกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาจะไม่ต้องกักตัวอีก ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 นี้ เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ
เปิดโมเดล Sandbox ใน 3 จังหวัด รับนักท่องเที่ยวต่างชาติฉีดวัคซีนไม่ต้องกักตัว
อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจและความเดือดร้อนของผู้ประกอบการในจังหวัดท่องเที่ยวหลักๆ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เร่งขับเคลื่อนโมเดล Sandbox โดยจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 ครั้งแล้ว ให้เข้ามาประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว ภายในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ให้ได้
ซึ่งจะนำร่องใน 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต กระบี่ และพังงา เพราะในปี 2562 ทั้ง 3 จังหวัดสร้างรายได้รวมกันได้กว่า 6 แสนล้านบาท คิดเป็น 1 ใน 5 หรือคิดเป็น 20% ของรายได้รวมการท่องเที่ยวไทย 3 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็น ภูเก็ตมูลค่า 4.7 แสนล้านบาท, กระบี่มูลค่า 1 แสนกว่าล้านบาท และพังงามูลค่า 4.5 หมื่นล้านบาท แต่ทั้งนี้โมเดลดังกล่าวนี้ประชากรใน 3 จังหวัดต้องได้รับการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่า 70% ด้วย สอดรับกับกระทรวงสาธารณสุข มีมาตรการผ่อนปรนนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศความเสี่ยงต่ำ เดินทางเข้ามาในไทยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ โดยผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ลดการกักตัวเหลือ 7 วัน และหากตรวจไม่พบเชื้อ สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดอื่นต่อได้ แต่ถ้ายังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลยจะต้องกักตัว 10 วันในบริเวณโรงแรม
ในส่วนของภาคเอกชน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้จัดทำรายงานการศึกษาการกำหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว 2564 เรื่องการทยอยเปิดการท่องเที่ยวให้เร็วขึ้นภายใต้การควบคุมทางสาธารณสุข โดยระบุว่า การผ่อนปรนมาตรการสาธารณสุขที่เอื้อต่อการท่องเที่ยว คือ การเดินทางระหว่างประเทศที่มีภูมิคุ้มกันหมู่ หรือประชากรส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันมากขึ้นถึงระดับหนึ่ง และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ รองรับการเปิดท่องเที่ยวให้เร็วขึ้นได้ ซึ่งการกำหนดกลยุทธ์การฉีดวัคซีนหนาแน่นในพื้นที่ท่องเที่ยวคู่ขนานไปกับแผนการฉีดวัคซีนของประเทศ ซึ่ง สทท. คาดหวังว่าการฉีดวัคซีนของประเทศไทยจะเป็นการจุดประกายโอกาสในการพลิกฟื้นการท่องเที่ยวของประเทศให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากการท่องเที่ยวซบเซามาตั้งแต่ต้นปี 2563
แม้ขณะนี้จะเริ่มมีการเดินทางของคนไทยมากขึ้นแต่ก็ยังไม่มาก เนื่องจากยังไม่ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มที่เหมือนเดิม สะท้อนได้จากปริมาณการใช้สนามบิน 6 แห่งของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในช่วงเดือนมกราคม 2564 มีปริมาณผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศเพียง 698,390 คน ติดลบ 92.81%
แบ่งเป็น สนามบินสุวรรณภูมิ มีปริมาณผู้โดยสารรวม 308,505 คน ติดลบถึง 94.95%, สนามบินดอนเมือง 389,885 คน ติดลบ 89.20%, สนามบินเชียงใหม่ 108,285 คน ติดลบ 90%, สนามบินหาดใหญ่ 86,573 คน ติดลบ 72.54%, สนามบินภูเก็ต 88,325 คน ติดลบ 95.36% และสนามบินเชียงราย 54,274 คน ติดลบ 80.03%
‘ATTA’ หวังไทยเปิดประเทศปีนี้ รับนักท่องเที่ยว 8 ล้านคน ฟื้นรายได้ 5 แสนล้านบาท
ล่าสุด สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ATTA ได้ทำหนังสือถึงรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้เปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนไวรัสโควิด-19 แล้ว โดยไม่ต้องกักตัว โดยให้เหตุผลว่า ขณะนี้หลายประเทศทั่วโลกได้ทยอยฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 300 ล้านคน โดยคาดว่าครึ่งปีแรกนี้ ทั่วโลกจะมีผู้ฉีดวัคซีนกว่า 1,000 ล้านคน และประเมินว่าคนที่ฉีดวัคซีนแล้วต้องการออกนอกประเทศกว่า 200 ล้านคน ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยสูง และเป็นเป้าหมายที่หลายชาติต้องการให้เข้าไปท่องเที่ยวแบบไม่ต้องกักตัว หากประเทศไทยสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้จะทำให้ปี 2564 นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาราว 8 ล้านคน สร้างรายได้มากถึง 5 แสนล้านบาท และเกิดการจ้างงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน รวมถึงผู้ประกอบการภาคธุรกิจท่องเที่ยวสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ เชื่อว่าการที่รัฐบาลปลดล็อกมาตรการและลดจำนวนวันกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติได้สำเร็จ รวมถึงคนไทยทยอยฉีดวัคซีน น่าจะเป็นแสงสว่าง และเป็นความหวังที่จะพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจการบิน โรงแรม ภัตตาคาร มัคคุเทศก์ ธุรกิจทัวร์ ให้กลับมาและสร้างรายได้ ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้อีกครั้ง
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล