แม้แต่ผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถืออย่าง AIS ก็ดูจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบเชิงลบที่เกิดจากโควิด-19 ได้ เมื่อบริษัทได้เปิดผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และพบวามีรายได้รวมอยู่ที่ 42,256 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 4.1% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,235 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว 6.7%
ยอดผู้ใช้บริการรวมของโทรศัพท์มือถือทั้งระบบเติมเงินและรายเดือนอยู่ที่ 41.019 ล้านราย ลดลงจากช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 1.1% โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งานหนึ่งรายหรือ APRU อยู่ที่ 239 บาท/หมายเลข/เดือน ลดลงจากปีที่แล้วที่ประมาณ 6.6% ส่วนหนึ่งถือเป็นผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ลากยาวมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1
อย่างไรก็ดี ถึงแม้โควิด-19 จะทำให้ธุรกิจมือถือของ AIS ได้รับผลกระทบอยู่บ้าง แต่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน ‘เอไอเอส ไฟเบอร์’ ก็ยังได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากมาตรการ Work from Home ด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นมากถึง 112,000 ราย สูงที่สุดนับตั้งแต่ที่ AIS เริ่มต้นให้บริการอินเทอร์เน็ตบ้าน ส่งผลให้มีจำนวนผู้ใช้บริการรวมที่ 1,202,600 ราย
ทั้งนี้ AIS ยืนยันว่ายังคงนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิ และประกาศจ่ายเงินปันผล 3.24 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 3 กันยายน 2563 นี้ และยังคงงบลงทุนเครือข่าย ทั้ง 4G, 5G ประมาณ 35,000 ล้านบาท เพื่อมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลร่วมฟื้นฟูประเทศในทุกระดับ
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในภาพรวมของผลประกอบการไตรมาส 2/63 ถือเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยอยู่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยมาตรการล็อกดาวน์ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาวะเศรษฐกิจ ธุรกิจโทรคมนาคมได้รับผลกระทบจากการลดลงของนักท่องเที่ยว และการปิดบริการชั่วคราวของ AIS Shop, Serenade Club และ AIS Telewiz ในพื้นที่ตามประกาศของภาครัฐ รวมถึงการสนับสนุนมาตรการของ กสทช. เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้ใช้บริการ ทั้งการมอบดาต้าและค่าโทรฟรีในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม เป็นอีกสาเหตุที่ส่งผลต่อรายได้ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่
“แต่ในส่วนธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านได้รับผลเชิงบวกจากการที่ลูกค้าต้องทำงานหรือเรียนหนังสือจากบ้าน ทำให้มีความต้องการติดอินเทอร์เน็ตบ้านสูงขึ้นมาก ด้วยผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 บริษัทมุ่งเน้นที่จะบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพื่อคงความแข็งแรงของกระแสเงินสดให้สามารถลงทุนในธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุน 5G เพื่อการเติบโตในระยะยาว”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
