วันนี้ (30 พฤศจิกายน) ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย กรณีที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภารวม 105 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 ว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ. … มาตรา 25 และมาตรา 26 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 93 และมาตรา 94 หรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่าคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมาย และมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง
กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 09.30 น.
สำหรับสาระสำคัญที่มีการจับตาคือสูตรการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ที่ใช้สูตรหาร 100 ซึ่งเป็นการกลับไปใช้สูตรคำนวณเหมือนครั้งรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2540 และ 2550 ซึ่งก่อนหน้าในครั้งการเลือกตั้ง 2562 ใช้สูตรคำนวณบัญชีรายชื่อแบบจัดสรรปันส่วนผสม ก่อนที่จะมีแก้ไขรับธรรมนูญและแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกัน โดยมีผู้เสนอให้ใช้สูตรหาร 500 อีกด้วย
ทั้งนี้ คำร้องดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาโดยครบกำหนดเวลาพิจารณา 180 วัน และส่งให้ กกต. ทำความเห็น ก่อนจะส่งร่าง พ.ร.ป. ฉบับนี้กลับไปยังประธานรัฐสภา และเตรียมส่งนายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ประกาศใช้ภายใน 20 วัน โดยนายกรัฐมนตรีจะต้องรอไว้ 5 วัน เพื่อรอว่าจะมีผู้ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่ามีผู้ร้อง จึงยังไม่ได้นำทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศใช้ ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จก่อน