วันนี้ (17 มีนาคม) ที่ประชุมรัฐสภา ลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ด้วยวิธีขานชื่อรายบุคคล โดยที่ประชุมมีมติ
เห็นชอบ 208 เสียง
ไม่เห็นชอบ 4 (ส.ว. ทั้งหมด) เสียง
งดออกเสียง 94 เสียง
ไม่ประสงค์ลงคะแนน 136 เสียง
ส.ว. (เห็นชอบ) 2 เสียง
สรุป: ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งมีสาระสำคัญคือ ให้เลือกตั้ง สสร. มาจัดทำรัฐธรรมนูญ ไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เนื่องจากไม่ผ่าน 2 เงื่อนไขคือ เสียงไม่เกินกึ่งหนึ่งของสองสภา และเสียงเห็นชอบ ส.ว. ไม่ถึง 1 ใน 3 คือ 84 เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงมติครั้งนี้ ส.ส. หลายคนเลือกที่จะไม่อยู่ในห้องประชุม โดยพรรคภูมิใจไทยวอล์กเอาต์ไม่ร่วมลงมติ ทำให้คะแนนไปอยู่กลุ่มไม่ประสงค์ลงคะแนน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำพรรคคนสำคัญลงมติเห็นชอบ อาทิ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และพนิช วิกิตเศรษฐ์ ขณะที่สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ไม่ร่วมลงมติ
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส. พลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ลงมติไม่ประสงค์ลงคะแนน ทั้งที่เป็นประธานวิปรัฐบาล และแถลงข่าวว่ามติพรรคพลังประชารัฐคือให้สมาชิกงดออกเสียง
สำหรับการประชุมในวันนี้ตั้งแต่ช่วงสายมีการประชุมไปกว่า 9 ชั่วโมง เพื่อหาแนวทางว่าจะลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 หรือไม่ จนที่สุดที่ประชุมเห็นชอบตามญัตติของไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. พลังประชารัฐ ที่เสนอญัตติให้ที่ประชุมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ต่อไป ทำให้ญัตติทั้ง 3 ที่เสนอมาก่อนหน้านี้ ได้แก่
1. ไม่ให้มีการลงมติร่างแก้ไข รธน. ในวาระ 3 เพราะขัดกับคำวินิจฉัยศาล รธน. ที่ 4/2564
2. ขอให้ศาล รธน. วินิจฉัยอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาตามมาตรา 210 (2) ตามรัฐธรรมนูญปี 2560
3. ขอให้ลงมติวาระที่ 3 ตามระเบียบวาระการประชุมเป็นอันตกไปทั้งหมด
ชาดา ไทยเศรษฐ ส.ส. พรรคภูมิใจไทย ถามที่ประชุมว่า ตกลงเราต้องเข้าสู่การลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 โดยการขานชื่อรายบุคคลใช่หรือไม่ โดยประธานกล่าวว่า “ใช่ครับ”
ชาดา กล่าวต่อทันทีว่า “ผมคงไม่ร่วมสังฆกรรมด้วยกับพวกปลิ้นปล้อน ศรีธนญชัย และไร้สาระสิ้นดี นี่คือสภาโจ๊ก”
ต่อมา ชาดาให้สัมภาษณ์หลังจากวอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุมว่า สภาประชุมมาทั้งวันมีการตกลงกันแล้วว่าจะมีการเสนอ 3 ญัตติ แต่สุดท้ายมาพลิกกลางอากาศ ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้อยู่แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เมื่อถามว่า แบบนี้ถือว่าส่อเจตนาคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ชาดากล่าวว่า ชัดเจนอยู่แล้ว ถามว่าทำมาเพื่ออะไร 2 วาระ จนมาถึงตอนนี้แล้วมาคว่ำโดยอ้างศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อศาลตัดสินก็หยุดการกระทำวาระ 3 ไว้แล้วไปทำประชามติ ถ้าประชาชนเห็นด้วยก็หยิบมาดำเนินการต่อ ไม่ได้เสียหายอะไร ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แล้วบางคนไม่รู้ว่าตัวเองมีหน้าที่อะไรก็ไม่สมควรมาเป็นสมาชิกรัฐสภา
เมื่อถามว่า ต้องพุดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ชาดากล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แต่ต้องแยกว่าเรื่องรัฐธรรมนูญก็เรื่องหนึ่ง เรื่องของรัฐบาลก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องรัฐธรรมนูญที่เรารับปากประชาชนไว้ เราก็ต้องดำเนินการของเรา
