×

ชุดคดีมินนี่ยืนยันมีหลักฐานเส้นทางการเงินเครือข่ายพนันถึง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เชื่อ ป.ป.ช. จะตรวจสอบเข้มจนชี้มูลความผิด

โดย THE STANDARD TEAM
22.02.2024
  • LOADING...

วันนี้ (22 กุมภาพันธ์) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ชี้แจงกรณีที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงชุดคณะสืบสวนสอบสวนคดีเว็บพนันเครือข่ายมินนี่ ว่าไม่มีสิทธิในการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว เนื่องจากคดีนี้มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 200-300 ล้านบาท ต้องโอนคดีให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอเป็นผู้สอบสวน

 

พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ระบุว่าคดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่เพียงแค่คดีเดียว มีเงินหมุนเวียนในบัญชีเพียง 75 ล้านบาท แต่ที่ก่อนหน้านี้ตนพูดว่ามีมูลค่าทางคดีรวมมากกว่า 200-300 ล้านบาท เป็นการนำทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ต่างๆ มารวมกัน 

 

ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกดดันคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ส่งสำนวนคดีดังกล่าวกลับมาให้ตำรวจ แต่มองว่าคดีดังกล่าวตำรวจมีการสืบสวนสอบสวนในสำนวนที่เกี่ยวข้องไปหมดแล้ว จึงอยากให้นำคดีดังกล่าวกลับมาเพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการทำคดี และไม่ต้องการให้เกิดการตอบโต้ไปมาระหว่างสองฝ่ายจนทำให้ประชาชนมองว่าตำรวจทะเลาะกันเอง

 

ส่วนเรื่องพยานหลักฐานเส้นทางการเงินที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ยืนยันว่าตำรวจมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน เนื่องจากในระหว่างการเข้าจับกุม คณะชุดสืบสวนสอบสวนกว่า 200 นาย ซึ่งขณะนี้ทาง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ได้ฟ้องร้องดำเนินคดี ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในคดีดังกล่าวอย่างละเอียด ตั้งแต่วันเข้าจับกุมวันแรก ซึ่งหลักฐานที่ตรวจยึดได้มีการบันทึกข้อมูลไว้ชัดเจนว่ามีการใช้จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวอย่างไร ได้รับมาจากใครบ้าง

 

ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าหากคดีดังกล่าว ป.ป.ช. ไม่ส่งสำนวนกลับมาแต่จะเป็นผู้ไต่สวนเอง ก็เชื่อว่าจะต้องชี้มูลความผิดแน่นอน และจะมีการสืบสวนสอบสวนที่เข้มข้นและเจาะลึกกว่าตำรวจ

 

พล.ต.ต. จรูญเกียรติกล่าวต่อว่า ในส่วนข้อร้องทุกข์กล่าวโทษมาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ฯ และมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ ตำรวจได้ส่งสำนวนการสืบสวนสอบสวนไปให้ ป.ป.ช. แล้ว และหากมีการส่งสำนวนกลับมาชุดสืบสวนสอบสวนก็พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมกับข้อหาฟอกเงินไปในคราวเดียวกัน

 

ส่วนประเด็นที่อัยการสั่งสอบเพิ่มใน 7 ประเด็น ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ทำสำนวนไม่ดีจนอัยการต้องสั่งให้สอบเพิ่มใน 7 ประเด็น ประเด็นดังกล่าวเกิดจากความไม่มั่นใจในข้อกฎหมายว่าตำรวจสามารถสอบปากคำพลตำรวจนายดังกล่าวใน 7 ประเด็น ซึ่งเคยสอบปากคำในสำนวนแรกได้หรือไม่ จึงส่งเรื่องให้อัยการสั่งให้ตำรวจที่ทำคดีสอบเพิ่มเองเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในข้อกฎหมาย ไม่ใช่การทำสำนวนไม่รู้เรื่อง 

 

ส่วนประเด็นที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวถึงนายตำรวจยศพลตำรวจเอกที่ดูแลคดีดังกล่าวให้ออกมาพูด แทนที่จะส่งตนเอง ซึ่งเป็นตำรวจยศพลตำรวจตรีมาพูดแทน พล.ต.ต. จรูญเกียรติชี้แจงว่า พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะดูแลงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงานในคดีดังกล่าวที่ไม่ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพราะต้องการให้ข้อมูลออกมาในทิศทางเดียวกัน จึงได้ลงมติในที่ประชุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (20 กุมภาพันธ์) ให้ตนเองเป็นโฆษกในคดีนี้ ยืนยันว่าไม่ใช่การหลบหน้า

 

ซึ่งคณะทำงานชุดนี้ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นคนคัดเลือกและแต่งตั้งด้วยตนเอง เพราะเห็นความสามารถและความเชี่ยวชาญทางคดี

 

เมื่อถามต่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ พล.ต.ต. จรูญเกียรติกล่าวว่า ไม่ใช่ความขัดแย้ง พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้ง ทุกอย่างว่ากันไปตามพยานหลักฐาน

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising