เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งกับโครงการดีๆ ที่ชวนคนไทยหันมาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมแยกขยะ พร้อมร่วมกิจกรรมลุ้นรางวัลใหญ่ ซึ่งในครั้งที่ผ่านมานั้นประสบความสำเร็จอย่างมากมาย เพราะสร้างแรงจูงใจให้คนไทยหันมาเปลี่ยนพฤติกรรมได้เป็นจำนวนไม่น้อย และในปีที่ 2 นี้ จัดยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพราะ “โคคา-โคล่า” เพิ่มทั้งระยะเวลา ของรางวัล แถมยังผนึกกำลังกับพันธมิตรมากขึ้นกว่าเดิม ทั้ง Trash Lucky, บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน), โลตัส และบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ซึ่งเชื่อแน่ว่าจะขยายผลให้คนไทยอีกไม่น้อยหันมาร่วมรักษ์โลกด้วยการคัดแยกขยะกันตั้งแต่ต้นทาง เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่างแน่นอน
จากวิสัยทัศน์ “World Without Waste” สู่ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชคกับ Trash Lucky ปี 2
นอกจากพันธมิตรเดิมในปีแรกแล้ว แคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ในปีที่ 2 ยังมีพันธมิตรที่ทรงพลังและมุ่งขับเคลื่อนเป้าหมายเดียวกันเพิ่มอย่าง เชลล์ และ โลตัส
แคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชคกับ Trash Lucky เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ ‘World Without Waste’ ของ “โคคา-โคล่า” ซึ่งมุ่งใช้และจัดการกับบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มอย่างรับผิดชอบ หนึ่งในเป้าหมายหลักคือการจัดเก็บบรรจุภัณฑ์เพื่อนำกลับมารีไซเคิลให้ได้ในปริมาณเทียบเท่ากับปริมาณที่จำหน่ายออกสู่ตลาดให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก่อนปี 2573 ทั้งนี้ นันทิวัต ธรรมหทัย ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์ การสื่อสารและความยั่งยืน บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด ได้เล่าถึงความเป็นมาของแคมเปญดังกล่าวในปีแรกให้ฟังว่า
“อันที่จริงแล้ว “โคคา-โคล่า” เราดำเนินงานและมีโครงการต่างๆ ตามวิสัยทัศน์ของ ‘World Without Waste’ อย่างการจัดการขยะโดยทำงานร่วมกับชุมชนต่างๆ ฯลฯ มาโดยตลอดอยู่แล้ว สำหรับแคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชคกับ Trash Lucky นี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2564 พร้อมกับเปิดตัวดีไซน์ฉลากบรรจุภัณฑ์ใหม่ของ “โคคา-โคล่า” ในประเทศไทยที่เพิ่มคำว่า “โปรดรีไซเคิล” เข้ามาเพื่อสร้างความตระหนักถึงการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง โดยเราได้ร่วมมือกับ Trash Lucky ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพเพื่อสิ่งแวดล้อมที่มุ่งสร้างพฤติกรรมแยกขยะเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล”
“เพื่อขยายผลความสำเร็จจากแคมเปญนี้ในปีที่ผ่านมา รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ถึงความจำเป็นในการคัดแยกบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วที่มีค่าอย่างขวดพลาสติกหรือกระป๋องออกจากขยะทั่วไป เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างยั่งยืน เราจึงสานต่อแคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ปีที่ 2 สำหรับปีนี้นอกจาก Trash Lucky และบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) พันธมิตรหลักแล้ว เรายังจับมือกับพันธมิตรใหม่ๆ อย่าง โลตัส และบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ซึ่งทุกฝ่ายต่างก็มีความมุ่งมั่นส่งเสริมการรีไซเคิลเช่นเดียวกับ “โคคา-โคล่า”
“พวกเราทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าการแก้ปัญหาขยะนั้นไม่ใช่ความรับผิดชอบของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเรายินดีต้อนรับทุกองค์กรที่สนใจมาร่วมกันผลักดันการรีไซเคิลให้ขยายวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะองค์กรที่พร้อมจะทำหน้าที่เป็นจุดรับวัสดุรีไซเคิลเพิ่มเติม เราทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการแข่งขันทางการค้า ดังนั้นไม่ว่าองค์กรใดในภาคธุรกิจใดก็แล้วแต่ ขอเพียงมีเป้าหมายเป็นหนึ่งเดียว เราก็ยินดีต้อนรับเป็นพันธมิตรเข้ามาทำงานร่วมกัน โดยสามารถแจ้งความจำนงไปที่ Trash Lucky ซึ่งจะทำหน้าที่ช่วยเราในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มจุดรับพัสดุรีไซเคิลใหม่ๆ ให้เชื่อมโยงกับเครือข่ายปัจจุบันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการด้านการขนส่งและรวบรวม ตลอดจนเพื่อมอบความสะดวกและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคที่สนใจเข้าร่วมส่งวัสดุรีไซเคิล”
นันทิวัต ธรรมหทัย
ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์ การสื่อสารและความยั่งยืน
บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด
“โคคา-โคล่า” ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ในการร่วมกันทำงานเพื่อสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ทั้งยังคาดการณ์ว่าด้วยระยะเวลาของโครงการที่ยาวนานขึ้นเป็น 6 เดือนเต็ม และแรงจูงใจเป็นรางวัลที่มากขึ้นกว่าปีก่อน โดยในปีนี้มีมูลค่ารวมถึงกว่า 2,000,000 บาท น่าจะทำให้มีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้น มากไปกว่านั้นการเพิ่มจุดรับวัสดุรีไซเคิลที่กระจายมากขึ้น จะมอบความสะดวกให้กับทุกคน ซึ่งน่าจะทำให้แคมเปญในปีนี้สามารถรวบรวมขยะและนำส่งเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่างถูกต้องมากกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน
ผนึกกำลังพันธมิตรร่วมกันสร้างให้เกิดไลฟ์สไตล์การรีไซเคิลในชีวิตประจำวัน
ในการจะดำเนินโครงการนี้ให้ประสบผลสำเร็จและสานต่อขยายผลให้คนไทยหันมาเปลี่ยนพฤติกรรมแยกขยะกันตั้งแต่ต้นทางนั้น พันธมิตรหลักที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดกิจกรรมนี้ตั้งแต่ปีที่แล้วอย่าง ณัฐภัค อติชาตการ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แทรชลัคกี้ จำกัด ได้กล่าวถึงข้อสังเกตที่น่าสนใจในปีที่ผ่านมาว่า กลุ่มเป้าหมายของแคมเปญนี้มีด้วยกันหลักๆ 3 กลุ่ม ได้แก่
- สายกรีน หรือคนที่มีใจรักสิ่งแวดล้อมและมีพฤติกรรมอยากจะรีไซเคิลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
- สายลุ้น ซึ่งอาจจะต้องมีแรงจูงใจในการแยกขยะเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรม
- สายบุญ คือคนที่ต้องการจะร่วมทำสิ่งดีๆ ด้วยการเก็บรวบรวมขยะพลาสติกไปรีไซเคิลทำเป็นชุด PPE และส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในภาคใต้ของประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
“จากปีที่แล้วเราประสบความสำเร็จในการเก็บรวบรวมพลาสติกได้ถึงกว่า 3,500 กิโลกรัม หรือขวดขนาด 600 มิลลิลิตรประมาณ 157,500 ขวด ซึ่งต้องขอขอบคุณทาง “โคคา-โคล่า” ที่ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นขวดของแบรนด์ “โค้ก” เท่านั้น นอกจากนี้ยังรวมถึงขยะประเภทอื่นอย่างแก้ว กระดาษ และโลหะ ทำให้เราสามารถเก็บรวบรวมขยะไปรีไซเคิลได้ทั้งหมดมากถึง 23 ตันในเวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้นเองครับ ส่วนในปีนี้เรามีความมุ่งหวังว่าด้วยการขยายเวลานานขึ้นเป็น 6 เดือน และการที่ทาง “โคคา-โคล่า” ยินดีมอบรางวัลจูงใจเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ก็น่าจะยิ่งทำให้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมลุ้นรับรางวัลมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของแทรชลัคกี้ ในการสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนหันมาแยกขยะรีไซเคิลตั้งแต่ต้นทาง เพื่อลดขยะในหลุมฝังกลบและในมหาสมุทร โดยนอกจากของรางวัลแรงจูงใจ ผมคิดว่า Key Successes ที่สำคัญของโครงการนี้อย่างหนึ่งก็คือความสะดวกของผู้บริโภค ซึ่งในปีนี้เราดีใจมากที่ได้พันธมิตรใหม่ๆ อย่างโลตัสและเชลล์ประเทศไทยมาเข้าร่วมตั้งจุดรับวัสดุรีไซเคิลทั่วกรุงเทพฯ และเรายังเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมแรงร่วมใจของผู้บริโภคจะนำไปสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ในปีนี้เราจะมีการวัดผลและสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคเกี่ยวกับความเข้าใจและทัศนคติการรีไซเคิล เพื่อปรับปรุงการทำงานที่จะทำให้เกิดไลฟ์สไตล์การรีไซเคิลในชีวิตประจำวัน เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมคัดแยกขยะอย่างยั่งยืนครับ”
ณัฐภัค อติชาตการ
ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แทรชลัคกี้ จำกัด
ด้าน นวีนสุดา กระบวนรัตน์ หัวหน้าฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีภารกิจหลักในการมอบชีวิตใหม่ให้กับพลาสติก PET ที่ใช้แล้วโดยการเปลี่ยนเป็นเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิล ได้กล่าวว่า
“ในปีที่แล้วเราประสบความสำเร็จในการนำขวดพลาสติก PET ที่รวบรวมได้ไปรีไซเคิลผลิตเป็นชุด PET คุณภาพสูง และนำไปมอบแก่สำนักงานสาธารณสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับปีนี้เรามีความยินดีที่ได้ร่วมทำงานเพื่อเป็นการตอบรับกับการปลดล็อกกฎหมายอนุญาตให้ใช้ขวดพลาสติก PET ใช้แล้วมารีไซเคิลเพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม โดยระหว่างนี้เรากำลังดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สอดคล้องกับรายละเอียดข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ดีความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อสร้างความเข้าใจในนวัตกรรมการรีไซเคิลที่ดียิ่งขึ้นหรือการผลิตพลาสติก PET รีไซเคิลที่ถูกสุขอนามัยสำหรับอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังสร้างความตระหนักรู้ถึงความจำเป็นในการแยกวัสดุรีไซเคิลออกจากขยะอื่นๆ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความมั่นใจว่าประเทศไทยจะมีการผลิตพลาสติก PET รีไซเคิลที่มีคุณภาพ และอยากจะฝากถึงประชาชนคนทั่วไปให้ช่วยกันคัดแยกขยะอย่างถูกวิธีกันตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งทุกวันนี้สามารถหาข้อมูลวิธีที่ถูกต้องได้ง่ายมากจากอินเทอร์เน็ต หรือถ้าไม่แน่ใจจริงๆ ว่าทำอย่างไรก็ขอให้แยกขยะออกจากขยะอาหาร เพื่อที่จะสามารถนำไปคัดแยกต่อได้ และง่ายต่อกระบวนการนำไปรีไซเคิล”
นวีนสุดา กระบวนรัตน์
หัวหน้าฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)
ในส่วนของโลตัสที่ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของจุดรับวัสดุรีไซเคิล สลิลลา สีหพันธุ์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน ธุรกิจโลตัสประเทศไทย นั้นเห็นว่าปัญหาขยะที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะขยะพลาสติกเป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เป็นเหตุผลที่ทำให้โลตัสซึ่งมีเป้าหมายดำเนินงานตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนเข้าร่วมเป็นพันธมิตรในแคมเปญฯ นี้
“โลตัสมีความยินดีอย่างยิ่งในการเป็นพันธมิตรร่วมแคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky เพราะสอดคล้องกับพันธกิจของโลตัสในการช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าแยกขยะและนำมารีไซเคิลได้อย่างสะดวกที่สาขาของเรา โดยในเบื้องต้นจะร่วมมือจัดตั้งจุดรีไซเคิลที่โลตัส 6 สาขา ได้แก่ ลาดพร้าว วังหิน มีนบุรี ลาดกระบัง บางกะปิ และพระราม 2 เพื่อนำบรรจุภัณฑ์กลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”
เช่นเดียวกับอีกหนึ่งพันธมิตรหลักอย่าง บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ซึ่งกรรมการบริหารธุรกิจโมบิลิตี้ของบริษัทฯ อย่าง เรืองศักดิ์ ศรีธนวิบุญชัย ได้กล่าวถึงกลยุทธ์ที่สำคัญของเชลล์ นั่นคือ ‘Powering Progress’ ที่มุ่งดำเนินธุรกิจให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 และการจัดการขยะพลาสติกนั้นก็เป็นส่วนสำคัญหนึ่งของกลยุทธ์ดังกล่าว
“เชลล์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรในแคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ในปีนี้ เราหวังจะเป็น Trusted Partner กับทั้ง “โคคา-โคล่า” Trash Lucky อินโดรามา และโลตัส ซึ่งล้วนมีเป้าหมายเดียวกันในการจัดการกับปัญหาขยะพลาสติกในประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยผู้บริโภคที่เข้าร่วมแคมเปญสามารถรับความสะดวกจากจุดตั้งรับขยะรีไซเคิลได้ที่สถานีบริการน้ำมันเชลล์ทั้ง 15 สาขาทั่วกรุงเทพฯ”
เป้าหมายสุดท้าทาย: คนไทยหันมารีไซเคิลกันได้จริงและยั่งยืนจะทำได้อย่างไร
จากความมุ่งหวังและเป้าหมายของแคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ที่ต้องการช่วยทำให้คนไทยหันมามีพฤติกรรมแยกขยะกันตั้งแต่ต้นทางอย่างยั่งยืน เรารู้สึกสงสัยว่าเป้าหมายที่ท้าทายเช่นนี้จะทำให้เป็นจริงได้อย่างไร สำหรับคำถามนี้ ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์ การสื่อสารและความยั่งยืน บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด ให้คำตอบว่า
“ผมคิดว่าความท้าทายในเรื่องนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนครับ อย่างแรกก็คือการชักชวนและปรับมุมมองให้ผู้บริโภคหันมาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม จากที่ไม่เคยแยกขยะเพื่อนำไปรีไซเคิลเลยก็เป็นเรื่องที่ยากมากอยู่แล้ว แต่โจทย์ที่ยากไม่แพ้กันก็คือเราจะทำอย่างไรเพื่อให้การแยกขยะนั้นง่ายสำหรับเขา ซึ่งบทเรียนจากแคมเปญนี้ในปีแรกได้บอกกับเราว่าการมีรางวัลเป็นแรงจูงใจนั้นก็ดี แต่จะดีขึ้นยิ่งขึ้นมากถ้ามีจุด Drop Point ที่ช่วยมอบความสะดวกให้กับคนที่ต้องการแยกขยะอยู่แล้ว เราจึงดีใจมากที่เชลล์และโลตัสเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับเราในปีนี้ และยังเปิดรับสมัครพันธมิตรที่ต้องการจะร่วมเป็นจุดรับวัสดุรีไซเคิลให้กับเราอีก ผมคิดว่าประชาชนคนไทยจำนวนไม่น้อยหรอกครับที่ต้องการจะช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยการแยกขยะ ขอแค่เขารู้ว่าจะเอาไปไว้ที่ไหน ซึ่งมันสะดวกกับการใช้ชีวิตของเขาด้วย พอทำได้อย่างนั้นก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างยั่งยืน”
อย่าลืมคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง แล้วส่งมาเข้าร่วมกิจกรรม “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ปี 2
ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมแคมเปญ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ปี 2 ได้ง่ายๆ ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ลงทะเบียนเข้าร่วมแคมเปญที่ LINE Official Account: @TrashLucky ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566
- คัดแยกและรวบรวมบรรจุภัณฑ์วัสดุรีไซเคิล พลาสติก อะลูมิเนียม แก้ว กระดาษ หรือโลหะ ตามปริมาณที่กำหนด ส่งมายังที่อยู่ที่ระบุไว้เพื่อแลกเป็นตั๋วลุ้นรับของรางวัลใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ ทองคำ บัตรกำนัล โดยในปีนี้ผู้ร่วมกิจกรรมจะได้ลุ้นรับรางวัลถึง 3 ต่อ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
- จับรางวัลและประกาศผู้ได้รับรางวัลทุกวันที่ 15 และ 20 ของเดือน พฤศจิกายนและธันวาคม 2565 ตลอดจนเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม และเมษายน 2566 ตามลำดับ ทาง Facebook Page: https://www.facebook.com/trashlucky และสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในช่องทางเดียวกัน
- ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ ดูได้ที่ https://trashlucky.com/recycleme บริษัทหรือหน่วยงานที่ต้องการเข้าร่วมแคมเปญ ร่วมตั้งถังเป็นจุดรับพัสดุรีไซเคิลติดต่อได้ที่ [email protected]