×

โค้ชเช กับเส้นทางการสละสัญชาติเกาหลีใต้สู่โค้ชสัญชาติไทย หัวใจไทย

27.08.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 MINS READ
  • โค้ชเช หรือเชวยองซอก ผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย ประกาศสละสัญชาติเกาหลีใต้ พร้อมเดินเรื่องขอสัญชาติไทยเต็มตัว
  • โค้ชเชเป็นขวัญใจของแฟนกีฬาชาวไทยด้วยการนำพาความสำเร็จมาสู่วงการเทควันโดไทยนับตั้งแต่การก้าวเข้ามาคุมทีมในปี 2545 ทั้งคว้าแชมป์โลก เหรียญทองแดงโอลิมปิก เหรียญทองเอเชียนเกมส์
  • โค้ชเชพบกับกระแสวิจารณ์ทางสังคมอย่างหนักในปี 2557 จากการลงโทษ ก้อย-รุ่งระวี ขุระสะ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย จนมีข่าวเกือบอำลาตำแหน่ง แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยการแถลงข่าวขอโทษจากก้อย รุ่งระวี และคำยืนยันจากโค้ชเชว่าจะไม่มีบทลงโทษแบบนี้อีกในอนาคต

เอเชียนเกมส์เป็นมหกรรมกีฬาที่เป็นพื้นที่สำหรับการพิสูจน์ความเป็นเลิศของทัพนักกีฬาในแต่ละชาติ แม้ว่าไทยจะไม่ใช่ชาติมหาอำนาจกีฬาแห่งเอเชียอย่างจีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ แต่สำหรับกีฬาอย่างเทควันโดที่ไทยสามารถคว้า 2 เหรียญทองและ 2 เหรียญทองแดงมาครองได้สำเร็จก็เป็นบทพิสูจน์ถึงความสำเร็จที่ทางสมาคมกีฬาเทควันโดฯ นักกีฬาทีมชาติไทย และ โค้ชเช ชเวยองซอก ผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ ได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา  

 

 

และเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา โค้ชเช หนึ่งในปัจจัยสำคัญของความสำเร็จก็ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนแล้วว่าเขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งกับทัพนักกีฬาไทยตลอดไปด้วยการประกาศสละสัญชาติเกาหลีใต้ และเดินเรื่องขอสัญชาติไทยอย่างเต็มตัว

 

คำร้องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก โค้ชเชซึ่งก้าวเข้ามาคุมทีมชาติไทยตั้งแต่ปี 2545 ได้แสดงความผูกพันกับทัพนักกีฬาและประเทศไทยมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ใกล้เคียงความสำเร็จมากที่สุดสำหรับหัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้หัวใจไทย

 

 

โค้ชเชกับจุดเริ่มต้นของวินัยสไตล์เกาหลีใตัในเทควันโดไทย

รังสิญา นิสัยสม, ชัชวาล ขาวละออ, ชนาธิป ซ้อนขำ และพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ คือรายชื่อของนักกีฬาไทยที่คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จภายใต้การทำงานของโค้ชเช

 

รวมถึงเหรียญเงินโอลิมปิกในปี 2008 และ 2016 เหรียญทองแดงโอลิมปิกในปี 2004, 2012 และ 2016 และเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2010, 2014 และ 2018 รวมถึง 6 เหรียญทองในซีเกมส์ครั้งล่าสุดที่มาเลเซียเมื่อปี 2017 คือจุดที่โค้ชเชได้นำพาวงการเทควันโดไทยก้าวขึ้นมาตั้งแต่ที่ได้เซ็นสัญญาเข้ามาคุมทีมชาติไทยครั้งแรก

 

เรื่องของทักษะและเทคนิคนั้นคงได้รับการพิสูจน์ไปแล้วจากความสำเร็จที่กล่าวมา แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของแนวทางการฝึกซ้อมของโค้ชเชคือวินัยที่มาก่อนความสามารถ

 

“วันแรกผมจำได้ว่ามี 2-3 คนมาสาย ผมก็ถามว่าทำไมมาสาย เขาบอกว่าก็ตื่นนอนเร็ว เข้าห้องน้ำ มีเหตุผลต่างๆ ผมก็ไม่ให้ซ้อม ให้กลับบ้าน กลับห้อง

 

“ผมมาครั้งแรก มาเรียนภาษาไทยครั้งแรกบอกสบายๆ ของภาษาไทยบอกปาลีๆ หรือเร็วๆ

 

“แต่สำหรับเรื่องกีฬาต้องเอาจริงเอาจังแล้ว ต้องสบายๆ ก็หลังจากเหรียญทองแล้ว

 

“การแข่งขันไม่มีสบายๆ ต้องเอาจริงเอาจัง ต้องเริ่มที่ใจก่อน”

 

คือปรัชญาการทำงานของโค้ชเชที่ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ คนค้นฅน เมื่อปี 2556 เมื่อถูกถามถึงการปรับรูปแบบวิธีการฝึกซ้อมและมุมมองกีฬาของทัพนักกีฬาไทยให้เข้ากับความสำเร็จของเทควันโดในระดับนานาชาติ

 

 

โดยตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา วินัยกับทักษะของโค้ชเช ประกอบกับความสามารถของนักกีฬาไทยก็ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในเวทีโลก

 

โค้ชเชในวันที่เกือบอำลาทีมชาติไทย

แต่ความสำเร็จที่โค้ชเชได้นำพาจากความมีวินัยนั้น แน่นอนว่าต้องพบกับแรงเสียดทานในบางครั้ง และเหตุการณ์สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดกระแสว่าโค้ชเชอาจอำลาทีมชาติไทยก็เกิดขึ้นเมื่อปี 2557

 

‘ก้อย’ ย้ำ ‘โค้ชเช’ ต่อยเต็มแรง แฉคนอื่นก็ทนไม่ได้ แต่ไม่กล้าพูด

 

‘โค้ชเช’ รับลงโทษจริง แต่ไม่ได้ต่อย ‘น้องก้อย’

 

เจาะข่าวเด่นเปิดใจ ‘ก้อย รุ่งระวี’ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย

 

คือสิ่งที่ปรากฏบนหน้าสื่อกระแสหลัก โดยเริ่มจากเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2557 เมื่อ ก้อย-รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทยเจ้าของเหรียญทองแดงชิงแชมป์เอเชีย 2014 ออกมาเปิดเผยว่าถูกโค้ชเช หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ ลงโทษเกินกว่าเหตุด้วยการทำร้ายร่างกายโดยชกต่อยเข้าที่ใบหน้าและท้องในการแข่งขันเทควันโดที่ประเทศเกาหลีใต้

 

โดยเหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดจากการที่ก้อย รุ่งระวี ไม่พร้อมในการเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัว ทำให้คู่ต่อสู้ต้องมายืนรอในสนามนานถึง 5 นาที แถมฟอร์มในการเตะเมื่อลงสนามดูไม่มีความพร้อมและแพ้ให้กับเจ้าภาพไป 4-15 จนโค้ชเชซึ่งติดตามชมการแข่งขันอยู่ตลอดเรียกก้อย รุ่งระวี มาลงโทษต่อหน้านักกีฬาและทีมงาน

 

จากเหตุการณ์​ที่เกิดขึ้น การโพสต์ผ่านโลกโซเชียลมีเดียของก้อย รุ่งระวี และการออกรายการโทรทัศน์ช่องต่างๆ ทำให้หัวข้อนี้กลายเป็นที่ถกเถียงในวงกว้างว่าการกระทำของโค้ชเชเหมาะสมหรือเกินความจำเป็น

 

หลังจากนั้นโค้ชเชได้ขอใช้เวลาทบทวนตัวเองที่ประเทศเกาหลีใต้เป็นสัปดาห์จนเกิดกระแสว่าโค้ชเชอาจอำลาทีมชาติไทยและไม่เดินทางกลับมาอีกแล้ว

 

แต่แล้ววันที่ 20 กรกฎาคม โค้ชเชได้ตัดสินใจกลับมาประเทศไทยพร้อมกับการต้อนรับจากแฟนกีฬาจำนวนมากที่มารอให้กำลังใจที่สนามบินสุวรรณภูมิ และออกแถลงการณ์ว่า

 

“ผมไม่ได้ทำร้ายก้อย แต่เป็นการทำโทษแบบปกติให้นักกีฬามีระเบียบวินัยดีขึ้น เพราะก้อยเป็นหนึ่งในนักกีฬาความหวังที่มีโอกาสไปแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่อินชอน หากเขาทำผิดแล้วเราไม่ตักเตือนหรือลงโทษก็จะทำให้มีอิทธิพลกับนักกีฬาคนอื่นๆ ที่เหลือ ยิ่งไปกว่านั้นนักกีฬาทุกคนคือลูกชายและลูกสาวของตัวเอง ผมเป็นโค้ช จะทำร้ายลูกตัวเองได้อย่างไร”

 

เหตุการณ์ในครั้งนั้นจบลงด้วยแถลงการณ์ขอโทษจากทางก้อย รุ่งระวี และโค้ชเช ซึ่งโค้ชเชเองก็ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

 

สุดช็อค ‘โค้ชเช’ เตรียมลาไทย โยกซบสหพันธ์จอมเตะโลก

 

ปี 2559 เป็นอีกหนึ่งครั้งที่กระแสโค้ชเชเตรียมอำลาทีมชาติไทยเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง เมื่อสื่อได้เริ่มรายงานว่าจากความพยายามขอสัญชาติไทยของโค้ชเชที่ไม่ประสบความสำเร็จและได้รับการทาบทามจากสหพันธ์เทควันโดโลก

 

 

“นอกจากการเป็นโค้ชทีมเทควันโดไทย ตนคงไม่เป็นโค้ชให้ชาติไหนอีก แต่ตอนนี้สหพันธ์เทควันโดโลกได้ทาบทามให้ตนไปช่วยงานที่สหพันธ์ อนาคตตนอาจจะไปทำงานช่วยเหลือสหพันธ์เพื่อพัฒนากีฬาเทควันโดทั่วโลก

 

 

“และถ้าตนไม่ได้สัญชาติไทยอาจจะไม่ได้เป็นโค้ชทีมชาติไทย ซึ่งตนรักประเทศไทย รักนักกีฬาทุกคน แต่เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องหมดจากการเป็นโค้ช ไม่วันนี้ก็ต้องมีวันหน้า แต่ถ้ายังเป็นพลเมืองที่นี่ ตนจะอยู่และตายที่ประเทศไทย”

 

 

เป็นบทสัมภาษณ์ที่โค้ชเชได้กล่าวไว้เมื่อปี 2559 กับหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่งเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าพร้อมทุ่มเทเพื่อเทควันโดไทย และแสดงความต้องการสิทธิ์ในการอยู่ประเทศไทยเหมือนพลเมืองไทย

 

 

ซึ่งสุดท้ายโค้ชเชยังคงทำหน้าที่ต่อจนถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2561 หลังภารกิจที่เอเชียนเกมส์ ซึ่งโค้ชเชได้ประกาศย้ำชัดอีกครั้งว่าพร้อมสละสัญชาติเกาหลีใต้เพื่อเดินหน้ายื่นเรื่องเป็นพลเมืองไทย

 

 

วันที่โค้ชเชพร้อมสละสัญชาติเกาหลีใต้

“แต่ติดตรงที่เกาหลีใต้ไม่ให้ชาวเกาหลีถือสองสัญชาติ” คือบทสัมภาษณ์ที่โค้ชเชยอมรับถึงปัญหาก่อนหน้านี้ที่ทำให้ตนไม่สามารถขอสัญชาติไทยได้สำเร็จ  

 

แต่มาถึงวันนี้โค้ชเชได้ยืนยันแล้วว่าเขาพร้อมที่จะสละสัญชาติเกาหลีใต้ โดยเหตุผลหลักที่โค้ชเชได้ตัดสินใจสละสัญชาติเกิดจากการสูญเสียคุณย่าที่โค้ชเชรักและเคารพ ซึ่งก่อนหน้านี้โค้ชจะใช้เวลา 2-3 ครั้งต่อปีเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้เพื่อพบเจอและดูแลคุณย่า

 

“เดิมทีเขามีครอบครัวที่ทำให้ต้องไป เพราะเขามีคุณย่าที่เลี้ยงเขามาอยู่ที่โน่น เขาก็ยังไปมาบ่อย ยังไม่อยากจะโอนสัญชาติ ก็เป็นห่วงย่า แต่วันนี้คุณย่าได้เสียไปแล้ว เขาก็อยากขอเป็นคนไทย แล้วก็ฝากภาครัฐให้ช่วยดำเนินการให้ด้วยครับ

 

“ใช่ครับ เขาไม่เอาเกาหลีแล้ว เขาจะเป็นคนไทยครับ”

 

ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์ในวันที่ทัพนักกีฬาเทควันโดเดินทางกลับมายังประเทศไทยพร้อมกับความสำเร็จในเอเชียนเกมส์ 2018 อีกครั้งภายใต้การคุมทัพของโค้ชเช   

 

โดยคำยืนยันครั้งนี้ตรงกับบทสัมภาษณ์ที่โค้ชเชได้เคยกล่าวไว้เมื่อปี 2556 ในรายการ คนค้นฅน เมื่อโค้ชเชเดินทางกลับไปยังเกาหลีใต้เพื่อเข้าพบผู้ฝึกสอนของเขาและคุณย่าจุงคิเมียว ที่ดูแลเปรียบเสมือนเป็นพ่อและแม่ของโค้ชเช

 

“สำหรับครอบครัวผม จริงๆ ก็มีแค่คุณย่ากับพี่สาว

 

“จริงๆ ผมตัวอยู่ไทย แต่ใจอยู่เกาหลี ครอบครัวที่นี่ คุณย่าเป็นเหมือนคุณพ่อคุณแม่ สำหรับใจผมก็อยู่ที่นี่ แต่ว่ายังไงก็ต้องทำงานอยู่ที่ไทย

 

“คุณย่าต้องอยู่ไปจนอายุ 100 ปีเลยนะครับ”

 

คือสิ่งที่โค้ชเชได้กระซิบบอกคุณย่าในวันนั้น แต่ในปลายปี 2560 โค้ชเชต้องได้รับข่าวเศร้า เมื่อคุณย่าจุงคิเมียวได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 98 ปี

 

จนมาถึงวันนี้ ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ก็ได้ยืนยันแล้วว่าโค้ชเชพร้อมเดินหน้าเป็นคนไทยอย่างเต็มตัวแล้ว  

 

โค้ชเช หรือที่ได้รับชื่อไทยคือ ชัยศักดิ์ เป็นอีกหนึ่งโค้ชต่างชาติที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับทัพนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงและความสำเร็จในเวทีโลก โดยก่อนหน้านี้เป็นโค้ชเซี่ยจื่อหัว โค้ชแบดมินตันชาวจีนที่ร่วมสร้างความสำเร็จให้กับวงการแบดมินตันไทยก็ได้รับข่าวดี เมื่อราชกิจจานุเบกษาประกาศให้แปลงสัญชาติไทยโดยใช้ชื่อ ก่อเกียรติ ชัยประสิทธิโชค เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2560

 

โค้ชเชถือว่าเป็นบุคคลตัวอย่างของวงการกีฬาไทยคนหนึ่ง จากความทุ่มเทต่อหน้าที่ซึ่งถูกต่อยอดไปเป็นความผูกพันที่เขามีต่อนักกีฬา สมาคม และประชาชนชาวไทย จนวันนี้เขาได้ประกาศจุดยืนที่ชัดเจนว่าเขาอยากเป็นมากกว่าผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อความสำเร็จของเทควันโดไทย แต่อยากเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยด้วยการเป็นพลเมืองไทยแบบเต็มตัว

 

ตอนนี้ในฐานะแฟนกีฬาชาวไทยคนหนึ่งก็ได้แต่เฝ้าคอยให้ทางรัฐบาลพิจารณาต้อนรับโค้ชเชในฐานะ ชัยศักดิ์ หนึ่งในประชาชนชาวไทยอย่างเต็มตัว

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising