Citigroup Inc. ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินชั้นนำบนถนนวอลล์สตรีท ได้ประกาศแผนการลดจำนวนพนักงานลง 20,000 ตำแหน่ง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในห้วงเวลาที่ธุรกิจทำผลงานได้ไม่ดีนัก โดยคาดว่าจะช่วยให้บริษัทประหยัดได้สูงถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์ 8.7 หมื่นล้านบาท
บริษัทคาดว่าจะลดค่าใช้จ่ายรวมลงเป็น 5.1-5.3 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2026 แต่การลดต้นทุนนี้ก็มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นด้วย ในระยะสั้น Citigroup คาดว่าจะต้องใช้จ่ายมากถึง 1 พันล้านดอลลาร์สำหรับค่าชดเชยและกระบวนการปรับโครงสร้างภายในปีนี้
การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Citigroup ประสบความท้าทายในไตรมาสที่ 4 โดยเฉพาะในส่วนของการซื้อขายตราสารหนี้ที่ประสบปัญหาสุดย่ำแย่ในรอบ 5 ปี เนื่องจากกิจกรรมของลูกค้าในธุรกิจอัตราแลกเปลี่ยนและสกุลเงินลดลง ทำให้รายได้ในส่วนนี้ลดลง 25% เหลือ 2.6 พันล้านดอลลาร์
เจน เฟรเซอร์ ผู้เป็นซีอีโอกล่าวว่า ผลงานในไตรมาสที่ 4 นั้นน่าผิดหวังมาก โดยเฉพาะในส่วนของการซื้อขายหลักทรัพย์คงที่ ซึ่งลดลง 25% และเป็นผลการดำเนินงานที่แย่ที่สุดในรอบ 5 ปี
แต่เธอเชื่อว่าปี 2024 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เนื่องจากความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างและการถอนการลงทุนของธนาคาร แม้จะมีความท้าทาย แต่หุ้นของ Citigroup ก็ยังสามารถเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.5% ในนิวยอร์ก หลังจากที่ลดลง 1.8% จากการรายงานค่าใช้จ่ายครั้งเดียวที่เกิดขึ้นจากการปรับโครงสร้างและปัญหาในอาร์เจนตินาและรัสเซีย
การลดจำนวนงานเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างที่ประกาศในเดือนกันยายนปีที่แล้ว แผนนี้มุ่งเน้นที่การลดขนาดของระบบการจัดการ จาก 13 ชั้นเป็นเพียง 8 ชั้น Citigroup จะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในไม่ช้านี้ โดยตั้งเป้าที่จะทำให้เสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกของปี
การปรับโครงสร้างนี้คาดว่าจะช่วยประหยัดเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และจะนำไปสู่การลดลงของตำแหน่งงาน 5,000 ตำแหน่ง ส่วนใหญ่เป็นตำแหน่งผู้จัดการ โดยถูกระบุว่า แผนจะดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาถึงโครงสร้างที่เหมาะสม ความสามารถของพนักงาน และการจัดเรียงให้เข้ากับเป้าหมายการทำให้ธุรกิจเรียบง่ายของบริษัท
แผนการปรับปรุงของซีอีโอ รวมถึงเป้าหมายในการเพิ่มความสามารถในการทำกำไร โดยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มผลตอบแทนจากทุนสามัญที่มีจำกัด (Return on Tangible Common Equity) ให้ได้อย่างน้อย 11% ภายในปี 2027 Citigroup ตัดสินใจทางกลยุทธ์ เช่น การปิดธุรกิจบางส่วนและการซื้อขายหนี้ที่อยู่ในภาวะยากลำบาก
วิธีดังกล่าวต่างจากวิธีการของคู่แข่งอย่าง JPMorgan Chase & Co ซึ่ง Citigroup พร้อมที่จะออกจากธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ในอนาคตตามที่ประธานเจ้าหน้าที่การเงินกล่าวไว้
อ้างอิง:
