วันนี้ (8 กุมภาพันธ์) ที่รัฐสภา ชวน หลีกภัย สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสด เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถึงการให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย งดรับนักศึกษาใหม่ในปี 2567 เพื่อเตรียมย้ายที่ตั้งสถานศึกษา ซึ่งผลกระทบดังกล่าวจะทำให้นักเรียนประมาณ 600 คนถูกตัดโอกาส ไม่สามารถเข้าเรียนได้ และในอดีตไม่เคยมีคำสั่งสถานศึกษาใดงดรับนักศึกษา แม้ในช่วงที่ประเทศเกิดปัญหาบ้านเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถูกทหารยึด ก็ส่งนักศึกษาไปเรียนที่อื่น
ชวนกล่าวอีกว่า แม้เมื่อวานนี้ (7 กุมภาพันธ์) ทราบว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ได้เปลี่ยนแปลงคำสั่งแล้ว แต่จะต้องไปศึกษาที่วิทยาเขตอื่นที่เปิดสอนอยู่ จึงขอสอบถามนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการย้ายสถานศึกษาดังกล่าว รัฐบาลได้เตรียมสถานที่และงบประมาณไว้หรือไม่ รวมถึงนักศึกษาชั้นปีอื่นๆ จะต้องย้ายไปด้วยหรือไม่
นายกฯ ย้ำ อุเทนถวาย-ปทุมวันคือสถาบันหลักผลิตช่าง
ด้านเศรษฐาลุกขึ้นตอบกระทู้ถามสดของชวนว่า ในฐานะที่เป็นพ่อของคน พอเห็นข่าวเด็กนักเรียนตีกันก็สะเทือนใจ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ปัญหานี้ และตระหนักดีว่าสมัยที่ชวนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ให้ความสำคัญกับสองสถาบันดังกล่าว ซึ่งมีเกียรติ มีอายุยาวนาน ผลิตบัณฑิตที่ตรงกับสายงานที่มีความต้องการของตลาดแรงงานมาหลายสิบปีเป็นจำนวนหลายแสนคน
โดยเรื่องนี้ก็ขอสนับสนุนหลักการของสองสถาบันศึกษานี้ ซึ่งเป็นสถาบันที่ให้ประโยชน์กับประเทศชาติ ซึ่งตอนที่ตนไปหานักลงทุนต่างประเทศ เรื่องของการผลิตบุคลากรช่างก็ยังเป็นเรื่องที่ประเทศเราต้องการอีกมาก ซึ่งนักลงทุนข้ามชาติจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกที่เราดึงดูดให้มาลงทุนให้ความสนใจ ถ้าไม่มีสองสถาบันนี้ก็จะไม่มีแรงงานที่ตรงกับสายงาน ดังนั้น ทั้งสองสถาบันการศึกษานี้ถือว่าเป็นกลไกสำคัญ รัฐบาลยืนยันว่าจะให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้นที่เรื้อรังมานาน ซึ่งเกิดมาจากปัญหาที่มีระยะทางที่ใกล้กัน โดยเราพยายามที่จะย้ายตรงนี้ โดยทางรัฐมนตรีก็พยายามช่วยคุยกับกรมธนารักษ์เพื่อหาพื้นที่ที่จะย้ายออกไป
จัดศูนย์เฝ้าระวังเหตุตีกัน-สั่งย้ายสถานที่เรียน ลดกระทบกระทั่ง
ขณะที่เรื่องของการตีกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ให้จัดเก็บข้อมูลกรณีที่มีการทะเลาะวิวาทกันในอนาคต มีการตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุ เฝ้าระวัง และระงับเหตุได้ในสถาบัน โดยตนก็ได้กำชับทางฝ่ายความมั่นคงและสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งก็อยู่ในบริเวณที่มีความใกล้เคียงกับสถาบันนี้ให้ดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในวันที่เราเข้าใจว่าจะมีการทะเลาะเบาะแว้งกัน
อย่างไรก็ตาม มาตรการเหล่านี้เป็นหนึ่งในมาตรการที่จะช่วยเหลือหรือป้องกันเท่านั้น แต่ไม่ได้แก้ที่วัฒนธรรมซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ ความเชื่อของนักศึกษาที่มีความเชื่อสืบต่อกันมา ซึ่งขอยืนยันว่าเป็นค่านิยมที่ผิดและไม่ถูกต้อง ดังนั้น ต้องตัดปัญหาด้วยการย้ายไปยังสถานที่อื่น ซึ่งก็จะลดการกระทบกระทั่งระหว่างนักศึกษาสองสถาบันนี้ และให้มีการสอนออกไปจากนอกบริเวณ ควบคู่กับการปรับค่านิยมเพื่อลดการกระทบกระทั่งระหว่างรุ่นพี่ที่เป็นแกนนำ ตัดวงจรการสืบทอดวัฒนธรรมที่ไม่ดีและไม่ถูกต้อง
ส่วนเรื่องการงดรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เข้าใจว่าเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ซึ่งจะมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเป็นผู้ชี้แจง
ศุภมาสยืนยัน ย้ายที่เรียนอุเทนฯ ตามคำสั่งศาล
ก่อนที่ ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จะลุกขึ้นชี้แจงต่อว่า การย้ายอุเทนถวายเป็นไปตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลฯ วิทยาเขตอุเทนถวาย ย้ายออกและคืนพื้นที่ให้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเรื่องถึงที่สุดแล้ว โดยทางกระทรวง อว. ให้ความสำคัญและไม่ได้นิ่งนอนใจในการหาสถานที่แห่งใหม่
รับ น.ศ. ปี 1 ได้ แต่ต้องย้ายที่เรียน
ศุภมาสระบุอีกว่า อุเทนถวายสามารถรับนักศึกษาปีที่ 1 ได้ แต่จะต้องสอดคล้องกับแผนการย้ายสถานศึกษา ขณะนี้มีข้อเสนอเข้ามาจำนวน 4 แห่ง ประกอบไปด้วย วิทยาเขตบางพระ จังหวัดชลบุรี, วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ, พื้นที่บริจาคในเขตมีนบุรี รวมถึงพื้นที่ราชพัสดุ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งกระทรวง อว. มีการตั้งคณะทำงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น สำนักงบประมาณ, สำนักงานอัยการสูงสุด, กรมธนารักษ์ รวมถึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีตนเองเป็นประธาน ซึ่งก็จะพิจารณาให้การสนับสนุนงบประมาณในเรื่องของงบประมาณและการถ่ายโอนย้ายต่อไป
12 มี.ค. นี้ อุเทนถวายย้ายไปวิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ
ศุภมาสกล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณ กระทรวง อว. จะประสานกับสำนักงบประมาณและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อช่วยเหลือค่าเสียหาย ค่าขนย้าย และค่าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือ โดยอุเทนถวายจะเตรียมการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์และบุคลากรไปยังวิทยาเขตจักรพงษภูวนารถในวันที่ 12 มีนาคมนี้ โดยจะขยายเขตพื้นที่การศึกษาของคณะวิศวกรรมศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ ไปยังพื้นที่มีนบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างการของบประมาณจากสำนักงบประมาณ
ชวนย้ำ อย่าให้เกิดนโยบายตัดโอกาสคนอีก
ด้านชวนยืนยัน อยากให้นายกรัฐมนตรีทบทวนการย้ายอุเทนถวาย ส่วนนักศึกษาปี 1 จะเรียนที่เดิมได้หรือไม่แล้วแต่ดุลยพินิจ ตนไม่ได้คัดค้าน แต่ในเชิงปฏิบัติ นโยบายใดที่จะเป็นอุปสรรคในการให้โอกาสคนอย่าให้เกิดขึ้นเป็นอันขาด เพราะจะเป็นการตัดโอกาสไม่ว่าใครในห้องนี้ รวมทั้งตนมีโอกาสเพราะการศึกษา ดังนั้น อะไรที่ส่งเสริมการศึกษาได้เราต้องช่วยกัน ตนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเพราะเป็นลูกชาวบ้าน มีโอกาสมานั่งที่นี่ได้เพราะได้เรียนหนังสือ ต้องมาอยู่วัด ไม่มีทางอื่น จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาดูเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
ขณะที่นายกรัฐมนตรีลุกขึ้นขอบคุณชวนที่ได้กรุณาย้ำในเรื่องที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาไทย ซึ่งเป็นการเตือนให้สะกิดใจว่า ไม่ใช่แค่กระทรวง อว. อย่างเดียว ทั้งคณะรัฐมนตรีและรัฐบาลต้องให้ความสำคัญเรื่องการศึกษา ซึ่งต้องให้กระทรวงการคลังเป็นส่วนช่วยสนับสนุนด้วย เราต้องคำนึงถึงความเป็น Family รากฐานแต่ละครอบครัวก็แตกต่างกันไป ซึ่งตนก็เข้าใจถึงความจำเป็นเรื่องการศึกษา และสำนึกตลอดเวลาว่าบางคนก็โชคดี เช่น ลูกของตนเองที่ได้เรียนต่อในโรงเรียนที่ดี มีชื่อเสียงระดับโลก เราก็ไม่เคยลืมตรงนี้ และต้องให้ความสำคัญกับชีวิตหลังการศึกษาด้วย และมีหน้าที่การงานที่เหมาะสม ในฐานะที่ตนเองเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร แม้จะอยู่ต่างจังหวัด จะเรียนที่วัด หรืออยู่ที่ไหนก็ตามที
นายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลต้องการยกระดับการศึกษา และจะพยายามจัดหาสถานที่เรียนอย่างเหมาะสมที่ดูแลโดยกรมธนารักษ์ ซึ่งตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะไปดูให้เป็นพิเศษ ขอขอบคุณทุกข้อเสนอแนะและข้อเตือนใจในทุกข้อ
