×

คุยกับ คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ ก่อนดู All the Money in the World

15.02.2018
  • LOADING...

All the Money in the World อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่มีสิทธิ์ลุ้นออสการ์ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากฝีมือการแสดงของ คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ ซึ่งเรื่องราวเบื้องหลังของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก่อนจะสำเร็จเป็นหนังเข้าฉาย เรียกได้ว่า ‘ไม่น่าเชื่อ’

 

เริ่มต้นด้วยผู้กำกับวัย 80 ริดลีย์ สก็อตต์ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวนักแสดงหลังจากถ่ายทำทุกสิ่งอย่างไปแล้ว เนื่องจาก เควิน สเปซีย์ ตัวแสดงก่อนหน้ามีข่าวอื้อฉาวเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ ริดลีย์ สก็อตต์ และทีมงานมีเวลาเพียง 6 สัปดาห์ก่อนหนังเข้าฉายในการถ่ายซ่อมสร้างเรื่องราวทั้งหมด และเชิญ คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ นักแสดงรุ่นใหญ่มารับบทนี้แทน แต่ร้ายกลายเป็นดี เมื่อทีมงานรวมทั้งนักแสดงนำอย่าง มิเชลล์ วิลเลียมส์ และมาร์ก วอห์ลเบิร์ก ให้ความร่วมมือเต็มที่เพื่อพาหนังไปถึงฝั่งฝัน

 

และนั่นทำให้ คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ ในวัย 88 ปี ทุบสถิติ! กลายเป็นนักแสดงที่อายุมากสุดที่ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ และอาจจะทำลายสถิติตัวเองในการเป็นผู้ชนะรางวัลออสการ์ที่อายุมากที่สุดในโลก หลังจากที่เคยรับรางวัลนักแสดงสมทบชายจากหนัง Beginners (2011) เมื่อครั้งที่เขาอายุ 82 ปี

 

 

All the Money in the World ภาพยนตร์สร้างจากเรื่องจริงและเป็นคดีดังของสหรัฐอเมริกา เรื่องราวของ เจ. พอล เก็ตตี้ (J. Paul Getty) มหาเศรษฐีโรงกลั่นน้ำมันที่รวยที่สุดในประวัติศาสตร์ยุค 70 แต่กลับไม่ยอมเสียเงินแม้แต่เหรียญเดียวในการไถ่ตัว จอห์น พอล เก็ตตี้ที่ 3 หลานชายหัวแข็งวัย 16 ปี ที่ถูกจับไปเรียกค่าไถ่เรียกเงิน 17 ล้านบาท จนผู้เป็นแม่ เกล ฮาร์ริส (รับบทโดย มิเชล วิลเลียมส์) ต้องหาทางช่วยเหลือลูกชายทุกวิถีทาง โดยได้รับความช่วยเหลือจาก เฟรตเชอร์ เชส ผู้ช่วยของมหาเศรษฐีคนนี้ (รับบทโดยมาร์ก วอห์ลเบิร์ก)

 

ก่อนจะเข้าโรงภาพยนตร์ไปชม All the Money in the World เรามาพูดคุยกับ คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ นักแสดงรุ่นใหญ่ที่มารับบทสำคัญครั้งนี้กันก่อน

 

ตัวละครของคุณในหนังเรื่องนี้น่าสนใจมาก ช่วยเล่าถึงเขาให้ฟังหน่อย

ผมเล่นเป็น จอห์น พอล เก็ตตี้ ผู้บุกเบิกธุรกิจน้ำมันในตะวันออกกลาง ซึ่งทำให้เขารวยมหาศาลตั้งแต่อายุยังน้อย ข่าวการลักพาตัวหลานชายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้โลกได้รู้จักเก็ตตี้ เพราะเขาค่อนข้างเก็บตัว ไม่ออกสื่อ แน่นอนว่าเขาบูชาเงิน เขารักสิ่งสวยงาม เพราะมันไม่เคยเปลี่ยนแปลงหรือทำให้เขาผิดหวัง มันมีความงามบริสุทธิ์ในสิ่งของพวกนี้ที่เขาหาไม่ได้ในมนุษย์ (จอห์น พอล เก็ตตี้ เป็นนักสะสมงานศิลปะ และเป็นเจ้าของ Getty Museum ในลอสแอนเจลิส)

 

“ผมคิดว่าเขามีมนุษยธรรมเหมือนกันนะ แม้ว่าเขาจะแสดงออกมาอย่างไร้เยื่อใยตอนตอบคำถามสื่อเรื่องค่าไถ่ เหตุผลก็ฟังขึ้นอยู่นะที่เขาบอกว่ามีหลานหลายคน ถ้าเขายอมจ่ายให้คนหนึ่ง หลานคนที่เหลืออาจจะเสี่ยงตกเป็นเหยื่อลักพาตัวครั้งอื่นอีกก็ได้ มันคือตรรกะที่เย็นชาซึ่งบทเอื้อให้เราดำดิ่งลงไปในนั้น โดยเฉพาะเมื่อมันเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในครอบครัวของเขา”

 

 

รู้มาว่าคุณมีวิธีเข้าถึงบทบาทในแบบของตัวเอง

สำหรับผมมันอาจจะง่ายหน่อยเพราะผมเคยเจอเก็ตตี้ตัวจริงในยุค 70 แต่ทั้งสถานที่ รวมถึงเสื้อผ้าช่วยเราได้เยอะจริงๆ พอทีมเสื้อผ้าจับผมใส่สูทของ Saville Row ตัวละครนี้เหมือนมีชีวิต เพราะสูทตัวหนึ่งของเก็ตตี้จะอยู่กับเขาไป 20-25 ปี ตอนหาข้อมูลผมอ่านเจอว่าเขาใส่รองเท้าคู่เดิม เนกไทอันเดิม เป็นสิบปีเลย มันแสดงให้เห็นว่าแม้ว่าเขาจะรวยล้นฟ้าขนาดไหน นิสัยมัธยัสถ์จะติดตัวเขาไปจนตาย”

 

คุณทำมันได้ยังไงที่ต้องมารับบทแทนคนอื่น มีเวลากระชั้นชิด แต่ยังแสดงได้ยอดเยี่ยมแบบนี้

จะว่าแทนเลยก็ไม่ใช่หรอก เพราะมันเหมือนต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ทั้งวิธีการตีความตัวละคร การแสดงตอบรับร่วมกับตัวละครอื่นๆ จริงอยู่ว่ามันมีเวลาน้อยมากแต่ทุกอย่างออกมาตามแผน ต้องยกเครดิตให้ผู้กำกับเลย”

 

 

ถ้าอย่างนั้น การทำงานกับผู้กำกับอย่าง ริดลีย์ สก็อตต์ เป็นอย่างไรบ้าง

“เขาเป็นมืออาชีพ เขารู้ตัวว่าต้องการอะไร เขาไม่ต้องให้คุณเล่นใหม่เป็นร้อยๆ เทกเพราะเขาเหมือนตัดต่อในหัวไปเรียบร้อยแล้ว เขาเป็นผู้กำกับสไตล์โอลด์สคูล ระดับเดียวกับฮิตช์ค็อก หนังของเขากลมกล่อม ประเด็นที่เลือกเล่ามันต่างจากคนอื่นๆ ซึ่งผมยกย่องในด้านนี้มาก เขาทดลอง คิดค้นสิ่งใหม่ๆ แต่ก็ยังรู้ว่าสิ่งที่ต้องการคือการแสดงที่เป็นธรรมชาติ”

 

ถึงตอนนี้ คุณเป็นเจ้าของสถิติผู้ชนะรางวัลออสการ์ที่อายุมากที่สุด จากการรับรางวัลในปี 2011 คุณคิดว่าปีนี้จะทำลายสถิตินั้นได้ไหม

หวังว่านะ ตอนนั้นผมคว้าออสการ์ตัวแรกจากเรื่อง Beginners ตอนอายุ 82 ตอนนี้อายุ 88 แล้วผมคงไม่คาดหวังอะไรมาก (หัวเราะ) แต่ตอนที่รู้ว่าได้รับการเสนอชื่อ มันเกินความคาดคิดเหมือนกันนะ ผมภูมิใจกับมัน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ผมยังตื่นเต้นไม่หายจนมาถึงตอนนี้เลย”

 

 

FYI
  • ​คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในเวทีออสการ์มาแล้ว 3 ครั้ง ภาพยนตร์ The Last Station (2009) ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ Beginners (2010) ที่เขาคว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมมาครอง และภาพยนตร์ All the money in the World (2017) สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising