บริษัทชาสัญชาติจีน CHAGEE เตรียมฝ่าสภาวะตลาดที่ผันผวนและสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลก โดยตั้งเป้าระดมทุน 396 ล้านดอลลาร์ (1.3 หมื่นล้านบาท) เพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีนี้ (17 เมษายน) ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ
เชนร้านชาที่มีฐานอยู่ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเชี่ยวชาญในเครื่องดื่มสไตล์กาแฟ เช่น Teaspresso และ Teapuccino จากชาอู่หลง จะเสนอขายหุ้น 14.6 ล้านหุ้นในราคาระหว่าง 26 และ 28 ดอลลาร์ต่อหุ้น ตามเอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้บริษัทมีมูลค่าทางการตลาดรวมประมาณ 5.2 พันล้านดอลลาร์ (1.7 แสนล้านบาท)
หากประสบความสำเร็จ นี่จะเป็นการเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัทจีนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในสหรัฐฯ ในรอบกว่า 3 ปี รองจากการระดมทุน 411 ล้านดอลลาร์ของกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า Zeekr เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ตามข้อมูลจาก Renaissance Capital ผู้ให้บริการวิจัย IPO
การเสนอขายหุ้นของ CHAGEE เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่รัฐบาล Trump เพิ่มภาษีสินค้าจีนเป็นประมาณ 120 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางสงครามการค้าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะกระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก
แม้การเสนอขายหุ้น IPO ขนาดใหญ่หลายรายการในสหรัฐฯ ถูกเลื่อนออกไปหลังจากที่ Donald Trump ประกาศภาษี ‘วันปลดปล่อย’ เมื่อวันที่ 2 เมษายน แต่ความปั่นป่วนของตลาดไม่ได้หยุด ‘คลื่น’ ของบริษัทจีน 24 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็ก จากการเข้าจดทะเบียนในสหรัฐฯ ในปีนี้ ตามคำกล่าวของ Matthew Kennedy นักกลยุทธ์อาวุโสที่ Renaissance
หนังสือชี้ชวนของ CHAGEE ระบุ ‘ข้อพิพาททางการค้า’ และการเปลี่ยนแปลง ‘กฎหมายการลงทุนต่างประเทศ’ ของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยความเสี่ยงสำคัญ Goldman Sachs เน้นย้ำความกังวลที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ว่า Trump อาจบังคับให้บริษัทจีนเพิกถอนการจดทะเบียนจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ
โดยเขียนในบันทึกถึงลูกค้าว่า “ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด นักลงทุนสหรัฐฯ อาจถูกบังคับให้ขายหุ้นจีนที่ถือครองอยู่ทั้งหมดมูลค่ารวม 8 แสนล้านดอลลาร์”
บุคคลใกล้ชิดกับ NASDAQ บอกกับ Financial Times ว่ายังไม่ได้รับการติดต่อจากทำเนียบขาวในเรื่องนี้ นักวิเคราะห์การเงินและนักลงทุนหลายรายก็สงสัยว่าทำไม CHAGEE ซึ่งหวังที่จะขยายธุรกิจไปต่างประเทศ จึงเลือกสหรัฐฯ ในเมื่อบริษัทชาจีนคู่แข่งอย่าง Guming และ MIXUE มีราคาหุ้นพุ่งขึ้น 82 เปอร์เซ็นต์และ 51 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในฮ่องกงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมตามลำดับ
“ผมไม่เข้าใจว่าทำไม CHAGEE ถึงเลือกจดทะเบียนในตลาดหุ้นอเมริกาแทนที่จะเป็นตลาดหุ้นในเอเชียที่ใกล้กับฐานธุรกิจของพวกเขา” ผู้จัดการกองทุนในสหรัฐฯ กล่าว เขาชี้ให้เห็นว่าหุ้น IPO ของ MIXUE ซึ่งเป็นคู่แข่งที่จดทะเบียนในฮ่องกง มีนักลงทุนรายย่อยจองซื้อล้นหลามเกินความคาดหมาย อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่า IPO ของ CHAGEE ‘น่าจะประสบความสำเร็จได้’ เนื่องจาก ‘บริษัทมีผลประกอบการที่ดีมาก’
ธุรกิจของ CHAGEE ในจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ตามหนังสือชี้ชวน IPO ของบริษัท ณ สิ้นปีที่แล้ว บริษัทมีร้านชา 6,440 แห่ง โดย 97 เปอร์เซ็นต์อยู่ในจีน เพิ่มขึ้น 83 เปอร์เซ็นต์จากปี 2023 ขณะที่รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 167.4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นเกือบ 1.7 พันล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 344 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่เชนกาแฟสัญชาติอเมริกัน Starbucks มีร้านค้าทั่วจีนประมาณ 7,600 แห่ง
ชาจีนประมาณ 9 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณทั้งหมดถูกส่งออกไปยังสหรัฐฯ ในปีที่แล้ว เนื่องจากซัพพลายเออร์เร่งส่งออกเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใต้รัฐบาล Trump โดยชาจีนที่ส่งไปยังสหรัฐฯ จะเผชิญกับภาษีมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์
“นักดื่มชาชาวอเมริกันที่ดื่มเป็นประจำจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก” Dan Bolton บรรณาธิการด้านชาของนิตยสาร STiR Coffee and Tea กล่าว เขายังเสริมว่าชาถือเป็นหนึ่งใน ‘สินค้าการทูต’ ที่สำคัญที่สุดของจีนมาตั้งแต่อดีต และเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการเจรจาระหว่างจีนกับชาติตะวันตกมาอย่างยาวนาน
ภาพ: Sarunyu L / Shutterstock
อ้างอิง: