เป็นที่รู้กันดีว่า ‘นักช้อปชาวจีน’ ถือเป็นกลุ่มที่แบรนด์ต่างๆ ล้วนอยากได้จากพลังซื้อที่ล้นเหลือ โดยเฉพาะกลุ่มแบรนด์หรูที่ใช้เป็น ‘จรวด’ ในการผลักดันการเติบโต ซึ่งปกติแล้ว 70% ของนักช้อปจีนจะช้อปปิ้งสินค้าในต่างประเทศ เพราะเมื่อเทียบกันแล้วสินค้าในแผ่นดินใหญ่จะมีราคาที่มากกว่าจากภาษีศุลกากร
แต่ด้วยข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างประเทศอันเป็นผลมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้นักช้อปจีนต้องเปลี่ยนวิถีการช้อปเสียใหม่ โดยกลุ่มที่มีกำลังซื้อได้หันไปหาห้างสรรพสินค้าในประเทศและเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเพื่อช้อปปิ้งแทน ยิ่งการผ่อนคลายกฎระเบียบในการซื้อสินค้าปลอดภาษีในมณฑลไห่หนานของจีนได้เข้ามากระตุ้นยอดขายสินค้าฟุ่มเฟือยมากขึ้นไปอีก
มีการประเมินว่ายอดขายสินค้าหรูหราในจีนแผ่นดินใหญ่คาดว่าจะเติบโต 48% เป็น 3.46 แสนล้านหยวน หรือกว่า 1.6 ล้านล้านบาทภายในสิ้นปี 2020 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามรายงานที่เผยแพร่โดยบริษัทที่ปรึกษา Bain & Company และ Tmall ซึ่งเป็นบริษัทแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเครือ Alibaba
จุดนี้เองทำให้จีนเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดสินค้าหรูหราทั่วโลกเกือบสองเท่าเป็น 20% ในปีนี้ ซึ่งสวนทางกับประเทศอื่นๆ ที่ต่างลดลงกันถ้วนหน้า
แม้ชาวจีนจะช้อปแบรนด์หรูเพิ่มขึ้นก็จริง แต่ก็ไม่อาจชดเชยการใช้จ่ายในต่างประเทศได้ ตามรายงานระบุว่าผู้ซื้อในจีนใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยน้อยลงประมาณ 35% ในปีนี้เมื่อเทียบกับปี 2019 ซึ่งมีส่วนทำให้ตลาดสินค้าหรูทั่วโลกลดลง 23% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ในขณะที่ Bain & Company คาดว่าส่วนแบ่งตลาดสินค้าหรูหราทั่วโลกของจีนแผ่นดินใหญ่จะลดลงเมื่อการเดินทางค่อยๆ กลับมาอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็เชื่อว่า ‘แดนมังกร’ กำลังจะแซงหน้าสหรัฐฯ และขึ้นเป็นตลาดหรูที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2025 เนื่องจากแบรนด์ต่างๆ ยังคงพยายามทำให้ช่องว่างระหว่างราคาสินค้าในจีนแคบลง
สิ่งที่น่าสนใจอีกข้อหนึ่งคือนักช้อปชาวจีนหันมาใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นในการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย รายงานแสดงให้เห็นว่ายอดขายสินค้าหรูผ่านช่องทางดิจิทัลในจีนเพิ่มขึ้น 150% ในปี 2020 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งช่วยยกระดับการเข้าถึงสินค้าฟุ่มเฟือยทางออนไลน์เป็น 23% จาก 13% ในช่วงเวลาดังกล่าว
‘ไห่หนาน’ ซึ่งเป็นเกาะทางตอนใต้ของจีน กลายเป็นสวรรค์สำหรับนักช้อปบนแผ่นดินใหญ่ในช่วงที่มีการระบาด หลังจากที่ทางการปลดล็อกให้นักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้าปลอดภาษีได้ถึง 1 แสนหยวน โดยยอดขายสินค้าปลอดภาษีนอกชายฝั่งในไห่หนานเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 หมื่นล้านหยวน หรือ 1.1 แสนล้านบาท ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าของยอดขายในปี 2019
“แบรนด์หรูมองว่าไห่หนานเป็นโอกาส ไม่เพียงเพราะเป็นทางเลือกระยะสั้นในการช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีซึ่งเข้ามาทดแทนจุดหมายปลายทางดั้งเดิมเช่นฮ่องกงและเกาหลีใต้ แต่ยังเป็นเพราะเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของรัฐบาลที่จะรักษาการบริโภคชาวจีนให้อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่” รายงานกล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: