อุตสาหกรรมเหล็กของจีน ‘เสี่ยงวิกฤต’ หลังความต้องการลดลงอย่างมากจากการควบคุมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และนโยบาย Zero-COVID โรงเหล็กโอดมาร์จิ้นบางเฉียบ เตรียมลดกำลังการผลิตและหยุดไลน์ผลิตที่ไม่มีกำไรเพื่อลดสต๊อกสินค้า หวังประคองธุรกิจ ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้วิกฤตเหล็กจีนอาจยืดเยื้อ 5 ปี
อุตสาหกรรมเหล็กของจีนกำลังส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับภาวะวิกฤตในอุตสาหกรรม โดยระบุว่าอัตรากำไรขั้นต้นเริ่มบางลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้องการที่อ่อนแอ
สัญญาณวิกฤตครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จุดเริ่มต้นมาจากที่ประชุมของบริษัท Hunan Valin Iron & Steel Group ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเหล็กของจีน โดยบอร์ดบริหารร่วมหารือกันเกี่ยวกับภาวะถดถอยอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมเหล็กของจีน และการมองหามาตรการที่จำเป็น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทจะรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ ซึ่งทางออกด้วยการหยุดไลน์ผลิตเหล็กที่ไม่ทำให้เกิดกำไรก็มีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน
ขณะที่โรงเหล็กอื่นๆ ทั้งทางตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศให้คำมั่นว่าจะลดการผลิตลง เพื่อรอเกิดการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานก่อน เนื่องจากเป็นกลุ่มความต้องการเหล็กหลักของอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเหล็กของจีนได้ทำนายว่าวิกฤตการณ์ครั้งนี้จะอยู่นานถึง 5 ปี
ก่อนหน้านี้สต๊อกสินค้าเหล็กมีเพิ่มขึ้นจนเกินค่าเฉลี่ยค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมาตรการควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ทำให้ความต้องการก่อสร้างบ้านและที่อยู่อาศัยชะงักงัน รวมถึงนโยบาย Zero-COVID ของรัฐบาลจีนที่ทำให้ต้องระงับกิจกรรมด้านการก่อสร้างเอาไว้ทั้งหมด โดยดัชนีการจัดซื้อของอุตสาหกรรมเหล็กในเดือนมิถุนายนที่เพิ่งประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็เป็นตัวเลขที่แย่ที่สุดในรอบ 10 ปี
แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้วสต๊อกสินค้าจะลดลงในช่วงสิ้นเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากจีนยกเลิกข้อจำกัดด้านการควบคุมการเดินทางเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด แต่การสต๊อกสินค้าก็ยังสูงกว่าปีที่แล้วถึง 23% ตามการสำรวจล่าสุดจากสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศจีน
เมื่อไม่นานนี้ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเรียกร้องให้มีการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานอย่างเต็มที่เพื่อกอบกู้เศรษฐกิจ แต่ก็ไม่น่าจะชดเชยความต้องการที่สูญเสียไปจากภาคอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ การลดปริมาณด้านการผลิตจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดทั้งสำหรับรัฐบาลจีนและอุตสาหกรรมเหล็ก เนื่องจากอุปทานที่ลดลงจะช่วยสนับสนุนราคา และช่วยภารกิจของจีนในเรื่องการจำกัดการปล่อยคาร์บอนจากภาคส่วนที่มีมลพิษสูงมีความคืบหน้าตามแผน
อ้างอิง:
