ความมั่งคั่งของบรรดามหาเศรษฐีชาวจีนเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากความมั่งคั่งโดยรวมลดลงต่อเนื่องในช่วง 3 ปีก่อนหน้านี้ (2021-2023) เนื่องจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์และนโยบาย ‘ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน’ (Common Prosperity) ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ที่มุ่งเป้าลดอิทธิพลของเจ้าของธุรกิจเอกชนรายใหญ่
ความมั่งคั่งรวมของ 55 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ อิงจาก Bloomberg Billionaires Index เพิ่มขึ้น 16% สู่ระดับ 8.09 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.13 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 3.8 ล้านล้านบาท นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หลังจากความมั่งคั่งลดลง 42% จากจุดสูงสุดที่ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2020 มาเหลือ 6.96 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2023
มหาเศรษฐีในกลุ่มเทคโนโลยีเป็นกลุ่มที่ความมั่งคั่งฟื้นตัวมากที่สุด โดยเฉพาะ Pony Ma เจ้าของ Tencent Holdings Ltd. ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ใน 3 หรือ 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็น 4.79 หมื่นล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 500 คนแรก
รองลงมาคือ Lei Jun ผู้ก่อตั้ง Xiaomi Corp. ซึ่งความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์ โดย Xiaomi ได้แรงหนุนจากการเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว
ในบรรดาผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัว Chen Tianshi ประธานบริษัท Cambricon Technologies Corp. และ Wang Ning เจ้าของธุรกิจ Pop Mart International Group Ltd. มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปีนี้
อย่างไรก็ตาม จีนเป็นประเทศที่ตำแหน่งบุคคลที่รวยที่สุดเปลี่ยนมือบ่อยที่สุดระหว่างปี ตั้งแต่ Bloomberg เริ่มจัดอันดับในปี 2012 แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจจีนที่สร้างโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจที่สามารถจับความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภคในวงกว้าง
Colin Huang ผู้ก่อตั้ง PDD Holdings Inc. ผู้ให้บริการ Temu ร้านค้าปลีกออนไลน์ราคาประหยัด กลายเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในจีนเมื่อเดือนสิงหาคม แต่ครองตำแหน่งเพียง 18 วัน ก่อนจะสูญเสียให้กับ Zhong Shanshan มหาเศรษฐีเจ้าของ Nongfu Spring Co.
อ้างอิง: