เศรษฐกิจจีนในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาเติบโตได้เพียง 4% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบปีครึ่ง จากปัจจัยเชิงลบทั้งวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ การแพร่ระบาดของโควิด และการประกาศใช้นโยบาย Zero-Tolerance เพื่อควบคุมการระบาดของรัฐบาลจีน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวก็ยังออกมาสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.6%
ในภาพรวม GDP จีนในปี 2021 ขยายตัวได้ 8.1% ใกล้เคียงกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ และสูงกว่าตัวเลขเป้าหมายของทางการจีนที่ 6%
เศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของจีนได้แรงหนุนจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้นจาก 3.8% ในเดือนพฤศจิกายน เป็น 4.3% ในเดือนธันวาคม ขณะที่ การบริโภคในประเทศยังอ่อนแอ โดยตัวเลขการบริโภคปรับลดลงจาก 3.9% ในเดือนพฤศจิกายนมาอยู่ที่ 1.7% ในเดือนธันวาคม
นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากวิกฤตหนี้ในภาคอสังหาฯ และการระบาดของโควิดหลายระลอก
China Evergrande บริษัทอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ของจีนที่มีหนี้สินสูงถึง 3 แสนล้านดอลลาร์ กำลังประสบปัญหาสภาพคล่อง และการผิดนัดชำระอย่างรุนแรง และเมื่อเร็วๆ นี้บริษัทยังถูกทางการสั่งให้รื้อถอนโครงการที่อยู่อาศัยที่สร้างอย่างผิดกฎหมายซ้ำเติมอีก
นักวิเคราะห์จึงกังวลว่า กรณีปัญหาของ Evergrande อาจจุดชนวนให้เกิดวิกฤตลุกลามเป็นลูกโซ่ไปยังบริษัทอสังหาฯ แห่งอื่นๆ รวมถึงภาคการเงินและผู้ซื้อที่อยู่อาศัย
ขณะที่การระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่โอมิครอนก็ทำให้รัฐบาลจีนต้องสั่งล็อกดาวน์หลายพื้นที่ โดยหนึ่งในนั้นคือเขตอุตสาหกรรมของเมืองซีอาน ซึ่งทำให้ฐานการผลิตชิปของ Samsung และ Micron ได้รับผลกระทบ
นักเศรษฐศาสตร์ยังออกมาเตือนด้วยว่า การใช้นโยบาย Zero-COVID ของทางการจีน จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในปี 2022 โดยเมื่อเร็วๆ นี้ Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์ GDP จีนในปีนี้จาก 4.8% เหลือ 4.3%
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP