การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ UNCTAD เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับการลงทุนโลกประจำปี 2020 พบจีนมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ (เอฟดีไอ) ไหลเข้าประเทศทั้งหมด 163,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สหรัฐฯ อยู่ที่เพียง 134,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ปีที่ผ่านมา เอฟดีไอของจีนแซงหน้าสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก
ขณะที่ปี 2019 ก่อนหน้า เอดีไอของสหรัฐฯ มาเป็นที่หนึ่งที่ 251,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนจีนตามมาเป็นที่สองที่ 140,000 ดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม UNCTAD ยังพบว่า ปริมาณเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ หรือเอฟดีไอในปี 2020 ของทั่วโลกหดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการเผชิญหน้ากับวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้หลายประเทศทั่วโลกทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต่างระงับหรือชะลอการลงทุนทั่วหน้า
โดยในปี 2020 ปริมาณเอฟดีไอลดลง 42% มาอยู่ที่ 859,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังลดลงถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงวิกฤตการเงินในปี 2009 ซึ่งเอฟดีไอถือเป็นหนึ่งในปัจจัยชี้วัดการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเป็นเงินลงทุนที่ประเทศหนึ่งๆ ได้รับจากนักลงทุน หรือกิจการห้างร้านจากต่างประเทศ เช่น การก่อสร้างโรงงาน หรือเปิดสำนักงาน
ขณะเดียวกัน UNCTAD ยังพบว่า บรรดาประเทศพัฒนาแล้วได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าปีก่อนหน้า และมากกว่าประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย อีกทั้งเอฟดีไอในสหรัฐฯ ยังร่วงหนักถึง 49% น้อยกว่าค่าเฉลี่ยเอฟดีไอของประเทศพัฒนาแล้วด้วยกันที่ 69%
ด้านเอฟดีไอของประเทศกำลังพัฒนาก็ปรับตัวลดลงเช่นกันที่ 12% ซึ่งจีนก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เพียงแต่จีนกลับมีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 4% ส่วนภูมิภาคยุโรป เอฟดีไอของสหภาพยุโรปปรับตัวลดลงถึง 2 ใน 3
สำหรับเหตุผลหลักที่ทำให้เอฟดีไอไหลเข้าจีน แม้สถานการณ์เศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ก็คือการที่จีนสามารถจำกัด และควบคุมการระบาดได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่มีจำนวนประชากรน้อยกว่า โดยจีนมีรายงานพบผู้ติดเชื้อไม่ถึง 100,000 คน เสียชีวิตจากโควิด-19 ราว 4,800 คน ขณะะที่สหรัฐฯ มีรายงานผู้ติดเชื้อเกือบ 25 ล้านคน เสียชีวิตแล้วกว่า 400,000 คน
อย่างไรก็ตาม แม้เอฟดีไอจีนจะแซงหน้าสหรัฐฯ แต่หากพิจารณาเฉพาะการลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้น พบว่าการลงทุนของต่างชาติในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงมากกว่าจีน กระนั้นการขยายตัวเติบโตทางเศรษฐกิจในภาพรวม จีนมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีกว่าสหรัฐฯ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพีของจีนปี 2020 ขยายตัวเติบโตได้ถึง 2.3% ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าจีนน่าจะเป็นประเทศเศรษฐกิจชั้นนำประเทศเดียวที่เห็นการเติบโตอยู่ในแดนบวก
สำหรับรายงานของ UNCTAD ในครั้งนี้มีขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมทางไกลของ World Economic Forum ซึ่งคาดว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะไม่เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
