จีน เผชิญภัยแล้งหนัก ทำแม่น้ำแยงซีแห้งขอด กระทบการผลิตไฟฟ้า-ขนส่งทางเรือ

จีนเผชิญภัยแล้งหนักสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้แม่น้ำหลายสายในประเทศรวมถึงพื้นที่บางส่วนของแม่น้ำแยงซีแห้งขอดจนเห็นพื้นดินด้านล่าง ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่ต้องหยุดชะงักลง การขนส่งทางเรือที่ต้องระงับการให้บริการชั่วคราว รวมถึงบริษัทหลายแห่งที่ต้องปิดทำการเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในภูมิภาค

แม่น้ำแยงซีของจีนเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก อีกทั้งยังเป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจจีนอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำของแม่น้ำแยงซีได้ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงฤดูร้อนนี้ โดยรายงานระบุว่า ปริมาณน้ำของแม่น้ำแยงซีลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปี ถึง 50% ส่งผลให้เส้นทางการขนส่งสินค้าในแม่น้ำต้องระงับการให้บริการชั่วคราวในบางส่วน

เมื่อวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา จีนได้ประกาศเตือนภัยแล้งทั่วประเทศ ขณะพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ได้รับผลกระทบหนักสุด โดยคลื่นความร้อนที่รุนแรงนี้คาดว่าจะคงอยู่ยาวนานจนถึงเดือนกันยายน ขณะเดียวกันการที่แม่น้ำเหือดแห้งยังส่งผลกระทบต่อการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ โดยเฉพาะในมณฑลเสฉวนที่ต้องพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำคิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ของพลังงานทั้งหมด โดยปัจจุบันปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเพื่อการผลิตพลังงานไฟฟ้าของเสฉวนลดลงกว่าครึ่ง สวนทางกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่พุ่งขึ้นกว่า 25% ในช่วงฤดูร้อนนี้

ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มณฑลเสฉวนได้สั่งปิดโรงงานใน 19 เมือง เป็นเวลา 6 วัน หลังคลื่นความร้อนรุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี ทำให้การใช้พลังงานพุ่งจนเสี่ยงขาดแคลน ซึ่งส่งผลกระทบต่อโรงงานของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง รวมถึง Toyota, Foxconn และ Tesla ล่าสุดวานนี้ South China Morning Post รายงานว่า แผนที่โรงงานต่างๆ จะกลับมาเปิดทำการในสัปดาห์นี้ถูกเลื่อนออกไป

รายงานระบุว่า ภัยแล้งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อชาวจีนอย่างน้อย 2.46 ล้านคน และสร้างความเสียหายต่อพื้นที่เกษตรกรรมอีก 2.2 ล้านเฮกตาร์ในมณฑลเสฉวน, เหอเป่ย, หูหนาน, เจียงซี, อานฮุย และนครฉงชิ่ง โดยข้อมูลจากกระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉินของจีนระบุว่า มีประชาชนมากกว่า 7.8 แสนคนที่ต้องการรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลโดยตรง ขณะที่ทางฝั่งรัฐบาลจีนก็พยายามอย่างเต็มกำลังที่จะจัดสรรทรัพยากรน้ำและพลังงานในแต่ละพื้นที่ ให้สามารถใช้งานได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากหลายพื้นที่กำลังเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตสำคัญอย่างข้าวและถั่วเหลือง ซึ่งเป็นพืชที่ต้องใช้น้ำปริมาณค่อนข้างมากในการเพาะปลูก

ข้อมูลสถิติจากกระทรวงฯ ระบุว่า เฉพาะในเดือนกรกฎาคมเพียงเดือนเดียว คลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมภูมิภาคได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยตรงถึง 2.73 พันล้านหยวน และส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชน 5.5 ล้านคน

ภาพ: Zhong Guilin / VCG via Getty Images

อ้างอิง: