จีนสั่งปิดเมืองอู่ฮั่น หลังยอดเสียชีวิตไวรัสโคโรนาพุ่งเป็น 17 ราย ติดเชื้อทะลุ 500 หวั่นต้นตอระบาดมาจากงู

คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติจีน รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) ช่วงเช้าวันนี้ (23 มกราคม) พบผู้ติดเชื้อเสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 17 คนแล้ว ซึ่งทั้งหมดพบในเมืองอู่ฮั่น และหลายเมืองในมณฑลหูเป่ย

ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 550 คน โดยส่วนใหญ่ 444 คนพบในเมืองอู่ฮั่น และ 26 คนพบในมณฑลกวางตุ้ง ส่วนในกรุงปักกิ่งพบผู้ติดเชื้อ 14 คน และในเซี่ยงไฮ้พบ 9 คน ขณะที่การแพร่ระบาดนอกประเทศจีนพบว่า ในไทยมีผู้ติดเชื้อแล้ว 4 คน นอกจากนี้ยังมีญี่ปุ่นที่พบผู้ติดเชื้อ 1 คน เกาหลีใต้ 1 คน สหรัฐฯ 1 คน และไต้หวัน 1 คน

ขณะที่วันนี้ (23 มกราคม) ทางการจีนได้สั่งปิดพื้นที่บางส่วนของเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ โดยระงับบริการขนส่งสาธารณะเข้าออกเมืองทั้งหมด รวมถึงเครื่องบิน รถไฟ และเรือเฟอร์รี ตั้งแต่เวลา 10.00 น. วันนี้ (23 มกราคม) ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมประกาศเตือนประชาชนไม่ให้เดินทางเข้า-ออกเมืองชั่วคราว แต่ยังไม่มีการปิดถนน ส่งผลให้ชาวเมืองบางส่วนเร่งรีบไปยังสนามบินและสถานีรถไฟตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ (22 มกราคม) เนื่องจากไม่ต้องการถูกขังอยู่ภายในเมืองที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะถูกปิดไปอีกนานแค่ไหน

เมืองอู่ฮั่นถือเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีประชากรกว่า 11 ล้านคน ซึ่งใหญ่กว่ากรุงลอนดอนหรือนครนิวยอร์ก โดยมาตรการปิดเมืองดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความพยายามควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดก่อนถึงวันฉลองตรุษจีน หรือวันปีใหม่ของชาวจีนในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่าประชาชนทั่วประเทศจำนวนมากจะเดินทางกลับบ้านและอาจส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสถานีรถไฟในเมืองอู่ฮั่นถือเป็น 1 ใน 4 ศูนย์กลางสถานีรถไฟหลักของจีน

ขณะที่มาตรการสำคัญอีกอย่างคือการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งมีการบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ อาทิ ร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง และสนามกีฬา รวมถึงสถานที่ที่ประชาชนนิยมไปรวมตัวกัน

สำหรับต้นตอของการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เชื่อว่ามาจากตลาดค้าส่งอาหารทะเลภายในเมือง ซึ่งมีการขายเนื้อสัตว์อื่นๆ รวมถึงสัตว์ป่าอย่างนก กระต่าย ค้างคาว และงูด้วย

โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งได้เข้าตรวจสอบแหล่งกำเนิดไวรัส และได้เก็บตัวอย่างไวรัสจากสัตว์เหล่านี้นำมาเปรียบเทียบข้อมูลพันธุกรรมกับตัวอย่างไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พบว่ามีความคล้ายคลึงกับไวรัสที่พบในค้างคาว แต่ข้อมูลพันธุกรรมชี้ว่าคล้ายกับไวรัสที่พบในงูมากที่สุด และเป็นไปได้ที่ไวรัสชนิดใหม่นี้อาจเกิดจากไวรัสในค้างคาวและงูผสมรวมกันจนเกิดการกลายพันธุ์ ซึ่งเป็นไปได้ในกรณีที่สัตว์ทั้ง 2 ชนิดถูกเก็บไว้ใกล้กัน โดยทีมผู้เชี่ยวชาญยังคงต้องทำการวิจัยและหาหลักฐานที่น่าเชื่อถือต่อไป

ด้านทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลอนดอนประเมินตัวเลขผู้ติดเชื้อในเมืองอู่ฮั่นเพียงเมืองเดียวว่า มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงถึง 4,000 คนแล้ว โดยเป็นการประเมินคร่าวๆ อิงข้อมูลจากอาการของผู้ติดเชื้อที่แสดงให้เห็นค่อนข้างล่าช้า และเชื่อว่ายังมีผู้ติดเชื้ออีกมากที่ยังไม่แสดงอาการ

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: