การสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ต้องจับตามองในการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะสมาชิกชุดใหม่ของคณะกรรมการกรมการเมือง (Politburo) และคณะกรรมการประจำกรมการเมือง (Politburo Standing Committee: PSC) ที่จะมีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางของการเมืองจีนในอีก 5 ปีนับจากนี้ ยังไม่นับรวมตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการตรวจสอบวินัยส่วนกลาง (Central Commission for Discipline Inspection: CCDI) ซึ่งทำหน้าที่ปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศ ที่ก็จะได้รับการสรรหาในระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งนี้ด้วย
โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เพิ่งจะครบรอบ 100 ปี ไปเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา เป็นพรรคการเมืองที่มีจำนวนสมาชิกมากเป็นอันดับ 2 ของโลก (ราว 96.7 ล้านราย) เป็นรองเพียงพรรคภารตียชนตา (BJP) ของอินเดีย ที่มีสมาชิกพรรคมากที่สุดถึง 180 ล้านราย
สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนจากทั่วประเทศ ราว 2,300 ราย จะได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาแห่งชาติ (National Congress: NC) เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคที่จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี ซึ่งสมาชิกบางส่วนของ NC จะได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกคณะกรรมการกลาง (Central Committee: CC) ที่มีสมาชิกทั้งหมดอยู่ที่ราว 380 ราย ซึ่งตัวแทนเหล่านี้จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาสมาชิกโปลิตบูโรชุดใหม่ที่มีทั้งหมด 25 ที่นั่ง และโปลิตบูโรชุดใหม่นี้จะเลือกสมาชิกภายในกลุ่ม เข้ารับตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมืองที่มีอยู่ทั้งหมด 7 ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งนับเป็นกลุ่มผู้นำสูงสุดในระบบโครงสร้างการเมืองระดับชาติของจีน ที่จะกระจายไปนั่งเก้าอี้สำคัญๆ ในการบริหารประเทศต่อไป
โดยในการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งนี้ สมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมืองเบอร์ 1 ที่มีอำนาจสูงสุด จะนั่งควบตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ รวมถึงประธานาธิบดีจีนในต้นปีหน้า ซึ่งจะยังคงเป็น สีจิ้นผิง ผู้นำสูงสุดรุ่นที่ 5 ของจีน ในขณะที่สมาชิกเบอร์ 2-7 จะมีการสลับสับเปลี่ยนเกิดขึ้น ซึ่งผู้ที่ได้เป็นสมาชิกในลำดับที่ 2 คาดว่าจะได้รับเลือกในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีน ส่วนสมาชิกหน้าใหม่ หากมีผู้ที่มีอายุน้อยกว่าคนอื่นอย่างเห็นได้ชัดเข้าร่วมด้วย ก็อาจได้รับการจับตามองถึงความเป็นไปได้ว่ามีการวางตัวทายาททางการเมืองเกิดขึ้น
โฉมหน้าสมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมืองทั้ง 7 คน จะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สะท้อนนัยของเกมการเมืองของสีจิ้นผิงว่าจะยังคงเปิดพื้นที่ให้กับขั้วตรงข้ามทางการเมืองมีที่นั่งใน PSC หรือไม่ หรือสมาชิกทั้งหมดจะมาจากฝ่ายสนับสนุนสีจิ้นผิงทั้งหมด เพื่อกระชับอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ในการกุมบังเหียนประเทศจีนในช่วงอีกอย่างน้อย 5 ปีนับจากนี้
ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร
อ้างอิง: