รัฐบาลชิลีสร้างประวัติศาสตร์เป็นชาติแรกในอเมริกาใต้ที่ผ่านร่างกฎหมายแบนการใช้ถุงพลาสติกในท้องตลาดอย่างจริงจัง โดยให้ระยะเวลาธุรกิจห้างร้านขนาดใหญ่ 6 เดือนในการเลิกใช้ถุงพลาสติก ในขณะที่ธุรกิจร้านค้าขนาดเล็กยืดระบุเวลาออกไปเป็น 1 ปี
โดยภายในระยะเวลา 2 ปีนับจากนี้จะต้องไม่มีการใช้ถุงพลาสติกในประเทศนี้โดยเด็ดขาด ซึ่งในระหว่างนี้ก็จะมีการรณรงค์ให้ประชาชนใช้ถุงผ้าและกำหนดให้แต่ละคนใช้ถุงได้ไม่เกินคนละ 2 ใบ ซึ่งธุรกิจห้างร้านไหนฝ่าฝืนก็จะถูกปรับเป็นเงินราว 370 เหรียญสหรัฐ (ราว 12,200 บาท)
ทางด้าน เซบาสเตียน ปิเญรา ประธานาธิบดีชิลี ระบุว่า ถุงพลาสติกเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเล รวมถึงสุขภาพของมนุษย์ การประกาศใช้กฎหมายนี้จะมีส่วนช่วยทำให้ประเทศนี้สะอาดเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมของโลกได้อีกทางหนึ่ง
ปัจจุบันมีถุงพลาสติกเพียง 10% จากทั้งหมดกว่า 3.4 ล้านใบทั่วชิลีเท่านั้นที่กลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล โดยกฎหมายฉบับนี้เป็นความพยายามของคณะรัฐบาลชุดก่อนหน้าของ มีเชล บาเชเล ประธานาธิบดีหญิงคนแรกและคนเดียวของชิลี ที่เริ่มออกกฎหมายแบนการใช้ถุงพลาสติกในภูมิภาคปาตาโกเนีย
ชิลีไม่ใช่ประเทศเดียวในอเมริกาใต้ที่กำลังต่อสู้กับปัญหาขยะพลาสติกอยู่ในขณะนี้ แต่ยังรวมถึงเพื่อนร่วมทวีปอย่างปานามาและบราซิลอีกด้วย
อ้างอิง:
