วันนี้ (4 เมษายน) ธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมด้วย กรจักร ชูทิพย์ ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่, ลักขณา ศรีหงส์ ตัวแทนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมทั้งผู้สื่อข่าว ได้เข้าสำรวจพื้นที่พร้อมสังเกตการณ์สภาพตัวอาคารและบ้านพักในปัจจุบันของบ้านป่าแหว่ง โดยเป็นการเดินเท้าเข้าไปในเขตป่าบริเวณอ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง ภายในพื้นที่ของสำนักงานชลประทาน ที่ติดกับแนวรั้วของบ้านพักศาลอุทธรณ์ภาค 5
สำหรับการเข้าสำรวจพื้นที่ครั้งนี้ เบื้องต้นจะทำรั้วกั้นแบ่งพื้นที่บริเวณสะพาน ซึ่งทางชลประทานยินดีให้ใช้ถนนทางเข้าด้านข้าง โดยจะทำประตูเหล็กตรงทางเข้า ในกรณีประชาชนจะเข้าไปปลูกป่าในพื้นที่ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากศาลอีกต่อไป โดยครั้งนี้มีกรจักรร่วมสำรวจสภาพพื้นที่ เพื่อให้ทราบข้อมูลในการแก้ไขปัญหาและดำเนินการเรื่องต่างๆ เช่น การปลูกป่า การดำเนินการเรื่องครุภัณฑ์ต่อไป
จากการเข้าไปดูบ้านพักพบว่าตัวอาคารอยู่ในสภาพดี ครุภัณฑ์มีจำนวนกว่า 1,866 รายการ เช่น เตียง ตู้เย็น โต๊ะ เครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นของใหม่พร้อมใช้งาน โดยได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ว่า ได้ทำเรื่องส่งคืนไปที่ธนารักษ์เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงทางธนารักษ์ส่งจดหมายตอบกลับว่ารับมอบแล้ว ก็จะจบขั้นตอนการคืนพื้นที่และอาคาร 45 หลังนี้
ด้านกรจักรกล่าวว่า การรับคืนพื้นที่อาคารและบ้านพักของศาลอุทธรณ์ภาค 5 นั้น ในเรื่องสิ่งปลูกสร้างไม่มีปัญหาหรือติดขัดอะไร แต่จะเป็นเรื่องของการรับคืนครุภัณฑ์ที่นอกเหนือจากสิ่งปลูกสร้าง ทางธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ได้หารือไปยังกรมธนารักษ์ เพื่อขอให้เร่งรัดพิจารณาว่าครุภัณฑ์ต่างๆ สามารถรับคืนได้หรือไม่ โดยทางธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ได้ทำหนังสือส่งไปยังส่วนกลางเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้
อย่างไรก็ตาม หากรับคืนได้ก็จะสามารถดำเนินการส่งมอบพื้นที่ต่อได้ทันที ทั้งนี้หากมีการรับมอบแล้ว เบื้องต้นอาจจะบริจาคให้หน่วยงานต่างๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ เช่น กาชาด หน่วยงานราชการ องค์การกุศล และจะได้ส่งต่อไปพื้นที่ให้ชาวเชียงใหม่ได้ปลูกป่าและฟื้นฟูพื้นที่ตามวัตถุประสงค์ต่อไป โดยในส่วนของสิ่งปลูกสร้าง ทางเครือข่ายแจ้งว่าจะไม่รื้อ แต่จะปล่อยให้เป็นไปตามกาลเวลาต่อไป
เรื่องและภาพ: พงศ์มนัส ทาศิริ