×

“เราจะต้องอยู่ต่อไปอีก 117 ปี” ความรู้สึกจากแฟนฟุตบอลเชลซีกับอนาคตของสโมสร หลังยุคอบราโมวิช

14.03.2022
  • LOADING...
เชลซี

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • คำสั่งแบน โรมัน อบราโมวิช นอกจากสโมสรแล้ว อีกส่วนที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ คือ แฟนฟุตบอล ที่เวลานี้ทำอะไรไม่ได้แม้แต่จะอุดหนุนสินค้า เพราะคำสั่งของรัฐบาลห้ามไม่ให้ร้านค้าของสโมสรเปิดจำหน่ายสินค้าให้แก่แฟนๆ
  • “เชลซีอยู่มานานกว่า 117 ปี และเราต้องทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะอยู่ต่อไปในอีก 117 ปีข้างหน้า” หนึ่งในแฟนเชลซีกล่าว

‘โรมัน อบราโมวิช’ เสียงกู่ร้องจากบนอัฒจันทร์ในสนามสแตมฟอร์ดบริดจ์ดังขึ้นในช่วงนาทีที่ 65 ซึ่งเป็นอีกครั้งที่แฟนฟุตบอลเชลซีแสดงความจงรักภักดีต่อเจ้าของสโมสรชาวรัสเซียของพวกเขาที่กำลังจะกลายเป็นอดีตในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

 

ขณะที่แฟนนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งกำลังระเริงกับเจ้าของสโมสรใหม่ที่เป็นทุนจากซาอุดีอาระเบีย ร้องเพลงโต้ตอบอย่างเจ็บแสบว่า ‘ไม่มีเสียงตอบรับจากแฟนบอลทีมที่ถังแตก’

 

ช่วงระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ยากจะเชื่อสำหรับพวกเขา เมื่อรัฐบาลอังกฤษตัดสินใจอายัดทรัพย์ของอบราโมวิช ด้วยข้อหามีส่วนสนับสนุนรัฐบาลเครมลินในการก่อสงครามกับประเทศยูเครน ทำให้เชลซีซึ่งเป็นหนึ่งในทรัพย์สินของเขาต้องได้รับผลกระทบรุนแรงตามไปด้วย

 

จากทีมที่เพียบพร้อมทุกสิ่งและมีเจ้าของสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในโลกที่สามารถต่อกรกับทุนจากกลุ่มทุนตะวันออกกลาง วันนี้อบราโมวิชเป็นเจ้าของเชลซีแค่เพียงในนาม เขาถูกพรีเมียร์ลีกระบุว่าขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้อำนวยการสโมสร ซึ่งแปลง่ายๆ คือ นับจากนี้จะไม่มีสิทธิ์มีเสียงในการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับสโมสรอีกต่อไป

 

นั่นหมายถึงเชลซีจะไม่สามารถกลับสู่อ้อมอกของอบราโมวิชได้อีกต่อไป และการตัดสินใจเกี่ยวกับการขายสโมสรที่เขาลงทุนด้วยเงินมากกว่า 1.5 พันล้านปอนด์ตลอด 19 ปีที่ผ่านมาจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขาอีกต่อไป เพื่อเร่งกระบวนการในการขายสโมสรให้เกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว โดยที่ผลประโยชน์จากการขายสโมสรก็จะไม่ตกอยู่กับมหาเศรษฐีชาวรัสเซียด้วย ส่วนจะไปอยู่ตรงไหนยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามกันอีกที

 

การตัดสินใจดังกล่าวส่งผลต่อทุกภาคส่วนของสโมสร ไม่ว่าจะเป็นนักฟุตบอล ผู้จัดการทีม สตาฟฟ์โค้ช และเจ้าหน้าที่ของสโมสร

 

อีกส่วนที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ คือ แฟนฟุตบอล ที่เวลานี้ทำอะไรไม่ได้แม้แต่จะสนับสนุนสโมสรด้วยการอุดหนุนสินค้า เพราะคำสั่งของรัฐบาลห้ามไม่ให้ร้านค้าของสโมสรเปิดจำหน่ายสินค้าให้แก่แฟนๆ

 

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าใครจะทำอะไรกับสโมสรของพวกเขาแค่ไหนอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ชัดเจน คือ แฟนๆ ส่วนใหญ่พร้อมที่จะเผชิญกับอนาคตที่จะไม่มีอบราโมวิชอีกต่อไป

 

แอน เอมีส์ แฟนฟุตบอลผู้ถือตั๋วปีของสโมสรมาอย่างยาวนาน เป็นหนึ่งในคนที่ทำใจยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงได้

 

“ฉันเข้าใจที่แฟนบอลบางคนอาจจะรู้จักแค่อบราโมวิช แต่แฟนส่วนใหญ่นั้นอยู่ที่นี่มาก่อน เราผ่านอะไรมามากมายก่อนที่เขา (อบราโมวิช) จะมาหาพวกเรา และพวกเราก็จะคงอยู่ต่อไปต่อให้เขาไปแล้วก็ตาม”

 

อะไรมากมายในความหมายของเอมีส์ คือ ยุคที่เชลซีประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ก่อนที่ เคน เบตส์ นักธุรกิจผู้มีชื่อเสียง จะเข้ามากอบกู้สโมสรด้วยการควักเงินแค่ 1 ปอนด์

 

1 ปอนด์ของเบตส์ไม่ได้หมายถึง 1 ปอนด์จริงๆ แต่เป็นการเข้ามาช่วยนำสโมสรผ่านพ้นช่วงเวลามืดมนอนธการที่ถูกเหล่านักอสังหาริมทรัพย์พยายามรุมทึ้งสโมสร เพราะหมายปองที่ดินทำเลทองของสนามสแตมฟอร์ดบริดจ์

 

เชลซี

 

เรียกได้ว่าสถานการณ์ในตอนนั้นอาจจะหนักกว่าสถานการณ์ในปัจจุบันด้วยซ้ำไป เพราะถ้าเชลซีสูญเสีย ‘เดอะ บริดจ์’ ไปในวันนั้น พวกเขาก็ไม่รู้จะตกอยู่ในสภาพไหนเลย


จากปี 1982 เบตส์ค่อยๆ ประคองเชลซีจนเริ่มกลับมาแข็งแรง และเป็นหนึ่งในสโมสรหัวก้าวหน้าที่คว้าเอาซูเปอร์สตาร์จากต่างชาติเข้ามาในยุคหลัง ‘กฎบอสแมน’ ในปี 1995 โดยเฉพาะจากกัลโช เซเรีย อา ที่เป็นลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกเวลานั้น ทำให้แฟนๆ ได้ตื่นเต้นกับนักเตะอย่าง จานฟรังโก โซลา, รุด กุลลิต, จานลูกา วิอัลลี, แดน เปเตรสคู

 

ก่อนจะส่งต่อให้กับอบราโมวิชในราคา 140 ล้านปอนด์ในปี 2003 เข้าสู่ยุคทองในอีก 19 ปีต่อมา

 

ยังมีอีกหนึ่งแฟนที่ส่งเสียงของพวกเขาออกมา คือ แดน ซิลเวอร์ ซึ่งเป็นสมาชิกของ Chelsea Supporters’ Trust

 

“อบราโมวิชไปแล้ว เราจำเป็นต้องกลับมาสนใจในการนำสโมสรแห่งนี้ให้ก้าวไปสู่วันข้างหน้า เราต้องหาเจ้าของสโมสรที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะหาได้ เพื่อที่จะไม่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้อีกครั้งในอนาคต

 

“เชลซีอยู่มานานกว่า 117 ปี และเราต้องทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะอยู่ต่อไปในอีก 117 ปีข้างหน้า

 

“สโมสรแห่งนี้คือส่วนสำคัญของชีวิตผม ถ้าวันหนึ่งเราจะกลับไปมีแฟนบอลแค่ 6,000 คนในเกมวันเสาร์ก็ปล่อยให้มันเป็นไป ตราบใดที่เราจะยังมีสโมสรของพวกเราอยู่”

 

ขณะที่ทางด้าน แพท เนวิน อดีตปีกในตำนานของเชลซี แสดงความกังวลต่ออนาคตของสโมสรว่า “ผมรู้สึกว่าเชลซีจะอยู่รอดต่อไปได้ แต่คงจะไม่ได้อยู่ดีเหมือนช่วง 19 ปีที่ผ่านมา เพียงแต่เมื่อเวลาผ่านไป ต่อให้ไม่ได้แชมป์มากเท่าเก่า เชลซีก็น่าจะมีความสุขขึ้น

 

“นัดชิงลีกคัพ (เมื่อเดือนที่แล้ว) อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็นเชลซีเข้าชิงถ้วยใบใหญ่”

 

อย่างไรก็ดี ทุกคนจะได้เห็นอนาคตของเชลซีชัดเจนจริงๆ อีกครั้งเมื่อได้เจ้าของสโมสรใหม่เป็นที่เรียบร้อย และบางทีอนาคตนั้นอาจจะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดก็เป็นได้

 

แต่ก็เข้าใจหากโมงยามนี้ ความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจะทำให้หัวใจอ่อนไหวเป็นพิเศษ          

 

อ้างอิง:

FYI
  • Hyundai เป็นสปอนเซอร์รายล่าสุดที่ขอระงับการสนับสนุนเชลซีต่อจาก Three แต่ trivago และ Nike ยังให้การสนับสนุนตามเดิม
  • โธมัส ทูเคิล ยืนยันว่าจะอยู่คุมทีมจนจบฤดูกาลแน่นอน และพร้อมจะสู้เพื่อทุกคนที่สโมสร
  • ปีเตอร์ เช็ก ผู้อำนวยการสโมสรและอดีตผู้รักษาประตูในตำนานของทีม ยอมรับตรงๆ ว่าไม่แน่ใจว่าสโมสรจะมีเงินจ่ายค่าจ้างสตาฟฟ์หรือไม่
  • รัฐบาลอังกฤษมีการผ่อนปรนให้เชลซีมีงบประมาณสำหรับการจัดการในวันแข่งขัน (Matchday) สำหรับเกมเหย้าเพิ่มขึ้นจากเดิม 500,000 เป็น 900,000 ปอนด์ แต่สำหรับเกมเยือนยังอยู่ที่ 20,000 ปอนด์ ซึ่งทำให้มีปัญหาโดยเฉพาะการเดินทางในรายการแชมเปียนส์ลีก
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising