วันนี้ (29 มิถุนายน) เมื่อเวลา 06.10 น. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ลงพื้นที่โรงเรียนย่านลาดพร้าว เพื่อพูดคุยกับ กัลชนา เนตรวิจิตร พนักงานกวาดถนนสำนักเขตจตุจักร ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์นักเรียนถูกจี้ชิงทรัพย์เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมตรวจดูสภาพความปลอดภัยถนนโดยรอบโรงเรียน
กัลชนากล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ขณะที่ตนเองกำลังเดินทางไปทำงานเห็นคนร้ายมองตั้งแต่ตนเองขี่รถมาแล้ว และตอนนั้นต้นไม้รอบๆ กิ่งก้านมันห้อยลงมา ไม่มีไฟส่องสว่าง ตนรู้สึกแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นคนคนนี้ จากนั้นขณะที่กำลังจะหยิบไม้กวาดมากวาดถนนที่ซอยใกล้กันเห็นคนร้ายเดินมาจากฝั่งถนนวิภาวดีและเข้าไปประกบเด็กนักเรียนเหมือนบังคับ ตนนึกว่ามีการลวนลาม ตอนแรกไม่กล้าเข้าไปช่วยเพราะตนเองก็เป็นผู้หญิง เลยไปตามหาคนช่วย และบอกอาจารย์ในป้อมว่าให้ไปช่วย พอกลับมาคนร้ายก็วิ่งหนีไปแล้ว
โดยหลังฟังคำบอกเล่าชัชชาติ ได้ยกมือไหว้และกล่าวขอบคุณที่ช่วยเป็นหูเป็นตา คอยสังเกต และชื่นชมว่ามีไหวพริบดีมาก พร้อมกล่าวภายหลังตรวจดูโรงเรียนเบื้องต้นว่า บริเวณรอบโรงเรียนพบว่ามีจุดที่เปลี่ยวที่เดินจากถนนใหญ่เข้ามา คือถนนพหลโยธิน และเด็กบางคนมาโรงเรียนแต่ 05.30 น.
จากนี้ทางโรงเรียนคงมีการสั่งการดูแล ส่วนกรุงเทพมหานคร (กทม.) ต้องเน้นดูโรงเรียนในสังกัด 437 แห่งเป็นหลัก โดยจะให้เทศกิจมาช่วยดูบริเวณทางข้ามถนน และจะต้องหารือให้ดูจุดที่มีความเสี่ยงเพิ่มเติม ว่าตรงไหนเป็นจุดที่เสี่ยงก่อให้เกิดอาชญากรรม รวมถึงคงต้องขอความร่วมมือกับตำรวจเพราะ กทม. อาจจะไม่ได้มีกำลังพลเพียงพอที่จะดูแลทุกโรงเรียน
“โดยปกติแล้วโรงเรียนจะอยู่ใกล้ตลาด ใกล้ชุมชน เทศกิจก็ต้องทำหน้าที่แถวนั้นอยู่แล้ว ซึ่งช่วงเช้าและช่วงเย็นก็จะขอให้แวะมาดูหน้าโรงเรียนเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและความปลอดภัยด้วยมองว่า แต่ละโรงเรียนต้องช่วยดูเรื่องจุดเสี่ยงเพิ่มเติมด้วย เพราะจะเข้าใจว่าเด็กนักเรียนมาถึงกี่โมง เส้นทางไหนที่เด็กเดินทางเป็นประจำ และหากมีปัญหาส่วนไหน ทั้งเรื่องต้นไม้ ไฟส่องสว่าง กล้อง CCTV กทม. จะเข้าไปช่วยดำเนินการให้” ชัชชาติกล่าว
ชัชชาติกล่าวต่อไปว่า วันนี้จะมีการประชุมทั้ง 50 เขต ต้องเน้นว่าให้ช่วยเป็นหูเป็นตา ดูเรื่องความปลอดภัย ซึ่งมีพนักงานกวาดถนนและพนักงานรักษาความสะอาดมีกว่า 10,000 คน ก็ให้ดูหลายเรื่อง ทั้งเรื่องความปลอดภัย ไฟส่องสว่างที่ชำรุด ทางม้าลายที่ซีดจาง เหมือนเรามีหูมีตาอยู่ ซึ่งจะเน้นให้ดูในหลายๆ มิติ ทั้งเรื่องความปลอดภัยและความไม่ปลอดภัยในมิติอื่นๆ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะนำไปเป็นบทเรียนและขยายผลต่อให้เกิดความปลอดภัยทั้ง กทม. ให้ได้ ส่วนโรงเรียนไหนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษหรือไม่นั้น ตนมองว่า ต้องดูพื้นที่ ลักษณะรูปแบบ โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ. อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำรวจว่าโรงเรียนลักษณะแบบไหนที่มีความเสี่ยงก็จะดูแลเป็นพิเศษ
