เมื่อปี 2013 โรงแรม Park Hyatt Siem Reap ได้เปิดตัวในฐานะโรงแรมลักซูรีแห่งแรกๆ ของกัมพูชา นี่คือโรงแรมลักซูรีที่มีความเป็นบูติกโฮเทลอันเป็นสิ่งที่คงไว้จาก Hotel De La Paix โรงแรมก่อนหน้าที่จะรีโนเวต Park Hyatt Siem Reap ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเสียมราฐ โดยห่างจากมรดกโลกอย่างนครวัดเพียง 15 นาทีเท่านั้น

(บน) เราขอเรียกเธอว่า ‘บัวชมพู ฟอร์ด’

(ล่าง) ต้นไทรอายุเฉียดร้อยตั้งสง่ายามค่ำ

The Mood

ทันทีที่เดินเข้า เราได้พบกับรูปปั้นหญิงสาวถือดอกบัวสีชมพูทำท่ากระมิดกระเมี้ยนคอยต้อนรับภายใต้โดมเพดานสูงสีขาวสง่ารับแสงธรรมชาติ ที่แม้จะไม่ได้โอ่อ่าใหญ่โตด้วยขนาด แต่กลับมีมนต์ขลังบางอย่างที่ชวนประทับใจ อาจเป็นเพราะได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมของนครวัด โรงแรมแห่งนี้ได้รับการออกแบบใหม่โดย บิล เบนส์ลีย์ (Bill Bensley) พ่อมดขมังเวทย์ชาวอเมริกันผู้ขยันออกแบบรีสอร์ตหรูให้สดใหม่ แปลกตาที่สุดคนหนึ่งของยุค แต่ด้วยความเป็นแบรนด์ Park Hyatt อันถือความเรียบง่ายแต่หรูหรา บวกกับส่วนประกอบของวัฒนธรรมมรดกโลกของเสียมราฐแล้ว โรงแรมแห่งนี้จึงคงความเรียบ ความโคโลเนียลดั้งเดิม แต่ยังฉาบไปด้วยการเล่นกับเส้น สีสัน และแสงธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเบนส์ลีย์ที่นำมาผนวกกับรายละเอียดอันได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติที่รายล้อมตัวเมือง และศิลปะแบบเขมร เห็นได้จากการใช้พื้นไม้ สีชมพูจากดอกบัว

(บน) ห้อง Presidential Suite

(ล่าง) ห้องนั่งเล่น Rooftop Garden Suite

The Room

ห้องนอนทั้งหมดมีจำนวน 104 ห้อง แบ่งเป็นห้องสวีท 13 ห้อง ซึ่งมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่ 4 ห้อง โดยแต่ละห้องมีความสุขุมและเรียบง่าย ไม่หวือหวาดั่งงานดีไซน์ของเบนส์ลีย์ที่เราคุ้นเคย (อาทิ The Slate ภูเก็ต หรือ JW Marriott Phu Quoc เวียดนาม) แต่ละห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ได้รับแสงธรรมชาติได้อย่างพอเพียงเท่ากัน ห้องอาบน้ำหินอ่อนสวยงาม แรงดันน้ำกำลังดี น้ำอุ่นสบายตัวเหมาะแก่การจุ่มตัวลงแช่หลังจากออกไปเริงร่าที่ผับสตรีทมาค่อนคืน แนะให้เลี่ยงห้อง Park King 213, 311 และ 313 หากไม่อยากได้วิวป้ายบิลบอร์ดชวนเสียอารมณ์

(บน) เปลชิงช้าสำหรับรับประทานอาหารหรือจิบชาฝีมือ บิล เบนส์ลีย์

(กลาง) ห้อง The Dining Room  

(ล่าง) ก๋วยเตี๋ยวสูตรเขมรกับแชมเปญยามเช้า

The Bites

เสียมราฐถือเป็นเมืองที่มีอาหารการกินให้เลือกเพียบ แต่ด้วยวัฒนธรรมตะวันตกที่คาคั่งเข้ามาแล้ว การหาอาหารพื้นๆ บ้านๆ กลับไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ดังนั้นถือเป็นโชคดีมากถ้าที่พักเสิร์ฟอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ ให้ได้ฝากท้องกันไม่เบื่อ ซึ่งที่นี่ตอบโจทย์ เพราะห้องอาหาร The Dining Room เสิร์ฟอาหารเช้าและเย็น โดยมีทั้งอาหารยุโรป รวมถึงอาหารกัมพูชาสดใหม่จากวัตถุดิบท้องถิ่นให้เลือกหม่ำ ตลอดจนเมนูฟิวชันอย่างผัดผักนานาชนิด และสเต๊กเนื้อพริกไทย ที่ใช้พริกไทยจากกัมปอต ทำให้เผ็ดร้อนแต่หอมขึ้นใจ หากโชคดีคุณอาจได้รับประทานไอศกรีมพริกไทยฝีมือเชฟตบท้ายอีกด้วย

(บน) บาร์และโต๊ะนั่งรับประทานข้าวกลางวันที่ The Living Room

(ล่าง) สีชมพูจากดอกบัวแต่งแต้มไปทั่วห้องนั่งเล่น

ถ้าอยากหาที่นั่งจิบไวน์ก่อนกินข้าวเย็น หรือจิบชากาแฟยามบ่าย ขอเชิญที่ห้อง Living Room Lounge ที่มีโซฟาตัวใหญ่เหมาะนอนเอกเขนกขณะรับบรรยากาศเอาต์ดอร์ที่ไม่ร้อนเกินทน หรือจะหม่ำอาหารกลางวันด้านในรับแอร์เย็นๆ หลังจากเดินชมวิหารต่างๆ จนเหนื่อย ที่นี่ก็มีอาหารกลางวันง่ายๆ ถูกปากคนไทยแน่นอนอย่างข้าวผัดเนื้อ หรือสปาเกตตีซอสต่างๆ ที่เชฟทำได้อร่อยเด็ดไม่ผิดหวังเลย

ปลุกความสดชื่นด้วยไอศกรีมโฮมเมดยามบ่ายที่ The Glass House

คนชอบ Pastry ขอเชิญที่ห้อง The Glass House ที่เสิร์ฟขนมปังอบใหม่ร้อนๆ สไตล์ฝรั่งเศส รวมถึงไอศกรีมโฮมเมดทำเองอีกหลายรสที่น่าลองอย่างรสคาราเมล รสแมคาเดเมีย ฯลฯ หรือจะสั่งมาพร้อมกับกาแฟเติมพลังงานระหว่างวันก็ดีงาม นอกจากนั้นยังมีอาหารว่างให้รองท้องนานาชนิดที่ทำสดใหม่ เหมาะแก่การรองท้องยามบ่าย หรือตอนเช้าที่จำต้องรีบออกไปตระเวนข้างนอก มุมนี้ยังสีสันสวยงาม รู้สึกสว่างตาแตกต่างจากสีคุมโทนเรียบๆ ของห้องพัก เชื่อว่าดึงดูดให้ยกกล้องถ่ายรูปมาแชะภาพได้พอประมาณเลย

(บน) สระว่ายน้ำชั้นล่าง

(ซ้าย) การแสดงหุ่นเชิดริมสระยามค่ำ

(ขวา) มุมหลบแดดของสระชั้น 2

What to Do

• โรงแรมมีสระน้ำ 2 สระด้วยกันให้เลือกว่ายบริเวณชั้นล่าง และชั้น 2 โดยมีความสวยให้เลือกว่ายแตกต่างกันไป
• ฟิตเนสเซนเตอร์ของที่นี่เปิด 24 ชั่วโมง เหมาะกับคนชอบออกกำลังกายยามดึก หรือคนนอนไม่หลับเอามากๆ
• หากคุณเคยมาเสียมราฐครั้งแล้วครั้งเล่า แนะให้ติดต่อโรงแรมให้รถตุ๊กตุ๊ก พาชมเขตนอกเมืองที่ยังไม่พัฒนาเท่ากับย่านกลางเมือง ได้ชมบรรยากาศต่างจังหวัดของไทย และชมวิถีชีวิตของคนเสียมราฐที่แท้จริง
• ด้วยโลเคชันที่อยู่ใจกลางเมืองทำให้เดินทางสะดวก เราสามารถเดินไปยังผับสตรีท ถนนเส้นที่ตื่นขึ้นมามีชีวิตยามค่ำคืน จะว่าไปไม่ต่างจากถนนข้าวสารสักนิด แต่แตกต่างตรงที่รถขายแมลงกลายเป็นรถขายงูเสียบไม้ที่ชวนสะดุดตา
• ชมนครวัด สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่พลาดไม่ได้ แนะนำให้ไปแต่เช้าเพื่อเลี่ยงฝูงชนและแดดที่แผดเผาเอาการ

ร้าน Miss Wong

Our Favourites

• สระบริเวณชั้น 2 หน้าฟิตเนสเซ็นเตอร์มีความพิเศษตรงที่ดีไซน์ให้เหมือนบ่อน้ำตามธรรมชาติในเอเชีย ร่มรื่นด้วยต้นไม้ที่ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ และมีสะพานข้าม รวมไปถึงมุมเบาะนุ่มๆ ให้อิงแอบริมสระที่ช่วยให้หลบแดดเผายามบ่ายได้ หรือสั่งเครื่องดื่มมาจิบคู่กับหนังสือสักเล่ม ไปจนแนบชิดกับคนรักมุมนี้ก็เหมาะ
• ผับสตรีทมีบาร์เด็ดๆ อาทิ Yellow-Sub ที่มีบริเวณดาดฟ้าให้ฟังเพลงร็อกคลาสสิกอย่าง The Beatles เคล้าค็อกเทล หรือเดินอีกนิดจะพบบาร์จีนอย่าง Miss Wong (ที่ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับร้านชื่อใกล้เคียงกันแถวสาทรซอย 1 บ้านเรา) ที่มีเมนูค็อกเทลจำพวกจินกับวอดก้าที่น่าสนใจ กับการตกแต่งร้านด้วยโคมแดงสดใสดึงดูดสายตา
• หากอยากขยับแข้งขยับขา ขอเชิญที่ร้าน Angkor What? ที่เด่นเพลงฮิปฮอป อาร์แอนด์บี ขุดมาตั้งแต่ยุค 80s ตอนปลายยันยุคปัจจุบันที่อาจทำคุณเต้นไม่มีหยุดไปทั้งคืน

Park Hyatt Siem Reap

Address: Sivutha Boulevard Siem Reap, Cambodia

Budget: เริ่มต้นที่ 15,000 บาทต่อคืน

Contact: +85 5 6321 1234

Website: siemreap.park.hyatt.com

Map: 

Photos: Park Hyatt Siem Reap