วันนี้ (22 กรกฎาคม) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย ภายหลังการหารือร่วมกันระหว่างตัวแทนพรรคชาติพัฒนากล้าและพรรคเพื่อไทยในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตและหาทางออกของประเทศร่วมกัน รวมถึงแนวทางการเข้าร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ คณะหารือได้ร่วมกันแถลงข่าว
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องขอบคุณประธานพรรคชาติพัฒนากล้าและคณะที่ได้ตอบรับมาร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาให้ประเทศ กรณีที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้รับภารกิจจากพรรคก้าวไกล และได้เอาแนวทางจากที่ประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลมาแสวงหาดำเนินการให้ได้มาซึ่งเสียงสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าเป็นพรรคที่ 2 ที่ได้หารือ
ด้าน สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ระบุว่า ขอขอบคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและคณะ ในฐานะแกนนำ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่ได้ให้เกียรติเชิญพรรคชาติพัฒนากล้ามาปรึกษาหารือการจัดตั้งรัฐบาล ถือว่าครั้งนี้เป็นการเชิญครั้งที่ 2 ของการจัดตั้งรัฐบาลในชุดนี้
ทั้งนี้ ก่อนที่จะมาหารือกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและคณะ พรรคชาติพัฒนากล้าได้มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดท่าทีในการเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อให้เกิดความชัดเจน ซึ่งวันนี้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการได้มีการประชุมมีมติพรรคในเรื่องของจุดยืนในการเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้
สุวัจน์กล่าวต่อว่า พรรคชาติพัฒนากล้ายินดีที่จะให้การสนับสนุน ถ้ามีการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งให้ลุล่วงโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศในการบริหารบ้านเมือง เพราะขณะนี้ประเทศมีวิกฤตหลายด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ประชาชนรอการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
พรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืนนโยบายทางการเมืองที่ได้หาเสียงและได้ดีเบตในเวทีสาธารณะต่างๆ ที่ได้ประกาศต่อสาธารณชนในช่วงก่อนครั้งเลือกตั้งเป็นประเด็นที่สำคัญทั้งหมด 4 เรื่อง วันนี้ที่ประชุมพรรคมีมติให้การรับรองทั้ง 4 เรื่องนี้ให้เป็นเงื่อนไขที่สำคัญในการเข้าร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย
- พรรคชาติพัฒนากล้าจะสนับสนุนให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่ส่งเสริมรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อให้เกิดเสถียรภาพทางการเมือง ทำให้การบริหารประเทศนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างลุล่วง
- พรรคชาติพัฒนากล้ามีแนวทางชัดเจนที่จะสนับสนุนพรรคอันดับ 1 ที่จะริเริ่มจัดตั้งรัฐบาล และถ้าพรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ พรรคลำดับรองลงมาจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้เป็นไปตามเสียงของพี่น้องประชาชน
- พรรคชาติพัฒนากล้าอยากเร่งรัดให้มีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ ที่ประชาชนเดือดร้อนอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องสินค้าราคาแพง
- พรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืนนโยบายแนวทางการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 เรามีจุดยืนที่ประกาศไว้ก่อนการเลือกตั้งว่า เราขอคงไว้และจะไม่มีการแก้ไขแต่อย่างใด
สุวัจน์กล่าวต่อว่า พรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืนจะรักษาแนวนโยบายทางการเมืองและคำมั่นสัญญาในฐานะพรรคการเมืองที่ให้กับประชาชน เพื่อสร้างบรรทัดฐานและมาตรฐานทางการเมือง และส่งเสริมภาพลักษณ์ทางการเมืองไทยว่าพรรคการเมืองพูดอะไรไว้และทำในสิ่งนั้น
ฉะนั้นหลังจากที่มีการประชุมรัฐสภาแล้ว 2 ครั้งและไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรี จนนำไปสู่การเปลี่ยนแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคการเมือง จากพรรคก้าวไกลเป็นพรรคเพื่อไทย
พรรคชาติพัฒนากล้าเชื่อว่าตามโครงสร้างพรรคการเมืองที่ประกอบแล้วมีเสียงข้างมาก ไม่ได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยเฉพาะภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำ จะนำไปสู่การบริหารประเทศและการแก้ไขวิกฤตการณ์ด้านเศรษฐกิจต่างๆ ให้ลุล่วง
ทั้งนี้ พรรคชาติพัฒนากล้ามีความเห็นและเชื่อมั่นภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายมติของพรรคชาติพัฒนากล้าที่ได้ประกาศไว้เกือบทุกข้อ ยกเว้นประเด็นเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เป็นของพรรคก้าวไกลที่เป็นหนึ่งในพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
สุวัจน์กล่าวยืนยันว่า วันนี้มติพรรคชาติพัฒนากล้าพร้อมเข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย แต่ทั้งนี้การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นแนวคิดที่ต่างกันในเชิงนโยบายกับพรรคชาติพัฒนากล้า ถ้าท้ายที่สุดยังมีนโยบายนี้อยู่ พรรคชาติพัฒนากล้าก็จะไม่สามารถร่วมรัฐบาลได้
ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวสรุปอีกครั้งหนึ่งในตอนท้ายว่า พรรคชาติพัฒนากล้าขณะนี้มีเงื่อนไขในการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยเพียงข้อเดียว คือเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยจะต้องนำคำตอบนี้เข้าไปในที่ประชุมหารือใน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
ภายหลังการหารือ นพ.ชลน่าน และแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้พาสุวัจน์และแกนนำพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าไปยัง ThinkLab Creative Space and Cafe พร้อมนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะร่วมรับประทาน ‘ช็อกโกแลตมินต์’ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตประจำพรรคเพื่อไทย โดยสุวัจน์กล่าวให้คะแนนความอร่อยของเมนูดังกล่าวอยู่ที่ 9.9 คะแนน ส่วนคะแนนที่เหลือขอเป็นการเข้ามารับประทานที่พรรคทุกวัน ขณะเดียวกันได้อวยพรขอให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ
