ครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์หรูอย่าง Chanel ทำเงินได้ 5 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.7 แสนล้านบาทในปีที่แล้ว เนื่องจากความต้องการสินค้าฟุ่มเฟือยทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ความมั่งคั่งที่สะสมมาหลายชั่วอายุคนเติบโตขึ้นไปอีกขั้น
ครอบครัว Wertheimer ได้รับเงินปันผลจำนวน 2.5 พันล้านดอลลาร์จาก Chanel ในปี 2021 ผ่านบริษัทโฮลดิ้งที่ตั้งอยู่ในหมู่เกาะเคย์แมน ตามเอกสารที่ยื่นต่อสหราชอาณาจักร เป็นการจ่ายเงินประจำปีที่ใหญ่ที่สุดจากผู้ค้าปลีกน้ำหอม No.5 อันโด่งดัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไม่อยากให้ต่อคิวและเจอคนแน่นร้านเกินไป! Chanel วางแผนเปิดร้านสำหรับลูกค้า Top Spending เท่านั้น คาดเปิดแห่งแรกในเอเชียปี 2023
- Chanel ทำยอดขายไป 15.6 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2021 กระโดดขึ้น 22.9% หากเทียบกับปี 2019 ก่อนโควิด
ความร่ำรวยของครอบครัว Wertheimer เพิ่มขึ้น 37% ในปีนี้ เป็น 9 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 3.1 ล้านล้านบาท ตามรายงานของ Bloomberg Billionaires Index
ความต้องการผลิตภัณฑ์แบรนด์ Chanel ทั่วโลกเพิ่มขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับป้ายราคาที่ขยับขึ้นตามไปด้วย กระเป๋าแบบมีฝาปิดขนาดเล็กแบบคลาสสิกขายได้ในราคา 8,200 ดอลลาร์ในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 60% จากเดือนพฤศจิกายน 2019
ในขณะที่ลูกค้าที่ร้านในปารีสถูกจำกัดให้ซื้อทีละใบ โดยรอ 2 เดือนก่อนที่จะซื้ออีกใบ นักช้อปในกรุงโซลเข้าแถวหน้าบูติกของ Chanel ตอน 05.00 น. เพื่อลุ้นว่าจะสามารถซื้อกระเป๋าเงินมูลค่า 9,500 ดอลลาร์ได้หรือไม่
ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นยังเน้นให้เห็นถึงวิธีที่คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปกป้องความมั่งคั่งของพวกเขา หมู่เกาะเคย์แมนไม่ได้เก็บภาษีจากเงินปันผลสำหรับธุรกิจในท้องถิ่น ในขณะที่สหราชอาณาจักรมักไม่เรียกเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับเงินปันผลที่จ่ายจากบริษัทอังกฤษไปยังอีกบริษัทหนึ่งในต่างประเทศ
ครอบครัว Wertheimer ก่อตั้ง Les Parfums Chanel ในปี 1924 เพื่อผลิตและจำหน่ายน้ำหอม No.5 ของนักออกแบบแฟชั่น โคโค่ ชาแนล อแลง วัย 73 ปี และเจอราร์ดวัย 71 ปีได้รับช่วงต่ออาณาจักร Chanel ตั้งแต่การจากไปของฌาคผู้เป็นพ่อในปี 1996 แต่ทั้งคู่ไม่ค่อยชอบที่จะออกสื่อมากนัก
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP