วันนี้ (26 ก.ค.) เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวชี้แจงถึงนโยบายของคณะรัฐมนตรี ต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้งของประเทศไทยในขณะนี้ โดยระบุว่าสถานการณ์ภัยแล้งของไทยเกิดจากฝนตกทิ้งช่วงไป 2-3 เดือน ในขณะนี้เริ่มดีขึ้น เนื่องจากมีลมมรสุมพัดผ่านประเทศไทย ทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้มีปริมาณน้ำเติมเข้าเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนภูมิพลเฉลี่ยวันละ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้ง แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรก การแก้ไขในระยะเร่งด่วน
โดยทางกระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และสำหรับในกรณีที่เกิดภาวะวิกฤตหรือมีปริมาณน้ำน้อยมาก ก็ต้องบริหารจัดการน้ำที่เหลืออยู่ให้เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค และภาคการเกษตร เพื่อลดความเสียหายให้น้อยที่สุด ส่วนพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากภัยแล้งไปแล้วนั้น ตนได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรอำเภอและเกษตรตำบล ทุกพื้นที่ ทำงานสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องทุกวัน นอกจากนี้ได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร บินสำรวจหาชั้นบรรยากาศที่เหมาะสมกับการทำฝนเทียมทุกวัน ทุกพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรที่เพาะปลูกพืชหน้าเขื่อนได้รับผลประโยชน์
เฉลิมชัยกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในระยะยาวว่า ตนได้สั่งการให้กรมชลประทานและหน่วยงานในสังกัดทำการสำรวจพื้นที่เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ทั้งฝายและแก้มลิง และทำการศึกษาแนวทางการเพิ่มปริมาณน้ำให้กับเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนภูมิพล เนื่องจากต้องจัดสรรน้ำให้กับพื้นที่ทำการเกษตรขนาดใหญ่
ทั้งนี้ ส่วนตัวพร้อมรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะของสมาชิกรัฐสภา เพื่อนำไปปรับใช้ในการจัดทำนโยบายแก้ปัญหาภัยแล้งทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: