วันนี้ (1 กุมภาพันธ์) ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์รายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ดำเนินรายการโดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ เผยแพร่ทางช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30
กรณีมีประเด็นตอบโต้กับ ไผ่ ลิกค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดกำแพงเพชร 1 ใน 21 ส.ส. พรรคพลังประชารัฐที่ถูกขับออก โดย ไผ่ ลิกค์ เป็นคนสนิทของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส. พะเยา อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ
ชัยวุฒิให้สัมภาษณ์ว่า ได้คุยกับนักข่าวที่ให้วิเคราะห์หรือประเมินสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ไป จึงได้บอกว่าถ้าพรรคพลังประชารัฐคะแนนนิยมไม่ดีหรือไม่เวิร์ก นักการเมืองบางคนก็อาจจะไปอยู่พรรคอื่นหรือไปตั้งพรรคการเมืองใหม่แล้วไปร่วมรัฐบาลกับอีกพรรคซึ่งเป็นฝ่ายค้าน จึงไปตรงกับท่านที่มีกระแสการเมืองอยู่ แต่นักข่าวบางคนเอาไปเขียนแรง เขียนค่อนข้างลบ จึงได้โทรไปคุยกับนักข่าวว่าไม่ได้พูดแรงขนาดนั้น
เป็นการวิเคราะห์ข้อเท็จจริง เวลาพรรคการเมืองใดมีปัญหามีความแตกแยก คนก็อาจจะออกไปตั้งพรรคใหม่ เป็นเรื่องจริง บางคนอาจจะไปรวมกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคอื่น
“ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์หรือตำหนิใคร แต่ข่าวเขียนไปในทางว่าผมไปตำหนิคนอื่น พยายามเคลียร์แล้วว่าเราไม่ได้พูด ได้โทรคุยกับคุณไผ่ ลิกค์ โดยพยายามอธิบายว่าเราไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่ได้ไปตำหนิใคร ได้ให้สัมภาษณ์นักข่าว แต่นักข่าวเขียนในเชิงลบ ซึ่งผมไม่ได้มีเจตนาดิสเครดิตใคร”
ผู้ดำเนินรายการถามว่าจะเคลียร์กับ ร.อ. ธรรมนัส ก่อนมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาหรือไม่
ชัยวุฒิกล่าวว่า ก็คงต้องเคลียร์หลังจาก ร.อ. ธรรมนัส กลับไทย ส่วนตัวกับ ร.อ. ธรรมนัสและกลุ่มนั้นรู้จักคุ้นเคยกันดี ไม่ได้ทะเลาะกัน เพียงแต่ได้ให้ข้อเท็จจริงบางอย่างที่นักข่าวมาถาม ทำให้เกิดการกระทบกับบางคนซึ่งไม่ได้เจตนา
ผู้ดำเนินรายการถามว่าในฐานะเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ทำไมพรรคพลังประชารัฐแพ้ยับเยินขนาดนั้น
ชัยวุฒิกล่าวว่า ประกอบด้วยหลายเรื่อง ทั้งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมของพรรคมีจุดอ่อน รวมถึงกระแสพรรคก็มีความขัดแย้ง ทำให้คนไม่เชื่อมั่น เพราะมีการแยกพรรค มีการขับออกจากพรรค ก็มีส่วนเช่นกัน และสุดท้ายปัญหาเศรษฐกิจ มีเรื่องข้าวยากหมากแพง ประชาชนไม่พอใจปัญหาปากท้อง รัฐบาลช่วงนี้ก็โดนด่าอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ง่ายเนื่องจากเป็นปัญหาทั่วโลก แต่เชื่อว่านายกฯ และรัฐบาลแก้ปัญหาถูกทางแล้ว เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ กระแสการเมืองอาจจะดีขึ้นในอนาคต ไม่กังวลว่ารัฐบาลจะไปต่อไม่ได้
